อุตสาหกรรมเหล็กชูเหล็กต้นน้ำพาไทยผงาดในอาเซียน พร้อมมั่นใจสามารถบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและชุมชนได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--31 ก.ค.--บีโอไอ

รองประธานสภาอุตสาหกรรม ชูเหล็กต้นน้ำพาไทยผงาดเป็นผู้นำในอาเซียน เพราะจะช่วยสร้างขีดความสามารถแก่ทุกอุตสาหกรรมของไทย ลดต้นทุนจากการลดลีดไทม์ลงกว่าครึ่ง เชื่อมือผู้ผลิตเหล็กชั้นนำของโลกจะทำให้เหล็กต้นน้ำในไทยสามารถอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนได้ พร้อมช่วยต่อยอดไปสู่การสร้างอีโคทาวน์ หรือเมืองอุตสาหกรรมนิเวศ์ในไทย นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รองประธานสภาอุตสาหกรรม และประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีที่บริษัทนิปปอน สตีล และเจเอฟอี สตีล ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นแสดงความมั่นใจเรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อมและชุมชน หากเข้ามาลงทุนโครงการเหล็กต้นน้ำคุณภาพสูงในไทย ว่า หากทั้งสองบริษัทได้เข้ามาตั้งโรงเหล็กต้นน้ำคุณภาพสูงในประเทศไทย จะทำให้อุตสาหกรรมโดยรวมของไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งทำให้อุตสาหกรรมของไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียนไอย่างแท้จริง “หากเราสามารถผลิตเหล็กต้นน้ำคุณภาพสูงได้เอง จะทำให้แทบทุกอุตสาหกรรม ได้รับประโยชน์ เพราะ เหล็กเป็นวัสดุพื้นฐานของทุกอุตสาหกรรม ทั้งการก่อสร้าง เครื่องจักรกลการเกษตร อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยให้เกิดการพัฒนาของอุตสาหกรรมเหล็กขั้นกลางน้ำและปลายน้ำในไทย ด้วย เพราะเมื่อสามารถผลิตเหล็กต้นน้ำได้ ก็จะเกิดความชัดเจนในการวางแผนผลิตเหล็กขั้นกลางและขั้นปลายน้ำของไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” รองประธานสภาอุตสาหกรรมกล่าว นายพยุงศักดิ์กล่าวด้วยว่า ปัจจุบัน อุตสาหกรรมเหล็กถือเป็นอุตสาหกรรมที่ไม่มีอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม เพราะระยะเวลาที่ผ่านมา เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีในการผลิต และเทคโนโลยีในการควบคุมการปล่อยมวลสารต่างๆ ซึ่งผู้ผลิตเหล็กทั้งในญี่ปุ่นและในยุโรป ก็สามารถอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนได้เป็นอย่างดี “เชื่อว่าวันนี้ การพัฒนาอุตสาหกรรม จะต้องทำควบคู่กับการพัฒนาสิ่งแวดล้อม และชุมชน ผู้ลงทุนเหล็กต้นน้ำคุณภาพสูงก็เล็งเห็นถึงประโยชน์ร่วมกันในระยะยาว เพราะบริษัทที่ต้องการซื้อเหล็กคุณภาพสูงในประเทศมีจำนวนมาก จึงไม่มีเหตุผลที่จะเข้ามาระยะสั้นๆ และสร้างปัญหาให้กระทบการดำเนินธุรกิจของตนเอง” นายพยุงศักดิ์กล่าว นอกจากนี้ โครงการเหล็กต้นน้ำคุณภาพสูง ยังสามารถช่วยสนับสนุนให้เกิดเมืองอุตสาหกรรมนิเวศน์ หรือ อีโคทาวน์ ขึ้นในประเทศไทยได้ด้วย เพราะแนวคิดของอีโคทาวน์คือเมืองที่สามารถนำของเสีย ของเหลือใช้กลับมาใช้ใหม่ ซึ่งเหล็กก็คือวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% และยังสามารถนำความร้อนและก๊าซจากกระบวนการผลิต มาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าได้อีกด้วย ปัจจุบัน ไทยเป็นประเทศที่ใช้เหล็กรายใหญ่ในอาเซียนถึงปีละ 13 ล้านตัน ทำให้ภาคอุตสาหกรรมไทยมีต้นทุนการผลิตสูง เพราะราคาเหล็กในตลาดโลกผันผวน และการนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศต้องใช้เวลาในการสั่งซื้อนาน 3 – 4 เดือน แต่หากผลิตได้ในประเทศ จะทำให้เวลาในการสั่งซื้อและรับสินค้าลดลงเหลือเพียง 1 เดือน อย่างไรก็ตาม หากประเทศไทยไม่สามารถผลิตเหล็กต้นน้ำคุณภาพสูงได้เอง อาจส่งผลให้เกิดการย้ายฐานการผลิตของอุตสาหกรรมต่างๆ ออกจากประเทศไทย เพราะผู้ผลิตสินค้าก็ต้องแสวงหาแหล่งลงทุนที่ช่วยสร้างความสามารถในการแข่งขัน

ข่าวสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย+สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศวันนี้

ส.อ.ท. แนะรัฐเร่งมาตรการเชิงรุก หนุนความเชื่อมั่นภาคอุตฯ กลับสู่ทิศทางบวก

นายนาวา จันทนสุรคน รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) พร้อมด้วย ดร.วิรัช ฉัตรดรงค์ รองประธานสายงานเศรษฐกิจและวิชาการ ส.อ.ท. ร่วมเปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2568 อยู่ที่ระดับ 88.1 ปรับตัวลดลง จาก 89.9 ในเดือนเมษายน 2568 ซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์อุทกภัยและการรั่วไหลของสารเคมีในภาคเหนือ กระทบต่อภาคเกษตรและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ประกอบกับคู่ค้าในต่างประเทศมีแนวโน้มชะลอการสั่งซื้อสินค้า จากการเร่งสต็อกสินค้าในช่วงก่อนหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มอุปกรณ์อิ

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิ... เปิดฉากงานแฟรนไชส์และโอกาสทางธุรกิจ TFBO 2025 — นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้าและบริการแฟรน...