สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย...ร่วมลงนามเซ็นสัญญากับเอ็น.ซี.ซี.ฯ เตรียมจัดงานประชุมโรคระบบการหายใจแห่งภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 13

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--29 ก.พ.--เบรนเอเซีย

สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย...ร่วมลงนามเซ็นสัญญากับเอ็น.ซี.ซี.ฯ เตรียมจัดงานประชุมโรคระบบการหายใจแห่งภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 13 เดือนพ.ย.นี้ (The 13th Congress of the Asian Pacific Society of Respirology) เชิญชวนสังคมหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพระบบการหายใจ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง ขณะที่วิทยาการการแพทย์และโลกก้าวไกลด้วยเทคโนโลยี แต่อัตราการป่วยด้วยโรคระบบการหายใจกลับเพิ่มขึ้น และส่งผลเสียต่อคุณภาพชีวิตของประชากรโลกรวมทั้งคนไทย เป็นโรคร้ายแรงอยู่ใน 5 อันดับแรกของโลก ที่สร้างความสูญเสียทางสังคม เศรษฐกิจ เป็นอย่างมาก การประชุมโรคระบบการหายใจแห่งภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 13 หรือ The 13th Congress of the Asian Pacific Society of Respirology ถือเป็นงานประชุมทางการแพทย์ครั้งยิ่งใหญ่ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัด โดยสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทยร่วมกับคณะกรรมการจัดงานได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพโดยมอบหมายให้ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด เป็นผู้บริหารจัดการ โดยงานจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 19 – 22 พฤศจิกายน 2551 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ต้อนรับผู้เข้าประชุมกว่า 2,000 คนจากทั่วโลก ซึ่งล้วนเป็นแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ และเครือข่ายสุขภาพ ที่มีบทบาทขับเคลื่อนวงการสุขภาพและการแพทย์ในนานาประเทศ สำหรับงานประชุมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. และพันธมิตรต่างๆที่จะร่วมสร้างรายได้และชื่อเสียงแก่ประเทศไทย สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพ (Medical Hub) ของภูมิภาค ศาสตราจารย์นายแพทย์อรรถ นานา นายกสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทยและประธานคณะกรรมการจัดงานฯ กล่าวถึงความหมายของโรคระบบการหายใจ (Respiratory Disease) นั้นคือโรคที่ครอบคลุมอวัยวะของมนุษย์ เช่น จมูก ลำคอ หลอดลม และปอด ในปัจจุบันสถานการณ์โรคระบบการหายใจแห่งภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิกส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นอันดับที่ 4 โดยมีโรคหัวใจตามมาเป็นอันดับที่ 1 โรคมะเร็งเป็นอันดับที่ 2 การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเป็นอันดับที่ 3 ดังนั้น โรคระบบการหายใจจึงเป็นปัญหาอันดับต้นๆในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งประกอบไปด้วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคภูมิแพ้ โรคหืดและวัณโรค ทั้งนี้เนื่องจากอัตราการสูบบุหรี่และมลภาวะพิษจากสิ่งแวดล้อมในเอเชียแปซิฟิกนั้นขยายตัว ส่วนสถานการณ์โรคระบบการหายใจในประเทศไทยในปัจจุบัน ผู้ชายป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดรองจากโรคมะเร็งตับ ในขณะที่ผู้หญิงป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดรองจากโรคมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านมตามลำดับ ซึ่งสาเหตุหลักของโรคระบบการหายใจเกิดจากการสูบบุหรี่ สภาพอากาศและมลภาวะเป็นพิษ รวมถึงสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานที่ไม่เอื้ออำนวยต่อสุขภาพเป็นต้น ทั้งนี้ทางสมาคมฯ ได้ทำการวิจัยมากมายกับปัญหาโรคที่เกิดขึ้นดังกล่าว รวมถึงการค้นคว้าหาวิธีป้องกัน และรักษาโรคเหล่านั้น ศ.นพ.อรรถ กล่าวเพิ่มเติมว่า ”ที่มาของการจัดงานประชุมโรคระบบการหายใจแห่งภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 13 หรือ The 13th Congress of APSR 2008 เป็นการรวมตัวครั้งใหญ่ของกลุ่มแพทย์และผู้เชี่ยวชาญในด้านโรคระบบการหายใจ เพื่อประชุมหารือปัญหาและแนวทางในวิทยาการการรักษาใหม่ๆ เนื่องจากโรคระบบการหายใจ มีผลกระทบอย่างสูงต่อคุณภาพชีวิตของประชากร ก่อให้เกิดปัญหาและอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตและการพัฒนาประเทศ เกิดความทุกข์ทรมานแก่ผู้ป่วยและเป็นการสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างสูง บางรายอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงเป็นสาเหตุของการตายหรือทำให้เกิดความผิดปกติอย่างถาวร วงการแพทย์ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาเหล่านี้ จึงได้มีการจัดงานประชุมโรคระบบการหายใจแห่งภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก อย่างต่อเนื่อง โดยครั้งล่าสุดจัดที่เมืองโกลด์ โคสต์ ประเทศออสเตรเลีย สำหรับการประชุม The 13th Congress of APSR 2008 ที่จะจัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในวันที่ 19-22 พฤศจิกายนนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีและการบำบัดรักษาโรคระบบการหายใจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกให้ก้าวหน้าและเกิดประโยชน์สูงสุด ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและความร่วมมือด้านโรคระบบการหายใจในภูมิภาคนี้ และเป็นการเชิญชวนองค์กรและบุคลากรด้านการแพทย์ โรงพยาบาล สถาบันการศึกษา เครือข่ายสุขภาพ และคนไทยได้เห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยกันลดอัตราการเจ็บป่วยลง และเสริมสร้างคุณภาพชีวิต ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ” รองศาสตราจารย์นายแพทย์นิธิพัฒน์ เจียรกุล เลขานุการคณะกรรมการจัดงานฯ กล่าวว่า “หัวข้อหลักในการประชุมเชิงวิชาการครั้งนี้มีประเด็นที่น่าสนใจและคิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสภาวะสุขภาพของประชาชน อาทิ เช่น การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหืดและโรคภูมิแพ้ในระบบการหายใจที่กำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้น, โรคปอดที่เกิดจากการทำงาน ปัญหาของประเทศอุตสาหกรรมและกึ่งอุตสาหกรรม, ผลกระทบของมลภาวะในอากาศต่อสุขภาพ, โรคติดเชื้อในระบบการหายใจที่คุกคามมนุษยชาติในภูมิภาคนี้ ได้แก่ วัณโรค, ปอดอักเสบ, ไข้หวัดนก, โรคระบบการหายใจจากการสูบบุหรี่ที่ป้องกันได้ คือ มะเร็งปอด และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังหรือถุงลมโป่งพอง, ปัญหาความผิดปกติระหว่างการนอนหลับโดยเฉพาะการกรนและการหยุดหายใจ, ความก้าวหน้าในการดูแลผู้ป่วยวิกฤติในไอซียู, เทคนิคใหม่ในการตรวจทางรังสีวิทยา เช่น เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ การตรวจด้วยสนามแม่เหล็ก และความก้าวหน้าในการตรวจเข้าไปในระบบ การหายใจของมนุษย์ ด้วยการส่องกล้องและใช้อุปกรณ์อื่นๆ นอกจากนี้ในงานประชุมตลอด 4 วัน จะมีการจัดแสดงนิทรรศการเวชภัณฑ์และนวัตกรรมทางการแพทย์ โดยบริษัทห้างร้านจากทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้มีการแสวงหาความร่วมมือ และเปิดโอกาสทางการค้าใหม่ๆ ผู้เข้าร่วมประชุมและผู้ติดตามสามารถสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ ประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงามของไทยได้ในงาน ประชุมโรคระบบการหายใจแห่งภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 13 ผู้ที่สนใจรายละเอียดเกี่ยวกับงานขอเชิญเยี่ยมชมได้ที่ www.apsr2008.org” นายฤกษมัย สุขุม กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวว่า “ในด้านการเตรียมพร้อมของสถานที่จัดประชุมโรคระบบการหายใจแห่งภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 13 นั้น บริษัท เอ็น.ซี.ซี.ฯ ก่อตั้งมาเป็นเวลากว่า 15 ปี เป็นผู้มีประสบการณ์ในการจัดงานประชุมที่ได้มาตรฐานระดับโลก ส่วนด้านความพร้อมของสถานที่นั้น ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ได้รับการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่สะท้อนความเป็นไทย ผสมผสานกับความทันสมัยของเครื่องมืออันเหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน ส่วนด้านการจัดเลี้ยง เมนูอาหารหลากหลาย และบุคลากรก็พร้อมให้บริการด้วยน้ำใจไมตรีอันเป็นเอกลักษณ์ของคนไทย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสามารถจัดเตรียมงานโครงสร้างเวที นิทรรศการ และการตกแต่งที่สง่างามสมศักดิ์ศรีการประชุมระดับโลก ตลอดจนความพร้อมของระบบการรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพและวางใจได้ ในด้านการบริหารจัดการ, ฝ่ายจัดงานประชุม และหน่วยงานสนับสนุนต่างๆ ในบริษัทฯ ต่างพร้อมที่จะทุ่มเทอย่างเต็มกำลังในการวางแผน จัดเตรียมการอย่างละเอียดในทุกขั้นตอน รวมทั้งมีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้เข้าใจบทบาทหน้าที่ และพร้อมที่จะให้การบริการอย่างดีที่สุดแก่ผู้มาร่วมประชุมกว่า 2,000 คน ครบครันด้วยระบบการสื่อสารที่ทันสมัย ฉับไว และทันต่อเหตุการณ์” ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-229-3333 และ [email protected] สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวสมาคมอุรเวชช์+แห่งประเทศไทยวันนี้

ภัยเงียบ! ปอดอุดกั้นฯ คร่าชีวิตคนไทยอันดับ 3 แพทย์ชี้ "กำเริบ 1 ครั้ง เพิ่มเสี่ยงโรคหัวใจ 3 เท่า ครึ่งหนึ่งเสียชีวิตใน 3.6 ปี" ภาคีสาธารณสุขเร่งรณรงค์หยุด 'ความตายเงียบ' ในวันปอดอุดกั้นเรื้อรังโลก

เนื่องในวันปอดอุดกั้นเรื้อรังโลก (World COPD Day) ประจำปี 2568 มูลนิธิโรคหืดแห่ง ประเทศไทย สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทยฯ และ แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายพันธมิตร ได้แก่ กรมควบคุมโรค, กรมการแพทย์, สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร, สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย และสถานเอกอัครราชทูตสวีเดนประจำประเทศไทย สมาคมเครือข่ายอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ, มูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง, ชมรมลมวิเศษ, กลุ่มเซ็นทรัล, เจนเนอราลี่ประกันชีวิต และ เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ร่วมจัดงานรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ครั้ง

สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถ... GSK เปิดตัวโปรแกรม "RespiVerse" นวัตกรรมทางการแพทย์ ยกระดับการรักษาโรคระบบทางเดินหายใจทั่วโลก — สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย รศ.นพ.แจ...

เมื่อเร็ว ๆ นี้ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งป... ภาพข่าว: รวมสมอง ร่วมใจ “สู้ภัย COVID-19” — เมื่อเร็ว ๆ นี้ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยร่วมกับสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคม...

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาค... เรียนรู้สู้โควิด — ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีความเป็นห่วงผลกระทบต่อชีวิต...

การรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหืด หวังลดผู้ป่วยโรคหืดในไทยกว่าล้านคนไม่ต้องนอนโรงพยาบาล

สมาคมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหืด รวมตัวกันมากเป็นประวัติการณ์เพื่อร่วมกันจัดการประชุมวิชาการ National Asthma meeting ประจำปี พ.ศ. 2556 ในวันที่ 7 พฤษภาคมศกนี้ ซึ่งตรงกับวันหืดโลกที่องค์กรต่างๆ...

ภาพข่าว: เครือข่ายคลินิกโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย เดินหน้าชูเป้าหมายการทำงาน Admission Rate Near Zero

เครือข่ายคลินิกโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย เดินหน้าชูเป้าหมายการทำงานAdmission Rate Near Zero เพื่ออนาคตที่สดใสของผู้ป่วยโรคหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรัง เมื่อเร็วๆนี้ พญ.เขมรัสมี...

ทาเคดามอบทุน 200,000 บาท แก่สมาคมอุรเวชช์ เพื่อวิจัยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในไทย

มร. ปีเตอร์ หวง (ที่สองจากขวา) กรรมการผู้จัดการ และนายปรีชา ยิ่งวัฒนากุล (ขวาสุด) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ทาเคดา (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนมอบทุนจากทาเคดา จำนวน 200,000 บาท ให้แก่สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ...

ภาพข่าว: เครือข่ายคลินิคโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย ตั้งเป้าลดจำนวนการเข้ารักษา ในโรงพยาบาลของผู้ป่วยโรคหืด และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ให้ใกล้ศูนย์มากที่สุด

เมื่อเร็วๆนี้ ศ.พญ.สุมาลี เกียรติบุญศรี (กลาง) นายกสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดงานประชุมใหญ่ประจำปี ครั้งที่ 8 ของ...