เอสซีจี เปเปอร์ ส่งเสริมการปลูกยูคาลิปตัสสายพันธุ์ใหม่ สร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์

เอสซีจี เปเปอร์ แสดงศักยภาพผู้นำอุตสาหกรรมกระดาษครบวงจร ประสบความสำเร็จพัฒนาปลูกยูคาลิปตัสลูกผสมสายพันธุ์ใหม่ H4 เจ้าของรางวัลดีเด่นจากเวทีประกวดนวัตกรรม SCG Power of Innovation Award 2007 – 2008 ซึ่งมีคุณสมบัติทนแล้ง ทนต่อโรคแมลง และสภาพแวดล้อม ให้น้ำหนักดีและให้ปริมาณเยื่อสูงขึ้น สร้างผลตอบแทนในที่ดินแก่เกษตรกรเพิ่มมากขึ้นอย่างยั่งยืน นายจุมพฏ ตัณมณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามฟอเรสทรี จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจสวนป่าในธุรกิจกระดาษ เครือซิเมนต์ไทย หรือเอสซีจี เปเปอร์ เปิดเผยว่า ยูคาลิปตัสสายพันธุ์ H4 เป็นไม้ลูกผสมข้ามชนิด (Interspecific Hybrid) ซึ่งเป็นผลผลิตจากการทดลองผสมพันธุ์กว่า 2 ปี และทดลองปลูกอีก 5 ปี โดยสยามฟอเรสทรี และศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของ SCG Paper และขณะนี้ต้นกล้ายูคาลิปตัสสายพันธุ์ H4 พร้อมสำหรับให้เกษตรกรนำไปปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจ มีจุดเด่นตรงที่สามารถปลูกได้ทั้งในพื้นที่ราบระบายน้ำได้ดี และสามารถทนน้ำขังได้เป็นครั้งคราวในฤดูฝน เหมาะสำหรับการปลูกในที่ดินภาคตะวันตก ภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ราบ ดินเป็นกรด ดินร่วนปนทราย หรือดินร่วนเหนียวปนทราย “การปลูกยูคาลิปตัสนับว่าเป็นการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนและมั่นคงกว่าพืชเศรษฐกิจอื่นๆ เพราะเป็นพืชปลูกง่าย เติบโตเร็ว ดูแลจัดการง่าย ลงทุนน้อย ใช้แรงงานน้อย แต่ให้ผลผลิตและผลตอบแทนสูง หากดูแลตามหลักวิชาการ คืนทุนเร็วกว่าการปลูกไม้ชนิดอื่น โดยใช้เวลาเพียง 4-5 ปีก็ตัดขายได้ แล้วยังสามารถแตกหน่อได้ดี โดยสามารถตัดได้ 3-4 รอบ ในรอบที่ 2 จะให้ผลผลิตที่มากกว่ารอบแรกถึง 30% นอกจากนั้นยังสามารถปลูกพืชเกษตรควบในสวนไม้ยูคาลิปตัสได้ ได้แก่ ข้าวโพด สับปะรด มันสำปะหลัง เป็นต้น ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ในระหว่างช่วงที่รอการตัดฟันไม้ออก การปลูกสวนไม้ยูคาลิปตัสจึงช่วยเพิ่มมูลค่าที่ดินให้สูงขึ้น ดีกว่าปล่อยไว้ให้รกร้างว่างเปล่า ทำให้สูญเสียโอกาสในการใช้ประโยชน์ คิดเป็นมูลค่ามหาศาล และยังเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้มากขึ้น ช่วยปรับปรุงสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศให้ดีขึ้นได้” ในด้านการลงทุนและผลตอบแทนนั้น การปลูกยูคาลิปตัสสามารถสร้างรายได้ประมาณ 19,200 บาทต่อไร่ โดยคำนวณจากปริมาณผลผลิต 16 ตันต่อไร่ ส่วนค่าใช้จ่ายในการปลูกและดูแลแปลงไม้ตลอดเวลา 4 ปี รวมทั้งขั้นตอนการตัดและขนส่งไม้เข้าโรงงานตกประมาณ 9,500 บาทต่อไร่นั้น กำไรเบื้องต้นจะอยู่ที่ประมาณ 9,700 บาทต่อไร่ โดยสยามฟอเรสทรีมีบริการครบวงจร เพียงแค่เกษตรกรมีที่ดิน และมีทุน “คนส่วนใหญ่ยังมีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องว่า การปลูกยูคาลิปตัสจะทำให้ดินเสื่อม เพราะจะดึงธาตุอาหารจากดินไปใช้จนหมด ซึ่งที่จริงแล้ว ยูคาลิปตัสก็ไม่ต่างจากต้นไม้ทั่วไปที่ใช้ธาตุอาหารและน้ำเพื่อความเจริญเติบโต แต่การใช้ประโยชน์จากไม้ยูคาฯ นั้น ได้จากส่วนของเนื้อไม้ ซึ่งมีคาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน เป็นส่วนประกอบหลักที่เกิดจากกระบวนการ สังเคราะห์แสง โดยใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ ส่วนธาตุอาหาร อันได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ที่เป็นส่วนประกอบของใบ ดอก ผล และเปลือกไม้ก็จะร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน และย่อยสลายทำให้ธาตุอาหารยังหมุนเวียนอยู่ในดิน ไม่ได้สูญสลายไปไหน สรุปว่าการปลูกยูคาลิปตัสไม่มีผลกระทบในทางลบต่อระบบนิเวศ” นอกจากจะปลูกควบกับพืชเศรษฐกิจดังกล่าวแล้ว ยูคาลิปตัสยังสามารถปลูกบนคันนาในนาข้าว ซึ่งนอกจากจะทำให้เกษตรกรมีรายได้จากที่นาเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมชิ้นไม้สับได้วัตถุดิบป้อนโรงงานอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนอีกด้วย รวมทั้งหากปอกเปลือกก่อนส่งขายให้แก่โรงงาน เปลือก ใบ และกิ่งเล็กๆ ที่ทิ้งไว้ในไร่หรือนาข้าวก็จะย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยไปด้วย สำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกยูคาลิปตัสบนคันนาทำได้โดยปลูกเป็นแถวเดี่ยวๆ ให้มีระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 1.5-2 เมตร เพื่อเปิดช่องว่างให้ข้าวในนาได้รับแสงสว่างอย่างเต็มที่และเพียงพอ จึงไม่ควรปลูกทุกๆ คันนา ปลูกเฉพาะบนคันนาที่มีระยะห่างกัน 30-40 เมตรก็พอแล้ว การกระทำดังกล่าวแทบจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเตรียมพื้นที่ปลูกและการดูแลรักษาเลย เพราะชาวนาจะต้องยกตกแต่งคันนาและบำรุงรักษาต้นข้าวอยู่แล้ว หากคัดเลือกสายพันธุ์ให้เหมาะสมก็จะทำให้ได้ไม้ไม่น้อยกว่า 8-10 ตันต่อไร่เมื่ออายุ 4 ปี นั่นคือจะสร้างรายได้เสริมอีกมาก “ประเทศไทยมีคันนารวมทั้งสิ้นราว 12 ล้านกิโลเมตร เฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคเดียวมีพื้นที่นาปี 33 ล้านไร่ หากเกษตรกรไทยหันมามาปลูกยูคาบนคันนาข้าวเพิ่มขึ้น ก็จะช่วยสร้างรายได้เสริมจากการใช้ประโยชน์จากที่นา รวมทั้งรายได้จากการสร้างงานในชนบทอีกจำนวนมหาศาล ผลผลิตจากยูคาลิปตัสยังมีส่วนในการผลิตวัตถุดิบให้แก่ภาคอุตสาหกรรม และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้แก่แผ่นดินอีกด้วย หากเกษตรกรรายใดสนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 034-615040” นายจุมพฏกล่าว ข้อมูลเกี่ยวกับเอสซีจี เปเปอร์ บริษัท เอสซีจี เปเปอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจหลักของเครือซิเมนต์ไทย (SCG) และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมกระดาษ ซึ่งดำเนินธุรกิจใน 5 กิจการหลัก ได้แก่ กิจการสวนป่า กิจการเยื่อกระดาษและกระดาษพิมพ์เขียน กิจการกระดาษอุตสาหกรรม (ที่มีกำลังการผลิตมากที่สุดในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน) กิจการกระดาษแข็งและกิจการบรรจุภัณฑ์ มีโรงงานผลิตกระดาษและบรรจุภัณฑ์กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย และในภูมิภาคอาเซียน SCG Paper ยังมีฐานการผลิตอยู่ในประเทศเวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ด้วย SCG Paper ได้พัฒนาวัตถุดิบ กระบวนการผลิต เทคโนโลยี และการจัดการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย มีคุณภาพดี สามารถตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น SCG Paper ยังมีการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้มาตรฐาน มีประสิทธิภาพ ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน แถลงข่าวในนาม : ธุรกิจกระดาษ เครือซิเมนต์ไทย (SCG Paper) รายละเอียดเพิ่มเติม : โอบบุญ แย้มศิริกุล ([email protected]) โกวิท สว่างวารีสกุล ([email protected]) วีร์ดา ปานรัตน์ ([email protected]) : บริษัท โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์ จำกัด โทร. 0 2205 6000 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 022056000 โกวิท สว่างวารีสกุล

ข่าวเครือซิเมนต์ไทย+เอสซีจี เปเปอร์วันนี้

เอสซีจี เปเปอร์ จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ “SCG Paper - An Inspiration for the Best Coffee”

เอสซีจี เปเปอร์ ธุรกิจกระดาษเครือซิเมนต์ไทย ขอเรียนเชิญท่านสื่อมวลชนร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ “Inspiration for the Best Coffee” ซึ่งเป็นแคมเปญแรกที่ธุรกิจกระดาษ เอสซีจี เปเปอร์ จับมือพันธมิตรทางการตลาดกับธุรกิจร้านกาแฟสุดฮิตอย่าง ทรู คอฟฟี่ เพื่อสร้างนวัตกรรมทางการตลาดรูปแบบใหม่ให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคโดยตรง แคมเปญนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม “Sipping Inspiration” จิบแรงบันดาลใจบนถ้วยกาแฟกระดาษนวัตกรรมใหม่ล่าสุด “มหัศจรรย์ Coffee Jacket” ที่ออกแบบมาพิเศษเพื่อร้านทรู คอฟฟี่ โดยเฉพาะและเป็นครั้งแรก

เอสซีจี เปเปอร์ แถลงข่าวเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุด กระดาษถ่ายเอกสารระดับซูเปอร์พรีเมี่ยม “ไอเดีย เวิร์ค” จากเอสซีจี เปเปอร์

บริษัท เอสซีจี เปเปอร์ จำกัด (มหาชน) ในธุรกิจกระดาษ เครือซิเมนต์ไทย ผู้นำในธุรกิจกระดาษครบวงจร ขอเรียนเชิญท่านร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุด กระดาษถ่ายเอกสารระดับซู...

เอสซีจี เปเปอร์ จัดโครงการ “ไอเดีย กรีน ชวนน้อง รักษ์ธรรมชาติ” ส่งเสริมเยาวชนรักษาสิ่งแวดล้อม

ธุรกิจกระดาษ เครือซิเมนต์ไทย หรือเอสซีจี เปเปอร์ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ จัดโครงการ ”ไอเดีย กรีน ชวนน้อง รักษ์ธรรมชาติ” เน้นย้ำภาพลักษณ์ของกระดาษ “ไอเดีย กรีน”...

เอสซีจี เปเปอร์ จับมือ สพฐ. จัดโครงการ “ไอเดีย กรีน ชวนน้อง รักษ์ธรรมชาติ”

ธุรกิจกระดาษ เครือซิเมนต์ไทย หรือเอสซีจี เปเปอร์ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ จัดโครงการ ”ไอเดีย กรีน ชวนน้อง รักษ์ธรรมชาติ” เน้นย้ำภาพลักษณ์ของกระดาษ “ไอเดีย กรีน” ที่เป็นมิตรกับสิ่ง...

กระดาษคราฟท์ เอสซีจี เปเปอร์ รับ “ฉลากเขียว” ย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจกระดาษรักษ์สิ่งแวดล้อม

ในภาพ : นายกรัณย์ เตชะเสน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สยามคราฟท์อุตสาหกรรม จำกัด ในธุรกิจกระดาษ เครือซิเมนต์ไทย (SCG Paper) และ ดร. ไชยยศ บุญญากิจ รองประธานสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ร่วมลงนามในสัญญาการใช้...

ภาพข่าว: เอสซีจี เปเปอร์ หนุนเด็กไทยใส่ใจสิ่งแวดล้อมผ่านวิถีชีวิตพอเพียงแบบภูฏาน

นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ (ที่ 2 จากขวา) ผู้อำนวยการสำนักงานการตลาด ในธุรกิจกระดาษ เครือซิเมนต์ไทย (SCG Paper), อาจารย์วีระวัฒน์ เผือกทอง (ขวาสุด) ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิชาการ โรงเรียนเซนต์จอห์น, นายแอนดรูว์ บิ๊กส์ (ที่ 2...

กระดาษ “ไอเดีย กรีน” จากเอสซีจี เปเปอร์คว้ารางวัลสุดยอดแคมเปญการตลาด ในงานวันนักการตลาดแห่งประเทศไทย ปี 51

ผลิตภัณฑ์ไอเดีย กรีน กระดาษถ่ายเอกสารคุณภาพพรีเมี่ยมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จากเอสซีจี เปเปอร์ คว้ารางวัล Gold Award ในการประกวด “สุดยอดแคมเปญการตลาด” หรือ MAT Award ครั้งที่ 2 ...

เอสซีจี เปเปอร์ ส่ง “Idea” ลุยตลาดกระดาษถ่ายเอกสารระดับพรีเมียม ทางเลือกที่ดีที่สุดของกระดาษที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ธุรกิจกระดาษ เครือซิเมนต์ไทย หรือ เอสซีจี เปเปอร์ (SCG Paper) ผู้นำในธุรกิจกระดาษครบวงจร เปิดตัวกระดาษถ่ายเอกสารคุณภาพพรีเมียมภายใต้แบรนด์ “Idea (ไอเดีย)” เน้นพัฒนานวัตกรรม...

เอสซีจี เปเปอร์ นำ “สวนสนุกกระดาษ” สร้างแรงบันดาลใจ-เติมความสนุก ในเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน 16 - 20 ก.ค. นี้

แผนผัง “สวนสนุกกระดาษสุดหรรษา” ที่ ธุรกิจกระดาษ เครือซิเมนต์ไทย หรือ เอสซีจี เปเปอร์ (SCG Paper) นำมาให้น้องๆ ได้เล่น ได้สนุกกันเต็มที่ เป็นผลงานการสร้างสรรค์สนามเด็กเล่น...