โครงการ “สัมผัสกาย สัมผัสรัก สัมผัสจิตอาสา” รุ่น ๒

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--6 ก.พ.--โครงการสื่อสารสร้างสุข สสส.

ความสำคัญและประเด็นสุขภาพที่เกี่ยวข้อง มูลนิธิสุขภาพไทยเป็นองค์กรสาธารณะประโยชน์ มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปมีความรู้ในการดูแลสุขภาพตนเอง บนพื้นฐานองค์ความรู้สุขภาพองค์รวม หมายถึงการดูแลสุขภาพที่คำนึงถึง กาย ใจ สิ่งแวดล้อม และสังคม อีกทั้งยังได้ขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังผู้ที่ขาดโอกาสในสังคม เช่น ชาวบ้านในชุมชน เกษตรกร ฯลฯ อีกด้วย ที่ผ่านมามูลนิธิฯ ได้ดำเนินงานหลายด้านเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมาย เช่น การส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปได้พึ่งพิงตนเองโดยการบริโภคอาหารปลอดสารพิษหรือการใช้สมุนไพรในการดุแลสุขภาพตนเอง การส่งเสริมการนวดตนเอง โยคะ ชี่กง อายุรเวท โดยการนำความรู้ศาสตร์ทางตะวันออกมาใช้ในการดูแลตนเอง มูลนิธิฯยังมุ่งส่งเสริมแนวทางสุขภาพองค์รวมไปสู่กลุ่มเป้าหมายครอบครัวและเด็ก เช่น การอบรมการดูแลสุขภาพแม่และเด็กด้วยภูมิปัญญาไทย และการนวดสัมผัสเด็กทารกด้วยศาสตร์ความรู้ทางตะวันตกเพื่อเสริมพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ให้แก่เด็ก นอกจากนี้ เมื่อช่วงเข้าพรรษา ปี 2548 ระหว่างเดือน สิงหาคม ถึงตุลาคม 2548 มูลนิธิฯ ร่วมเครือข่ายพุทธิกา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก สสส. ทำการรณรงค์เรื่อง “ จิตอาสา ปันศรัทธาและอาทร” และช่วงเข้าพรรษาปี 2549 ระหว่างเดือนกรกฎาคม ถึง ธันวาคม 2549 มูลนิธิฯ ร่วมเครือข่ายพุทธิกา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก สสส. ทำการรณรงค์เรื่อง “ จิตอาสา ปันศรัทธาและอาทร ปี 2 ”โดยนำเอาหลักธรรมะเรื่องการทำบุญมารณรงค์ ซึ่งนำเสนอการทำบุญในรูปแบบการสละแรงกาย แรงใจ และยังสามารถช่วยพัฒนากล่อมเกลาจิตใจให้กับอาสาสมัครในฐานะที่เป็นทั้งผู้ให้และผู้รับได้ อีกทั้งการรณรงค์เรื่อง “จิตอาสา” ยังสามารถเผยแพร่ไปสู่สังคมไทยได้โดยกว้าง ในช่วงเดือนตุลาคม 2550-กุมภาพันธ์ 2551 ที่ผ่านมาทางมูลนิธิฯได้รับการสนับสนุนจาก สสส. ทำการรณรงค์เรื่อง “สัมผัสกาย สัมผัสรัก สัมผัสจิตอาสา” ที่เป็นการทำกิจกรรมตลอดระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ให้ประชาชนทั่วไป นิสิต นักศึกษา เยาวชน ได้ทำกิจกรรมจิตอาสาเพื่อเด็กที่ด้อยโอกาสใน สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด จ.นนทบุรี และเป็นการทำความดีทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 ซึ่งสอดคล้องกับกิจกรรมหลักของโครงการ “ทำดีเพื่อพ่อ” ของ สสส. อีกทั้งกิจกรรมดังกล่าวยังก่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาวะองค์รวมของอาสาสมัครและตัวเด็กเอง และยังแสดงให้เห็นถึงแนวคิดเกี่ยวกับบุญที่เป็นรากฐานของสังคมไทยมาช้านานให้มีพลังในการสร้างสรรค์สังคมไทย มิใช่จำกัดตัวอยู่แต่ในวัดหรือการให้ทานโดยการให้เงินเท่านั้น มูลนิธิฯ เล็งเห็นว่าการทำกิจกรรมตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมาได้ก่อให้เกิดผลดีหลายประการ ตลอดจนอาสาสมัครหลายท่านมีความประสงค์อยากทำงานต่อเนื่อง และต้องการชักชวนให้เพื่อน ๆ ได้มาทำกิจกรรมที่ส่งผลดีต่อสุขภาวะ อีกทั้ง เป็นการชักชวนให้ นิสิต นักศึกษา เยาวชน ได้ทำกิจกรรมจิตอาสาเพื่อเด็กที่ด้อยโอกาสในสังคม ทางมูลนิธิสุขภาพไทย จึงจัดทำโครงการ “สัมผัสกาย สัมผัสรัก สัมผัสจิตอาสา” ระยะที่ 2 ขึ้น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่นำศาสตร์ความรู้เรื่องการนวดสัมผัสเด็กทารก และการส่งเสริมการอ่านหนังสือให้แก่เด็ก ซึ่งจะเป็นการหัดอ่านหนังสือ สอนหนังสือแบบง่ายให้กับเด็กๆ เช่น การเขียน ก – ฮ A – Z อ่านหนังสือนิทานให้ฟัง ฝึกวาดรูประบายสี เพื่อกระตุ้นพัฒนาการ มอบความรักและเป็นการส่งเสริมให้เด็กในสถานสงเคราะห์ฯ เกิดจิตสำนึกรักการอ่าน อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียน โดยทางมูลนิธิฯมุ่งหวังให้เกิดมรรคผลอย่างต่อเนื่อง จึงได้กำหนดระยะเวลาการทำงานเพิ่มขึ้นจากระยะที่ 1 ที่ทำงานเพียง 6 เดือน แต่ในระยะที่ 2 กำหนดไว้ 12 เดือน ตั้งแต่ เดือนกรกฎาคม 2551- ตุลาคม 2552 วัตถุประสงค์ 1.) เพื่อสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษาและบุคคลทั่วไป เกิดจิตสำนึกจากการเป็นอาสาสมัครในการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวม 2.) เพื่อสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษาและบุคคลทั่วไป ได้สร้างเสริมสุขภาวะและพัฒนาศักยภาพทางด้านจิตใจ ปัญญาของตนเองจากงานอาสาสมัคร 3.)เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ในการนวดเด็ก ไปสู่ชุมชน สถานศึกษาและหน่วยงานราชการ 4.) เพื่อสร้างและขยายเครือข่ายความร่วมมือกับองค์กรที่ทำงานด้านจิตอาสากับสถานศึกษา ชุมชน และหน่วยงานราชการ 5.)เพื่อถอดบทเรียนการเป็นอาสาสมัคร ที่สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาการของเด็กๆในสถานสงเคราะห์และสังคม 6.)เพื่อผลักดันให้สถานสงเคราะห์ฯ เปิดพื้นที่งานอาสาสมัครเพิ่มมากขึ้น กลุ่มเป้าหมายและพื้นที่ดำเนินงาน กลุ่มเป้าหมายหลัก เปิดรับอาสาสมัคร 2 รุ่น จำนวนรุ่นละ 100 คน รวม 2 รุ่น 200 คน แบ่งประเภท 1. อาสาสมัครทั่วไป จำนวน 70 คน 2. นักเรียนและนักศึกษา จำนวน 30 คน กลุ่มเป้าหมายรอง เด็กๆในสถานสงเคราะห์ทั้ง 2 รุ่น จำนวนรุ่นละ 100 คน ดังนี้ 1. เด็กทารกอายุ 4 เดือนถึง 1 ปี 5 เดือน จำนวน 40 คน 2. เด็กอายุตั้งแต่ 2 - 6 ปี จำนวน 60 คน สถานที่จัดกิจกรรม สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด จ.นนทบุรี การดำเนินกิจกรรม เปิดรับอาสาสมัคร 2 รุ่น รุ่นที่ 1 ระหว่างเดือน กรกฎาคม – ธันวาคม 2551 รุ่นที่ 2 ระหว่างเดือน มกราคม – กรกฎาคม 2552 ระยะเวลาดำเนินการคือทุกวันพุธ พฤหัสบดี เสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 12.00 น. จำนวนอาสาสมัครวันละ 25 คน รูปแบบกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน 1. เตรียมความพร้อมกับสถานสงเคราะห์และสหทัยมูลนิธิ เพื่อรองรับงานอาสาสมัคร - ประชุมระดมความคิดเห็น เพื่อกำหนดแนวทางในการทำงานกับอาสาสมัครให้เป็นไปตรงกันและอย่างต่อเนื่อง 2. ฝึกอบรมอาสาสมัครผ่านการปฐมนิเทศ ผ่านเนื้อหา - การเตรียมความพร้อมในการเป็นอาสาสมัคร - ศึกษาคุณประโยชน์และวิธีการนวดสัมผัสเด็กทารก - ศึกษาพัฒนาการและวิธีเสริมพัฒนาการเด็กในแต่ละวัย - เรียนรู้สิทธิของเด็กในสถานสงเคราะห์ - เรียนรู้ข้อปฏิบัติในการอยู่ร่วมกันในสถานสงเคราะห์ฯ - เรียนรู้และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างอาสาสมัครและองค์กรภาคี 3. จัดกิจกรรมประเมิณผลและสรุปบทเรียน - ประชุมกลุ่มย่อยในแต่ละวัน เพื่อสรุปบทเรียนและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ - เวทีสรุป ถอดบทเรียนและขยายผลกิจกรรมงานอาสาสมัครในภาพรวม เช่นการติดตามประเมินผลหลังสิ้นสุดโครงการว่ามีการทำอาสาสมัครต่อเนื่องมากน้อยเพียงใด ตลอดระยะเวลที่ทำกิจกรรมเด็กและตัวอาสาสมัครเองมีพัฒนาการ การเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง ฯ 4. ตารางการดำเนินงานประะจำวันของอาสาสมัคร 09.00 – 09.10 น. อาสาสมัครลงทะเบียนร่วมกิจกรรม 09.10 – 09.30 น. อาสาสมัครไปรับน้องๆที่บ้าน 09.30 – 10.30 น. ดูแลและทำกิจกรรมกับน้อง ตลอดจนกิจกรรมกระตุ้นพัฒนาการเด็ก เช่น - นวดสัมผัสเด็กทารก - อ่านหนังสือ และสอนหนังสือ ฯลฯ 10.30 – 11.00 น. ป้อนข้าวน้องๆ 11.00 – 11.30 น. อาบน้ำให้น้องๆและส่งกลับบ้าน 11.30 – 12.00 น. สรุปบทเรียนและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ 12.00 – 12.30 น. จดบันทึกพัฒนาการเด็กในแต่ละวัน และรับประทานอาหารร่วมกัน การประเมินผลและการติดตามโครงการ ทีมนักวิชาการประเมินผล ที่มีความรู้ด้านพัฒนาการของเด็ก และการดำเนินงานด้านจิตอาสา โดยดำเนินงานแบบอาสาสมัคร ทั้งนี้ในแต่ละกลุ่มมีเวทีสรุปบทเรีบนและขยายผลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สหทัยมูลนิธิ สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการ เป็นต้น ความต่อเนื่องยั่งยืน และการขยายผล 1.) หลังจากที่โครงการเสร็จสิ้นลง อาสาสมัคร เจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์และเจ้าหน้าที่สหทัยมูลนิธิสามารถนำองค์ความรู้ในการนวดเด็กทารก ไปนวดเด็กในสถานสงเคราะห์และยังสามารถนวดเด็กคนอื่นๆได้ เพื่อกระตุ้นพัฒนาให้เป็นไปตามวัยและสามารถกระทำได้อย่างต่อเนื่องจนกว่าเด็กจะมีอายุถึง 1 ขวบ 2.)หลังจากเกิดชุดองค์ความรู้ในการนวดเด็ก และเผยแพร่สู่สาธารณะนั้น ซึ่งสามารถที่จะกระตุ้นและผลักดันให้ชุดองค์ความรู้นวดเด็กได้เข้าไปอยู่ในระบบการศึกษา 3.) หลังจากที่โครงการเสร็จสิ้นลง อาสาสมัครได้ผลักดันตนเองเข้าไปเป็นอาสาสมัครในสถานสงเคราะห์ เพื่อกระตุ้นพัฒนาการงานอาสาสมัครในหน่วยงานราชการ 4.) ได้ขยายผลด้านงานอาสาสมัครสู่สังคมวงกว้างมากขึ้น 5.) อาสาสมัครได้รับการส่งเสริมการดูแลสุขภาวะทางจิตใจและปัญญาเพิ่มขึ้น ตัวชี้วัด 1.) มีอาสามัครสนใจเข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 200-300 คน 2.) องค์ความรู้เรื่องนวดสัมผัสเด็กทารกได้ถูกขยายผลไปในหมู่มหาวิทยาลัย โรงเรียน และประชาชนทั่วไป 3.) เด็กในสถานสงเคราะห์มีพัฒนาการเป็นไปตามวัยอย่างเหมาะสม 4.) ทางสถานสงเคราะห์ฯ หน่วยงานราชการและเอกชนให้ความสำคัญด้านงานอาสาสมัครมากขึ้น 8. องค์กรภาคีร่วมงาน 1. สหทัยมูลนิธิ 2. สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด จ. นนทบุรี 3. เครือข่ายพุทธิกา 4. มูลนิธิโกมลคีมทอง รับผิดชอบโครงการ น.ส.นริศรา อารมณ์ชื่น มูลนิธิสุขภาพไทย ประสานงาน "เวทีสร้างสุข" โครงการสื่อสารสร้างสุข สสส. ๖๕๓/๔๓ ซ.๔๑ ถ.จรัญสนิทวงศ์ อรุณอมรินทร์ บางกอกน้อย กทม. ๑๐๗๐๐ โทร.๐๘๙-๘๙๒๑๗๙๑

ข่าวมูลนิธิสุขภาพไทย+การบริโภคอาหารวันนี้

สสส.หนุนคนรุ่นใหม่เป็นจิตอาสา เติมพลังมหัศจรรย์ 1,000 วัน สร้างภูมิคุ้มกันเด็กด้อยโอกาสในสถานสงเคราะห์

สสส. เดินหน้าหนุนอาสาสร้างสุข ส่งเสริมคนรุ่นใหม่เป็นจิตอาสา ร่วมเติมพลังมหัศจรรย์สร้างภูมิคุ้มกันเด็กในสถานสงเคราะห์ รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ย้ำเด็กหนึ่งคนต้องมีแม่เป็นผู้ใหญ่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการ โดยเฉพาะ 1,000 วันแรกของชีวิตมีความหมายและสำคัญยิ่ง เด็กที่มีพี่อาสาจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ทั้งกายภาพและพฤติกรรมทางอารมณ์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด จ.นนทบุรี มูลนิธิสุขภาพไทย ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรม "วันคนอาสาสร้างสุขและเปิดบ้าน

สสส. เดินหน้าหนุนอาสาสร้างสุข ส่งเสริมคนร... จิตอาสาในสถานสงเคราะห์เด็ก “นางฟ้า” เติมพลังมหัศจรรย์1,000 วัน — สสส. เดินหน้าหนุนอาสาสร้างสุข ส่งเสริมคนรุ่นใหม่เป็นจิตอาสา ร่วมเติมพลังมหัศจรรย์สร้างภูม...

เครือข่ายสุขภาพไทยชี้วัฒนธรรมอาหารมีความส... เครือข่ายสุขภาพชูอาหารสร้างชาติ เน้นย้ำ “สุขภาพดีเริ่มที่ห้องครัว” — เครือข่ายสุขภาพไทยชี้วัฒนธรรมอาหารมีความสำคัญเชื่อมโยงภาคเศรษฐกิจ สังคม สะท้อนความเจร...

พบกันอีกครั้งกับมหกรรมอาหารและสุขภาพวิถีไ... มหกรรมอาหารและสุขภาพวิถีไท ชู“น้ำพริก”สะท้อนวิถีการกินคนไทย — พบกันอีกครั้งกับมหกรรมอาหารและสุขภาพวิถีไท ครั้งที่ 2 ณ อิมแพคเมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 25-...

มูลนิธิสุขภาพไทย แถลงข่าวการจัดงาน มหกรรมอาหารและสุขภาพวิถีไท ครั้งที่ 2 ตอน น้ำพริกถ้วยเก่า

ในยุคที่ผู้บริโภคพึ่งพาร้านสะดวกซื้อเป็นแหล่งอาหารมื้อหลัก ทำให้ "น้ำพริก" และเครื่องเคียงต่างๆ ค่อยๆ เลือนหายไป แล้วอะไรจะเกิดขึ้นถ้าคนไทยลืม "น้ำพริกถ้วยเก่า" ไปอย่างถาวร น้ำพริกถ้วยเล็ก แต่ไม่ได้ด้อยคุณค่า...

เมื่อศิลปินมีอารมณ์ป่วน

นุ่น-ศิระพันธ์ วัฒนจินดา อ้อม-สุนิสา สุขบุญสังข์ และเจ-เจตมนต์ มละโยธา นักร้องนำวงเพนกวิน วิลล่า และผู้บริหารค่ายเพลงห้องเล็กเล็ก แห่งสมอลล์รูม จะมาแบหัวใจ ให้รู้จักตัวตนด้านในที่แท้ของพวกเขา ในการเสวนาการจัดการ “อารมป่วนของ” เหล่าดารา โดย “พุทธิกา” เครือข่ายองค์กรที่...

กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เชิญร่วมพิธีเปิด งานมหกรรมสมุนไพร ครั้งที่ 6

กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ องค์การเภสัชกรรม สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา...

กระทรวงสาธารณสุข จัดมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ ๖

กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ องค์การเภสัชกรรม สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้าง...