‘สถาบันอาหาร’ แนะ SMEs ไทยปรับกลยุทธ์บุกตลาดบิสกิตในสิงคโปร์

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์

ผู้ประกอบการ SMEs ไทย ประสบปัญหาหนัก หลังผลิตภัณฑ์บิสกิต ในตลาดสิงคโปร์ ถูกผู้ผลิตขนมบิสกิตรายใหญ่ จากอเมริกา ยุโรป โยกมาทำการผลิตในประเทศมาเลเซีย จีน และอินโดนีเซีย หวังลดต้นทุนด้านการผลิต ขนส่ง ป้อนสินค้าเข้าตลาดสิงคโปร์ และประเทศใกล้เคียง ภาพลักษณ์ตราสินค้าผู้ผลิตเอเชียถูกผู้บริโภคสิงคโปร์มองด้อยคุณภาพ ทำให้การเข้าสู่ตลาดสิงคโปร์ของผู้ประกอบการรายใหม่ทำได้ยาก สถาบันอาหารชี้ SMEs ไทย ควรพัฒนาสินค้าสู่ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ปรับปรุงแพ็กเกจจิ้งให้ทันสมัย สะดวกต่อการบริโภค ปรับปรุงภาพลักษณ์สินค้าสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพและความปลอดภัย ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยว่า ตลาดสิงคโปร์จัดเป็นตลาดบิสกิตที่สำคัญในแถบประเทศเอเชียแปซิฟิก เนื่องจากเป็นประเทศที่มีแนวโน้มการนำเข้าขนมบิสกิตเพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 17-18 ต่อปี ในช่วงปี 2548-2550 โดยชาวสิงคโปร์มีการบริโภคบิสกิตในประเทศค่อนข้างสูง เนื่องจากผู้บริโภคในประเทศส่วนใหญ่จะซึมซับวัฒนธรรมการบริโภคมาจากประเทศแถบยุโรป อีกทั้งโรงงานผลิตขนมบิสกิตในประเทศยังมีขนาดเล็กไม่เพียงพอกับปริมาณความต้องการบริโภคในประเทศ นอกจากนี้ การเปิดกว้างด้านกฎระเบียบทางภาษีที่ไม่เรียกเก็บภาษีกับสินค้าขนมบิสกิตจากต่างประเทศ ทำให้สัดส่วนการนำเข้าเพื่อการบริโภคในประเทศ มีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 78 ของการนำเข้าบิสกิตโดยรวม ในปี 2550 สิงคโปร์นำเข้าบิสกิต มูลค่า 162.95 ล้าน$US (ประมาณ 5,500 ล้านบาท) โดยร้อยละ 64.4 เป็นการนำเข้าผลิตภัณฑ์ ขนมปัง เค้ก เพสทรี ผลิตภัณฑ์อาหารกรอบปรุงรส ร้อยละ 28 เป็นคุกกี้หรือบิสกิตหวาน ร้อยละ 7.1 เป็นกลุ่มแวฟเฟิลและเวเฟอร์ ประชากรสิงคโปร์บริโภคบิสกิตนำเข้า 3.3 กิโลกรัมต่อคนต่อปี หรือประมาณ 15,000-16,000 ตันต่อปี ในช่วง 2-3 ปีมานี้ บริษัทยักษ์ใหญ่ชั้นนำของโลกได้ใช้ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และจีนเป็นฐานการผลิตขนมบิสกิต และมีการแข่งขันกันทำตลาดในสิงคโปร์อย่างมาก ทั้งในรูปแบบของการโฆษณา กิจกรรมการตลาดส่งเสริมการขายรูปแบบต่างๆ การกระจายช่องทางจัดจำหน่าย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีกจำนวนมากทั้งซูเปอร์มาร์เก็ต/ไฮเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ทำให้ผู้ผลิตบิสกิต รายเล็กๆ ถูกเบียดออกจากช่องทางโมเดิร์นเทรดเหล่านี้ เนื่องจากสินค้ามีการหมุนเวียนน้อยหรือมียอดจำหน่ายไม่เป็นไปตามเป้า รวมทั้งมีการแข่งขันด้านราคาสูงมาก ช่องทางสำหรับขนมบิสกิตของ SMEs จึงลงมาอยู่ที่ร้านค้าปลีกขนาดเล็กตามตรอกซอกซอย ซึ่งใช้กลยุทธ์เรื่องราคาถูกในการแข่งขันทำให้ยังมียอดขายอยู่ได้ ประเด็นที่ส่งผลต่อตลาดสิงคโปร์ที่น่าสนใจคือผู้บริโภคมีความอ่อนไหวต่อราคามากขึ้น ทำให้ความภักดีต่อ แบรนด์ลดลง มีความต้องการสินค้าที่ตอบสนองความพอใจในแต่ละเพศและวัยมากขึ้น และความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ คาดว่าตลาดบิสกิตสิงคโปร์จะเติบโตในอัตราเฉลี่ยประมาณร้อยละ 5 -10 ต่อปีในสถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้โดยสินค้าคุณภาพต่ำที่เป็นแบรนด์ท้องถิ่นนำเข้าจากประเทศในเอเชีย เช่น มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย จะมียอดขายลดลง เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันกับการทำตลาดอย่างรุนแรงและการแข่งขันด้วยราคาของแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกได้ “ปัจจุบัน ไทยมีโรงงานผลิตภัณฑ์บิสเกตประมาณ 200 โรงงาน มีสัดส่วนขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ใกล้เคียงกัน ล่าสุด ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2551 ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์บิสกิตมูลค่ารวม 2,571 ล้านบาท โดยตลาดส่งออกที่สำคัญของไทย ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร เมื่อพิจารณาสัดส่วนการส่งออกจำแนกตามตลาดส่งออกพบว่า ตลาดส่งออกบิสกิตค่อนข้างที่จะกระจายตัว โดยตลาดส่งออก 5 อันดับแรกมูลค่าส่งออกรวมกันไม่ถึงร้อยละ 50 ของมูลค่าส่งออกรวม เดือน ม.ค. - มิ.ย. 2551 ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์บิสกิตไปสิงคโปร์มูลค่ารวม 122.71 ล้านบาท ปริมาณ 832.5 ตัน มูลค่าส่งออกขยายตัวจากปีที่แล้วถึงร้อยละ 42.65 โดยผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกมากที่สุดคือ บิสกิตหวานมีโกโก้ ขนมปังกรอบ และผลิตภัณฑ์ประเภทขนมปัง” ดร. ยุทธศักดิ์ กล่าวย้ำ แม้สิงคโปร์จะไม่ใช่ตลาดหลักของผลิตภัณฑ์บิสกิตของไทยแต่การส่งออกในตลาดนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการขนาดเล็ก ดังนั้นประเด็นสำคัญที่อุตสาหกรรมบิสกิตของไทยต้องปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสำหรับตลาดบิสกิตในประเทศสิงคโปร์ คือ การแข่งขันกับผู้ผลิตขนมบิสกิตรายใหญ่ โดยการพัฒนาสินค้าไปสู่ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะแบบไทย/เอเชีย เน้นใช้ส่วนผสมจากธัญพืชหรือผลไม้ที่มีในประเทศ และให้ข้อมูลคุณประโยชน์ที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ เพื่อเน้นจับกลุ่มลูกค้าที่ห่วงใยสุขภาพ ขณะเดียวกันควรปรับปรุงหีบห่อที่ใช้บรรจุสินค้าให้มีความทันสมัย สะดวกต่อการบริโภค ใช้ขนาดบรรจุที่ควบคุมปริมาณแคลอรีที่เหมาะสมต่อการบริโภค 1 มื้อ และปรับปรุงภาพลักษณ์สินค้าให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นด้านคุณภาพและความปลอดภัย ก็จะทำให้สินค้ามีความเป็นพรีเมียมมากขึ้น สามารถวางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดได้ หรือส่งออกต่อไปยังตะวันออกกลางได้โดยใช้เครือข่ายทางการค้าที่สิงคโปร์มีความชำนาญ รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : บริษัท โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด สุขกมล งามสม โทร. 0 2 158 9416-8 /0 8 9484 9894, สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวสถาบันอาหารชี้+ผู้ประกอบการวันนี้

สถาบันอาหารชี้ตลาดอาหารนาโน(Nanofood)อนาคตไกล มูลค่าตลาดทั่วโลกกว่า 20 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี

สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม เผยอาหารนาโน(Nanofood) เป็นตลาดอาหารแห่งอนาคต มีแนวโน้มเติบโตสูง มูลค่าตลาดทั่วโลกสูงกว่า 20 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2553 ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์อาหารนาโนออกสู่ตลาดทั่วโลกแค่ 4 ประเภท คือ 1)ชานาโน (Nanotea) 2)น้ำมันปรุงอาหารที่มีหยดน้ำมันขนาดนาโน(Nanosized droplets) 3)ขวดเบียร์พลาสติกที่เคลือบภายในด้วยวัสดุไนลอนนาโนเทค และ4) ช็อคโกแล็ตเชค (Chocolate Shake) ที่ใช้เทคนิค Nanoclusters เหตุเพราะการวิจัยและพัฒนายังจำกัดในวงแคบ ทั้งมีข้อกังวล

สถาบันอาหารชี้อุตฯอาหารไทย 6 เดือนแรกปี 53 ส่งออก 4.1 แสนล้านบาท มั่นใจสิ้นปีทะลุ 8.3 แสนล้านบาท...พุ่งเป้าตลาดอาเซียน

3 องค์กรเศรษฐกิจ เผยภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารไทย 6 เดือนแรกของปี 53 ขยายตัวทั้งภาคการผลิตและส่งออก ดัชนีผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 ส่งออกมีมูลค่า 411,463 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.9 ...

สถาบันอาหาร ชวนผู้ประกอบการไทย เปิดโลกธุรกิจ สร้างโมเดลให้ SMEs สู่ยุคแห่งนวัตกรรมแบบเปิด

สถาบันอาหารชี้ช่องสร้างธุรกิจ SMEs ไทยให้แข็งแรง เปิดโลกธุรกิจศตวรรษที่ 20 ด้วยนวัตกรรมแบบเปิด (Open Innovation) แนะผู้ประกอบการด้านอาหารต้องเปิดทัศนคติเพื่อรับความรู้จากแหล่งต่างๆ มาผสมผสานกับความรู้ที่มีอยู่...

สถาบันอาหารชี้ ระบบแจ้งเตือนความปลอดภัยอาหารเครื่องมือสร้างความปลอดภัยอาหารของอาเซียน

สถาบันอาหาร ประกาศความพร้อมสนองตอบต่อระบบแจ้งเตือนภัยเร่งด่วนด้านความปลอดภัยอาหาร และอาหารสัตว์ (ARASFF) ของ มกอช. อาสาร่วมยกระดับความปลอดภัยในอาหาร สร้างความเชื่อมั่นในระดับสากล จากความพร้อมของสถาบันอาหาร...

อนาคตกุ้งไทยฉลุย สถาบันอาหารชี้ แนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องทั้งปี

สถาบันอาหาร ฟันธงอนาคตกุ้งไทยสดใส ส่งออกเติบโตเกือบร้อยละ 12 ต่อปี ไตรมาสแรกปี 2553 คิดเป็นมูลค่า 20,594 ล้านบาท มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา กุ้งไทยมีโอกาสขยายตัวโดดเด่นต่อเนื่องจากปัจจัยบวก ทั้ง...

อุตสาหกรรมส่งออกปลาร้าไทย ถึงเวลาผ่าทางตันเรื่องความปลอดภัย

สถาบันอาหารชี้อุตสาหกรรมปลาร้าไทยยังต้องเผชิญอุปสรรคเรื่องมาตรฐานการผลิต ความสะอาดและความปลอดภัย แนะต้องควบคุมคุณภาพ ขั้นตอนการผลิต และบรรจุภัณฑ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ตลาดต่างประเทศที่เข้มงวดเรื่องสุขอนามัย เผยยอดส่งออกไม่รุ่งได้แค่ปีละ...

สถาบันอาหารชี้ “สินค้าแปรรูป” โอกาสของอุตฯ อาหารไทย ในตลาดโลก

สถาบันอาหาร ระบุการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารไทยจากนี้ไป ต้องมุ่งเพิ่มสัดส่วนส่งออก “สินค้าแปรรูป” ให้เพิ่มสูงขึ้น เน้นส่งออกสินค้าปริมาณน้อย แต่มีรายได้เข้าประเทศมากขึ้น เลี่ยงการแข่งขันกับประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และมีต้นทุน...

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ผลกระทบส่งออกอาหารไทย “สถาบันอาหาร” สบช่องใช้วิกฤติเร่งผลักดันยอดส่งออกอุตฯ อาหาร

สถาบันอาหารชี้ช่องผู้ประกอบการส่งออกอาหารไทยใช้วิกฤติเป็นโอกาส ผลักดันยอดส่งออกอาหารเพิ่มขึ้น โดยการสร้างความเชื่อมั่นในระบบการเลี้ยงที่ได้มาตรฐานของไทย เพื่มมูลค่าการส่งออก...

ผู้ประกอบการไทยคลายวิตก สถาบันอาหารชี้ช่องผลิตภัณฑ์อาหารอนาคตใส… ฟันฝ่าวิกฤติ ปี 2552

สถาบันอาหาร เตือนผู้ประกอบการอย่าหวั่นวิตกกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย แนะเดินหน้าสู้วิกฤติด้วยผลิตภัณฑ์อาหารที่มีอนาคตในปี 52 ชี้ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพมาแรง เติบโตสูง อนาคตไกล เจาะ 4 กลุ่มผู้บริโภคหลัก ที่มีแนวโน้มการเติบ...