"อิคาริเทรดดิ้ง" พัฒนาสารกำจัดลูกน้ำยุงลาย ใช้"ซีโอไลท์" ปรับสภาพน้ำ ใส ปลอดภัย ไร้กลิ่น

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--สวทช.

สวทช. ส่งผู้เชี่ยวชาญถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่"อิคาริเทรดดิ้ง" ในการผลิตอาหารกำจัดลูกน้ำยุงลายสูตรใหม่ด้วยการใช้"ซีโอไลท์"ที่รับรองผลว่าออกฤทธิ์ให้ประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง ใช้งานได้ยาวนานกว่า ปัจจุบันถือเป็นรายแรกและรายเดียวในโลก มั่นใจอนาคตสามารถตีตลาดได้แน่นอน หลังผ่านมาตรฐานGMPขณะที่องค์การอนามัยโลกและประเทศคู่ค้าเริ่มหันมาให้ความสนใจยิ่งขึ้น "ยุงลาย" เป็นพาหะหลักที่นำไปสู่โรค "ไข้เลือดออก"ซึ่งมักพบว่าแพร่ระบาดในประเทศทางเขตร้อนเกือบทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศไทยนั้นประสบปัญหาค่อนข้างมาก ในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคนี้จำนวนมาก วิธีการแก้ไขก็คือการควบคุบปริมาณยุงซึ่งเป็นพาหะนำโรคด้วยการกำจัดแหล่งเพาะพันธ์ที่เป็รภาชนะขังน้ำในบ้าน ทั้งนี้วิธีการหนึ่งที่ได้ผลเป็นที่ยอมรับก็คือการใช้สารเคมีในการกำจัดลูกน้ำยุงลาย แต่ควรระมัดระวังในการใช้และควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานผ่านการรับรองทางการแพทย์เพื่อความปลอดภัยในการใช้ นายอรรณพ วงศ์ธิติโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทอิคาริ เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทฯเริ่มดำเนินธุรกิจเมื่อปี 2546 ในการผลิตสารลูกน้ำยุงลายภายใต้เครื่องหมายการค้าถึง 5 แบรนด์ ด้วยกัน จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยผ่านตัวแทนจำหน่าย ซึ่งได้รับมาตรฐานหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต หรือ GMP ภายใต้นโยบายการบริหารที่ชัดเจนในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน การพัฒนาคุณภาพของสินค้าและศักยภาพของพนักงานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการสร้างความปลอดภัยให้กับพนักงาน ลูกค้า และสิ่งแวดล้อม "เนื่องจากสินค้าที่เป็นวัตถุอันตราย จึงต้องเข้มงวดในเรื่องความปลอดภัยอย่างมาก รวมไปถึงเรื่องของการควบคุมคุณภาพโดยจะมีการตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในทุกขั้นตอนของการผลิต โดยแบ่งเป็นการตรวจสอบระหว่างกระบวนการผลิต การตรวจสอบผลิตภัณฑ์รอบรรจุ การตรวจสอบระหว่างกระบวนการบรรจุ การตรวจสอบผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป การตรวจสอบผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายก่อนส่งมอบให้ลูกค้า นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีการตรวจสอบภาคสนามเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งดูประสิทธิภาพในการกำจัดลูกน้ำยุงลาย โดยได้ทำการทดสอบจริงในหมู่บ้านต่าง ๆ เป็นระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งผลที่ออกมาเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก" นายอรรณพ กล่าวต่อว่า เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯมีคุณภาพได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในตลาดจึงได้มุ่งเน้นการจัดทำระบบคุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มจาก 5 ส., Good Manufacturing Practice (GMP)และISO 9001 :2000 "บริษัทฯมีความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก โดยได้ทำการติดตั้งระบบบำบัดอากาศเพื่อกรองกลิ่นที่อาจจะออกสู่ภายนอกโรงงาน การมีระบบทิ้งแบบปิด การจัดการระบบบำบัดน้ำเสียก่อนที่จะมีการปล่อยสู่ภายนอก การจัดสถานที่สำหรับทิ้งขยะอันตรายอย่างเป็นสัดส่วน การสร้างเตาเผาประสิทธิภาพสูงเพื่อใช้เผาขยะทั่วไป ส่วนขยะที่ปนเปื้อนสารเคมีจะทำการจัดจ้าง สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นจุดเด่นของบริษัทฯคือ Azai-ss สารกำจัดลูกน้ำยุงลายชนิดเม็ดเกล็ดซีโอไลท์เคลือบสารสังเคราะห์ในกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟต ที่ผ่านการตรวจสอบประสิทธิผล จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และองค์การอนามัยโลก(WHO)ว่าใช้ในการป้องกันกำจัดยุงลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งซีโอไลท์ที่นำมาใช้นี้คือ Hydrous aluminium silicates ที่พบในหินภูเขาไฟ ปกติใช้บำบัดน้ำเสียเช่นเดียวกับถ่านมีคุณสมบัติพิเศษคือการกำจัดลูกน้ำยุงลายได้นาน 3-6 เดือน ด้วยสูตรผสมและเทคโนโลยีพิเศษ สารออกฤทธิ์มีความปลอดภัยสูงชนิดเดียวกับทรายอะเบท เมื่อใส่ลงไปในน้ำในอัตราส่วนที่เหมาะสมจะไม่มีกลิ่นเหม็น ด้วยสารดูดซับกลิ่นซีโอไลท์จากธรรมชาติ และไม่มีคราบน้ำมันปนเปื้อนบนผิวน้ำ ช่วยให้น้ำไม่ขุ่นและใสขึ้น มีการบรรจุในขนาดต่าง ๆ ตั้งแต่ 20 กรัม-25 กิโลกรัมแต่ที่สำคัญที่สุดคือการนำซีโอไลท์มาใช้ในกรกำจัดลูกน้ำยุงลายนี้บริษัทฯ ถือเป็นรายแรกในประเทศไทยและรายแรกในโลกที่นำมาใช้เพราะส่วนใหญ่จะใช้ทรายเป็นผลิตภัณฑ์แทบทั้งสิ้น ส่วนผลิตภัณฑ์ในแบรนด์อื่น ๆ ของบริษัทฯ จะเป็นทรายกำจัดลูกน้ำยุงลาย เพราะยังเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งมีฤทธิ์คงทนในการควบคุมลูกน้ำยุงลายได้นานกว่า 3 เดือน เหมาะที่จะใช้ในการป้องกันกำจัดลูกน้ำยุงลายในแหล่งเพาะพันธุ์ตามภาชนะเก็บน้ำต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มีประสิทธิภาพ อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่จะสามารถแข่งขันกับผู้ผลิตรายอื่นและก้าวไปสู่การส่งออกได้ จึงคิดว่าน่าจะต้องหาผู้เชี่ยวชาญมาเป็นพี่เลี้ยงเพื่อให้คำปรึกษาแนะนำในการพัฒนาขั้นตอนกระบวนการต่าง ๆ กระทั่งได้รัความช่วยเหลือจาก โครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (ITAP)สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) ในการถ่ายทอดเทคโนโลยีแนะนำกระบวนการผลิต การปรับปรุงอาคารสถานที่ อุปกรณ์การผลิต การสุขาภิบาล การทำความสะอาด โดยมีผู้เชี่ยวชาญคือ รศ.ดร. ประสาน ธรรมอุปกรณ์ อาจารย์ภาควิชาเภสัชศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้ามาควบคุมดูแลในฐานะที่ปรึกษา ภายใต้โครงการยกระดับมาตรฐานโรงงานตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต (GMP)แก่โรงงานอุตสาหกรรมผลิตสารกำจัดลูกน้ำยุงลาย "สิ่งที่ได้รับจาก สวทช. ที่เห็นได้ชัดคือการพัฒนาขึ้นมาเป็นบริษัทอุตสาหกรรม SMEsที่มีคุณภาพผลิตภัณฑ์เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ภายในหนึ่งปีเศษเราก็ได้ GMP ซึ่งถือว่าเร็วเกินความคาดหมายและเราจะม่หยุดนิ่งยังคงพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่องต่อไป ปัจจุบันเราขยายกำลังการผลิตจากเดิม 3 ตันต่อวัน 6-10ตันต่อวัน"นายอรรณพ กล่าวและเสริมว่า ผลิตภัณฑ์จากซีโอไลท์ที่พัฒนาขึ้นนี้ กำลังได้รับความนิยมในระเทศทางแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์และในอนาคตจะขยายตัวไปทางกลุ่มประเทศมุสลิมและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก "ผลิตภัณฑ์จากซีโอไลท์นี้เราต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้มากขึ้น ขณะนี้มีหลายประเทศที่ยื่นความจำนงมาให้บริษัทฯ ช่วยถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อให้แต่ละประเทศไปผลิตเอง แต่จุดนี้ต้องขอดูการตลาดสักระยะหนึ่งก่อนเพราะคิดว่าภายใน 10 ปีนี้น่าจะมีสิ่งที่ย้อนกลับมาในประเทศของเราก่อนที่จะให้คนอื่นไปพัฒนาตัดหน้าเรา" ทั้งนี้สิ่งที่ บริษัทฯ ได้รับอย่างเป็นรูปธรรมในการเข้าร่วมโครงการยกระดับมาตรฐานดรงงานตามหลักวิธีการที่ดีในการผลิต(GMP)แก่โรงงานอุตสาหกรรมผลิตสารกำจัดลูกน้ำยุงลายของ สวทช. คือส่งผลให้บริษัทฯ ประสบผลสำเร็จด้านการพัฒนาบุคลากรให้เกิดทักษะและความสามารถในการผลิตเพิ่มขึ้นถึง 85 % มีความรู้ทางเทคนิคเพิ่มขึ้น 88% มีการจ้างวิศวกร นักวิทยาศาสตร์ และช่างเทคนิคเพิ่มขึ้นขณะเดียวกันผลสำเร็จทางด้านธุรกิจที่เกิดขึ้นคือ ต้นทุนในการผลิตลดลง 10% มีการปรับปรุงกระบวนการผลิตเครื่องมือเครื่องจักรให้ทันสมัย มีคุณภาพสูงขึ้น นอกจากนี้ยังได้มีการปรับปรุงและพัฒนาห้องปฏิบัติการควบคุมคุณภาพเพื่อช่วยลดผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมเรื่องกลิ่นและฝุ่นละอองอีกด้วย สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้ารับการสนับสนุนในโครงการ ITAP สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2564-8000 หรือwww.nstda.or.th/itap

ข่าวองค์การอนามัยโลก+องค์การอนามัยโลวันนี้

สธ. ดันโครงการ "เด็กฉลาดสร้างได้ตั้งแต่แรกเกิด" ชี้ธาตุเหล็กช่วยพัฒนาสมองลูกน้อย เสริมพัฒนาการให้สมวัย

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดโครงการ "เด็กฉลาดสร้างได้ตั้งแต่แรกเกิด" พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี Mr. Mark Landry เจ้าหน้าที่โครงการขององค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำประเทศไทย นางนภัทร พิศาลบุตร ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเด็กปฐมวัย องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารกรมอนามัย ร่วมงาน ณ บริเวณโถงชั้นล่าง อาคาร 3 ชั้น 1 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

ปัจจุบันปัญหาการบริโภคโซเดียมเกินความจำเป... ผงปรุงรสจากพืชพื้นบ้าน: นวัตกรรมทางเลือกเพื่อสุขภาพและความยั่งยืนของชุมชน — ปัจจุบันปัญหาการบริโภคโซเดียมเกินความจำเป็นเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ส่งผ...

การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ห่วงใยประชาชนพ... กปภ. ตรวจเข้มคุมคุณภาพน้ำ 24 ชั่วโมงย้ำ ! น้ำประปาเชียงรายสะอาด ปลอดภัย มั่นใจได้ — การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ห่วงใยประชาชนพื้นที่จังหวัดเชียงราย กำชับ ก...

บริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา (ประเทศไทย) ... โนโว นอร์ดิสค์ จัดงานแถลงข่าวมุ่งเน้นประโยชน์สำหรับคนไข้ที่มากกว่าการลดน้ำหนัก — บริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด หรือ "โนโว นอร์ดิสค์" จัดง...

องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้ทุกวันที่ ... GSK ร่วมรณรงค์ "สัปดาห์การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโลก 2025" ชูการป้องกันโรคสำหรับทุกวัย — องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้ทุกวันที่ 24-30 เมษายนของทุกปีถือเป็...