ฟิทช์ปรับลดอันดับเครดิตของธนาคารไทย 4 แห่งหลังจากอันดับเครดิตของประเทศถูกปรับลดลง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--17 เม.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับลดอันดับเครดิตสากลของธนาคารไทย 4 แห่งและปรับแนวโน้มอันดับเครดิตสากลของธนาคารดังกล่าวเป็นมีเสถียรภาพจากแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ การปรับอันดับเครดิตสากลและแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารไทยดังกล่าว เป็นผลมาจากการที่ฟิทช์ได้ปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ และอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาวของประเทศไทยเป็น ‘BBB’ จาก ‘BBB+’ และเป็น ‘A-’ (A ลบ) จาก ‘A’ ตามลำดับ พร้อมทั้งปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของประเทศไทยเป็นมีเสถียรภาพจากแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ นอกจากนี้ ฟิทช์ยังได้ปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นของประเทศไทยเป็น ‘F3’ จาก ‘F2’ และปรับลด Country Ceiling เป็น ‘BBB+’ จาก ‘A-’ (A ลบ) การปรับลดอันดับเครดิตสากลของธนาคารกรุงไทย (KTB) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM) สะท้อนถึงการอ่อนแอลงของความสามารถของรัฐบาลที่จะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารทั้ง 2 แห่ง หากมีความจำเป็น โดยกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน (FIDF) ที่จัดตั้งโดยธนาคารแห่งประเทศไทยถือหุ้น KTB อยู่ 55% ในขณะที่กระทรวงการคลังถือหุ้นทั้งหมดใน EXIM การปรับลดอันดับเครดิตสากลของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) (SCBT) และ ธนาคารยูโอบี (UOBT) เป็นผลมาจากการปรับลด Country Ceiling ของประเทศไทย โดย Country Ceiling ได้พิจารณาถึงความเสี่ยงในด้านการโอนเงินออกนอกประเทศ และการแลกเปลี่ยนสกุลเงินในประเทศเป็นสกุลเงินต่างประเทศ (transfer and convertibility risks) และจำกัดระดับของการสนับสนุนจากบริษัทแม่ที่อยู่ในต่างประเทศที่มีต่อธนาคารไทยที่เป็นบริษัทลูก ที่สะท้อนอยู่ในอันดับเครดิตสากลระยะยาวของบริษัทลูก สำหรับอันดับเครดิตสากลของธนาคารเอกชน 5 แห่ง ซึ่งรวมถึง ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) และธนาคารทหารไทย (TMB) ไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับลดอันดับเครดิตของประเทศ เนื่องจากอันดับเครดิตของธนาคาร 5 แห่งดังกล่าวมีปัจจัยหลักมาจากความแข็งแกร่งทางการเงินของตัวธนาคารเอง ซึ่งยังจัดว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม การหดตัวที่รุนแรงของเศรษฐกิจ (ฟิทช์ประมาณการว่าเศรษฐกิจไทยจะติดลบ 3.8% ในปี 2552) อาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของธนาคารในอีก 2 ปีข้างหน้า ดังนั้นแนวโน้มอันดับเครดิตสากลของธนาคารเอกชนทั้ง 5 แห่งจึงยังคงเป็นลบอยู่ การถือหุ้นและการควบคุมของรัฐบาลในธนาคารเอกชนอยู่ในระดับที่จำกัดและธนาคารเอกชนมีการลงทุนในตราสารของรัฐบาลไทยและมีการปล่อยสินเชื่อให้รัฐบาลรวมกันในสัดส่วนที่ต่ำกว่า 20% ของสินทรัพย์ ซึ่งเป็นระดับที่ไม่สูงนัก เนื่องจากการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) เป็นการจัดอันดับในเชิงเปรียบเทียบระหว่างอันดับเครดิตของประเทศและบริษัทผู้ออกตราสารหนี้อื่นๆในประเทศไทย ดังนั้นจึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของอันดับเครดิตภายในประเทศในขณะนี้ ทั้งนี้อันดับเครดิตภายในประเทศของ KTB EXIM SCBT และ UOBT ได้รับการคงอันดับโดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ รายละเอียดของอันดับเครดิตของธนาคารที่ได้รับผลกระทบมีดังนี้ ธนาคารกรุงไทย: - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-term Foreign Currency Issuer Default Rating (IDR)) ปรับลดเป็น ‘BBB’ จาก ‘BBB+’ / แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นปรับลดเป็น ‘F3’ จาก ‘F2’ - อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินคงไว้ที่ ‘C/D’ - อันดับเครดิตสนับสนุนคงไว้ที่ ‘2’ - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิปรับลดเป็น ‘BBB-’ (BBB ลบ) จาก ‘BBB’ - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของตราสารหนี้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Tier 1 hybrid) ปรับลดเป็น ‘BB’ จาก ‘BB+’ - อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ(Support Rating Floor) ปรับลดเป็น ‘BBB’ จาก ‘BBB+’ - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงไว้ที่ ‘AA+(tha)’ / แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงไว้ที่ ‘F1+(tha)’ - อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิคงไว้ที่ ‘AA(tha)’ - อันดับเครดิตภายในประเทศของ Hybrid Tier 1 Securities คงไว้ที่ ‘A(tha)’ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย: - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว IDR ปรับลดเป็น ‘BBB’ จาก ‘BBB+’/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นปรับลดเป็น ‘F3’ จาก ‘F2’ - อันดับเครดิตสนับสนุนคงไว้ที่ ‘2’ - อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ ปรับลดเป็น ‘BBB’ จาก ‘BBB+’ - อันดับเครดิตภายในประเทศ ระยะยาวคงไว้ที่ ‘AAA(tha)’ / แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงไว้ที่ ‘F1+(tha)’ - อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันคงไว้ที่ ‘AAA(tha)’ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย): - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและสกุลเงินในประเทศระยะยาว IDR ปรับลดเป็น ‘BBB+’ จาก ‘A-’ (A ลบ) /แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและสกุลเงินในประเทศระยะสั้นคงไว้ที่ ‘F2’ - อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินคงไว้ที่ ‘B/C’ - อันดับเครดิตสนับสนุนปรับลดเป็น ‘2’ จาก ‘1’ - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงไว้ที่ ‘AA+(tha)’ / แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงไว้ที่ ‘F1+(tha)’ ธนาคารยูโอบี: - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว IDR ปรับลดเป็น ‘BBB+’ จาก ‘A-’ (A ลบ) /แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นคงไว้ที่ ‘F2’ - อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินคงไว้ที่ ‘C’ - อันดับเครดิตสนับสนุนปรับลดเป็น ‘2’ จาก ‘1’ - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงไว้ที่ ‘AA+(tha)’ / แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงไว้ที่ ‘F1+(tha)’ นักลงทุนสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม ในเรื่องการปรับลดอันดับเครดิตสากลของประเทศไทยได้จากที่www.fitchresearch.com ติดต่อ พชร ศรายุทธ; Vincent Milton, กรุงเทพฯ +662 655 4755

ข่าวธนาคารไทยดังกล่าว+ฟิทช์ เรทติ้งส์วันนี้

BAFS เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ชูดอกเบี้ย 4.75 - 5.10% ต่อปี คาดเปิดจองซื้อแก่ "สถาบัน-รายใหญ่" วันที่ 9 - 14 พ.ค. นี้ รองรับการขยายตัวธุรกิจในอนาคต

BAFS เตรียมออกหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี 9 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ [ 4.75 5.10 ] % ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือ "BBB (tha)" จาก ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) เตรียมเสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน นักลงทุนรายใหญ่ คาดจองซื้อระหว่างวันที่ 9 และ 13 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย), บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส และ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี ม.ล. ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล

ฟิทช์คงอันดับเครดิตของ บล. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ 'AA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LHS ที่ 'AA(tha)' และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น ...

ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส และ บจก.แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค ในเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ (Rating Watch Negative; RWN) ของอันดับเครดิต บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) และบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ท...