เอสซีจี เปเปอร์ ชูกลยุทธ์เพื่อสิ่งแวดล้อม เพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน พร้อมยกระดับสู่มาตรฐานโลก

เอสซีจี เปเปอร์ รุกตลาดเน้นกลยุทธ์ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม สร้างจุดแข็งในการเป็นธุรกิจที่รับผิดชอบและใส่ใจในสิ่งแวดล้อม พร้อมประกาศเดินหน้ายกระดับมาตรฐานการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของธุรกิจกระดาษ เครือซิเมนต์ไทย สู่การเป็นผู้ผลิตกระดาษรายแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลในการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนตามแนวทางของ The Forest Stewardship Council (FSC) นายเชาวลิต เอกบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจกระดาษ เครือซิเมนต์ไทย (SCG Paper) เปิดเผยว่า “ คนส่วนใหญ่มองว่าธุรกิจกระดาษเป็นตัวทำลายทรัพยากรโดยเฉพาะป่าไม้ การใช้น้ำ ใช้พลังงาน และการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศ SCG Paper ใช้กลยุทธ์เชิงรุก เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และต้องการแสดงให้เห็นว่า คนกับธรรมชาติ ธุรกิจและสิ่งแวดล้อม สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน บริษัทฯ จึงกำหนดนโยบายที่เน้นการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ลดของเสียจากกระบวนการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยให้ความสำคัญกับ 3 เรื่องหลัก ได้แก่ Green Process . Green Product . Green Mind ” Green Process หมายถึง กระบวนการทั้งหมดเพื่อให้ได้มาซึ่งกระดาษ ต้องประกอบด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เริ่มตั้งแต่เยื่อไม้ที่นำมาผลิตกระดาษต้องเป็นไม้ปลูก ส่วนขั้นตอนการผลิตต้องมีการจัดการเกี่ยวกับการใช้น้ำใช้พลังงานไม่ให้กระทบสิ่งแวดล้อม จากนั้นเมื่อผลิตออกจำหน่าย ของเสีย ผลผลิตส่วนเกิน หรือน้ำทิ้งจากกระบวนการผลิตต้องมีการบำบัดดูแลที่ดี และเปิดให้คนภายนอกเข้าไปดูโรงงานได้ Green Product คือ การกระตุ้นให้ผู้บริโภคตระหนักว่า มีสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อผู้บริโภคนำไปใช้จะไม่ก่อให้เกิดสารพิษ สร้างมลภาวะ เพราะเมื่อผู้บริโภคใช้งานกระดาษในขั้นสุดท้ายจะมีคนไปรับซื้อเพื่อนำมาเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลต่อไป Green Mind หมายถึง จิตใจที่ตระหนักและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งทั้งพนักงานของเอสซีจี เปเปอร์ ต้องมีใจรักษ์ในสิ่งแวดล้อม และผู้บริโภคก็ต้องมี Green Mind โดยใช้กระดาษอย่างคุ้มค่าที่สุด และนำไปรีไซเคิลกลับเป็นกระดาษใหม่ เพราะเมื่อเอสซีจี เปเปอร์ ได้เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการใช้กระดาษภายในองค์กรแล้ว ก็อยากสื่อสารไปยังผู้บริโภคเพื่อให้เห็นภาพว่า การที่คุณสนใจสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ดี และ เอสซีจี เปเปอร์ ก็พร้อมที่จะสนับสนุนผู้บริโภคผ่านผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของบริษัท โดยคาดหวังให้ผู้บริโภคเลือกใช้แต่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เอสซีจี เปเปอร์ ในการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน ตามแนวทางของ The Forest Stewardship Council (FSC) ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่สนับสนุนการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน มีบทบาทในการกำหนดมาตรฐานความรับผิดชอบด้านการจัดการป่าไม้และเป็นที่รู้จักและยกย่องอย่างกว้างขวางทั่วโลก เพื่อพัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ และสร้างรากฐานสู่ความยั่งยืนในธุรกิจกระดาษต่อไป เอสซีจี เปเปอร์ มีการรายงานและติดตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากกิจกรรมการผลิตในธุรกิจอย่างต่อเนื่องมานานตั้งแต่ปี 2546 รวมทั้งมีแผนเพิ่มพื้นที่ป่าไม้เพื่อช่วย ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และการใช้พลังงานอย่างรู้ค่า ด้วยการลดการใช้พลังงานในการผลิตกระดาษ การเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน การเพิ่มสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงชีวมวล (Bio-Mass) เช่น เปลือกไม้ ตะกอนจากน้ำทิ้งที่บำบัดแล้ว (Sludge) และขยะอินทรีย์ เพื่อนำวัสดุเหลือใช้มาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า เอสซีจี เปเปอร์ ตั้งเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อการผลิตเยื่อและกระดาษลง 5% ในปี 2555 โดยจะเพิ่มสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงชีวมวลจาก 35% ในปี 2550 เป็น 40% ในปี 2555 เป้าหมายที่ SCG Paper ต้องการกระตุ้นและเสนอทางเลือกให้ผู้บริโภคเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็น Green Product เราอยากให้ลูกค้าสนใจเลือกสินค้าที่ผลิตขึ้นด้วย Green Process เช่น การจัดการระบบการ Recycle ทั้งหมดอย่างถูกต้อง ด้วยความร่วมมือระหว่างผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และผู้บริโภค จะสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คนและธรรมชาติอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นเป้าหมายในเรื่อง Green Mind ของเอสซีจี เปเปอร์ รายละเอียดเพิ่มเติม : กษมา วิทยาศรัย ([email protected]) วีร์ดา ปานรัตน์ ([email protected]) บริษัท โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์ จำกัด โทร. 0 2205 6000

• ข่าวเครือซิเมนต์ไทย
• ข่าวเชาวลิต เอกบุตร
• ข่าวเอสซีจี เปเปอร์
• ข่าวมาตรฐานสากล
• ข่าวสิ่งแวดล้อม