ฟิทช์เพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศหุ้นกู้ ของ ไทยโอเลฟินส์ และคาดว่าจะให้อันดับเครดิตแก่ PTT Chemical

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาว แก่หุ้นกู้มีหลักประกันของบมจ ไทยโอเลฟินส์ (“TOC”) เป็น A(tha) จาก A-(tha) (A ลบ (tha)) พร้อมทั้งประกาศคงเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นบวก จากการที่ TOC จะมีการควบบริษัทกับ บมจ ปิโตรเคมีแห่งชาติ (“NPC”) โดยที่ NPC มีอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ AA-(tha) (AA ลบ (tha)) และมีเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ สำหรับอันดับเครดิตของ PTT Chemical ซึ่งจะเป็นบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบบริษัทระหว่าง TOC และ NPC ฟิทช์คาดว่าจะให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ A+(tha) และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ F1(tha) แก่หนี้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิ ซึ่งรวมถึงหุ้นกู้ที่ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิที่จะรับโอนจาก NPC และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ AA-(tha) (AA ลบ (tha)) แก่หุ้นกู้ที่มีหลักประกันที่จะรับโอนจาก TOC หลังจากการควบบริษัทเสร็จสมบูรณ์แล้ว การเพิ่มอันดับเครดิตของหุ้นกู้ของ TOC ในครั้งนี้ สะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นของบริษัท ซึ่งเป็นผลมาจากผลการดำเนินงานที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์ได้ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงการเริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์ของโรงโอเลฟินส์โรงที่ 2 ในช่วงปลายปี 2547 สถานะทางการเงินของ TOC ได้มีการฟื้นตัวอย่างชัดเจนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยบริษัทสามารถลดอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (net debt to EBITDA) มาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 1.0 เท่า ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2548 ถึงแม้ว่าระดับหนี้สินของบริษัทอาจเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นรวมถึงการคาดการณ์ว่าราคาผลิตภัณฑ์จะยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ คาดว่าจะช่วยทำให้ TOC มีความยืดหยุ่นทางด้านการเงินเพียงพอที่จะสนับสนุนแผนการลงทุนขนาดใหญ่ของบริษัทในช่วงปี 2548 และ 2549 ได้ ในขณะเดียวกัน รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายการลงทุนไปในผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องขั้นปลายจะช่วยเพิ่มเสถียรภาพของกำไรโดยรวมของบริษัทในปี 2550 เป็นต้นไป ในระยะยาว TOC มีเป้าหมายที่จะรักษาระดับอัตราส่วน total debt/EBITDA และ net debt to EBITDA ให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 2.5 เท่า และ 2.0 เท่า ตามลำดับ อันดับเครดิตของ TOC สะท้อนถึงการได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นใหญ่ - บมจ ปตท. (“PTT”) ซึ่งมีอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ AA+(tha) แนวโน้มเป็นบวก โดยการสนับสนุนอยู่ในรูปของสัญญาซื้อวัตถุดิบระยะยาวและสัญญาขายเอทิลีนระยะยาว รวมถึงความยืดหยุ่นของการใช้วัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นจากโรงโอเลฟินส์โรงที่ 2 ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นวัตถุดิบ และการที่ TOC มีสัญญาขายโอเลฟินส์ระยะยาวกับผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องขั้นปลายรองรับ อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงลักษณะความผันผวนที่สูงของราคาผลิตภัณฑ์ตามวัฏจักรอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ความเสี่ยงในด้านการผลิตในช่วงเริ่มต้นสำหรับโครงการลงทุนในผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องขั้นปลาย รวมถึงการที่ TOC มีแผนการใช้เงินลงทุนที่สูงและมีการกระจายตัวของฐานลูกค้าที่ต่ำโดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าในประเทศ ฟิทช์กล่าวว่าอันดับเครดิตที่คาดว่าจะให้แก่ PTT Chemical อยู่บนพื้นฐานของการคาดการณ์ว่าบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบบริษัทจะมีความสำคัญต่อ PTT มากขึ้น เนื่องจาก PTT มีความประสงค์จะใช้ PTT Chemical เป็นบริษัทหลักในการดำเนินงานในสายโอเลฟินส์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นวัตถุดิบ นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงขนาดของกิจการที่ใหญ่ขึ้นหลังการควบบริษัท และการคาดการณ์ว่า PTT Chemical จะมีสถานะทางการเงินที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากการควบบริษัทเสร็จสมบูรณ์ สินทรัพย์ หนี้สิน และภาระผูกพันทั้งหมดของ TOC และ NPC จะถูกโอนไปยัง PTT Chemical หากรวมผลการดำเนินงานและระดับหนี้สินในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2548 ของ TOC และ NPC เข้าด้วยกัน ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วน net debt to EBITDA ของบริษัทใหม่จะอยู่ที่ 0.5 เท่า (TOC: 0.8 เท่า NPC:0.1 เท่า) ถึงแม้ว่าบริษัทใหม่จะมีแผนการลงทุนขนาดใหญ่และมีการคาดการณ์ว่าจะมีการจ่ายเงินปันผล บริษัทน่าจะสามารถรักษาระดับหนี้สินในระยะยาวให้อยู่ในระดับที่มีความคล่องตัวทางการเงินที่ค่อนข้างสูง โดยอัตราส่วน net debt to EBITDA คาดว่าจะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 2.0 เท่า หลังจากการควบบริษัท PTT และ บมจ ปูนซิเมนต์ไทย จะถือหุ้นประมาณ 44% และ 18% ตามลำดับ ในบริษัทใหม่ ติดต่อ: อรวรรณ การุณกรสกุล, ภิมลภา สิมะโรจน์, Vincent Milton, + 662 655 4755 หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้ คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน--จบ--

ข่าวฟิทช์ เรทติ้งส์+ฟิทช์ เรทติ้งวันนี้

GPSC ปลื้มฟิทช์ปรับแนวโน้มขึ้นเป็น 'stable' และคงอันดับเครดิต องค์กรในประเทศ "A+" และสากล "BBB-" จากฟิทช์ เรทติ้ง สะท้อนศักยภาพการเงินที่มั่นคง การบริหารจัดการองค์กรมุ่งเติบโตยั่งยืน

ฟิทช์ เรทติ้งส์ คงอันดับเครดิตองค์กร GPSC ที่ระดับ A+ พร้อมปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนการบริหารจัดการทางการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน นางพรรณพร ศาสนนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า GPSC ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรในประเทศที่ระดับ "A+ (tha)" และอันดับเครดิตสากล (International Rating)

ฟิทช์คงอันดับเครดิตหุ้นกู้ของ DAD SPV ที่ 'AAAsf(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัท ดีเอดี เอสพีวี จำกัด (DAD SPV) ที่ 'AAAsf(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ โครงการนี้เป็นโครงการแปลงสินทรัพย์...

ฟิทช์คงอันดับเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์ และ บมจ. เอสซีบี เอกซ์ ที่ 'BBB' และ 'AA+(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Issuer Default Rating) ของบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)...

ฟิทช์ประกาศจัดอันดับหุ้นกู้เงินบาทของ บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ ที่ 'B+; แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศจัดอันดับเครดิตสุดท้าย (Final Rating) ของหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิ ครบกำหนดในปี 2573 ของ บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (ซึ่งมีอันดับเครดิตสากลระยะยาวที่ 'B+', แนว...

ฟิทช์คงอันดับเครดิตของ บล. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ 'AA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LHS ที่ 'AA(tha)' และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น ...

ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส และ บจก.แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค ในเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ (Rating Watch Negative; RWN) ของอันดับเครดิต บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) และบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ท...