บทวิจัยแนวโน้มตลาดทองคำ ประจำวันที่ 17-24 ก.ค. 52 โดย YLG Bullion International

17 Jul 2009

กรุงเทพฯ--17 ก.ค.--วีม คอมมูนิเคชั่น

ราคาทองคำในช่วงต้นของสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังค่าเงินดอลลาร์และเงินเยนเริ่มอ่อนค่าลงบ้างแล้ว หลังคาดกันว่ากำไรของธนาคารสหรัฐจะเพิ่มขึ้น อีกทั้ง รมว.คลังสหรัฐเปิดเผยในวันจันทร์ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญความเสี่ยง แต่กล่าวเสริมว่ามีโอกาสสูงที่เศรษฐกิจสหรัฐและประเทศชั้นนำอื่นๆจะเริ่มขยายตัวในช่วง 2 ไตรมาสข้างหน้า แต่อย่างไรก็ตามการที่ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าคาดมาก + ภาวะตลาดแรงงานสหรัฐที่ยังคงเปราะบาง + ปัญหาการขาดสภาพคล่องในยุโรปตะวันออก + ความวิตกต่อการจ่ายคืนหนี้ในตลาดพันธบัตรของ CIT Group Inc. จะยังคงกดดันไม่ให้เงินยูโรแข็งค่าได้มากนัก

ในช่วงกลางของสัปดาห์ ราคา ทองคำก็ยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากตัวเลขกำไรของหลายบริษัทที่ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์ได้ประเมินไว้ ไม่ว่าจะเป็นโกลด์แมน แซคส์ ที่ได้รับผลกำไรไตรมาสสองสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์และอันเดอร์ไรท์ที่ดีขึ้น โดยโกลด์แมน แซคส์มีกำไร 3.44 พันล้านดอลลาร์ หรือ 4.93 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงเดือนเม.ย. - มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่ากำไร 1.8 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ขณะที่อินเทล คอร์ป รายงานผลประกอบการดีกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ ด้วยกำไรสุทธิ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงไตรมาสที่ 2 อีกทั้ง เฟดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความมั่นในในทิศทางเศรษฐกิจมากขึ้น โดยเฟดเชื่อว่าเศรษฐกิจจะหดตัว 1-1.5% น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัว 1.3-2% + ตัวเลขเศรษฐกิจก็สนับสนุนการฟื้นตัว แม้จะเป็นไปอย่างๆช้าก็ตาม + ตัวเลขเงินเฟ้อเริ่มขยับขึ้น จากผลของราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นมามากในช่วงก่อนหน้า ซึ่งอาจกดอุปสงค์โดยรวมในระยะต่อไป อย่างไรก็ตาม ความวิตกต่อการจ่ายคืนหนี้ในตลาดพันธบัตรของ CIT Group Inc. (บริษัทผู้ออกพันธบัตรและหุ้นกู้เพื่อให้ธุรกิจขนาดกลางและเล็กกู้ โดยมีลูกค้ากว่า 1 ล้านราย) ที่อาจประสพภาวะล้มละลาย จากปัญหาการขาดสภาพคล่อง จนทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินคืนให้กับพันธบัตรที่กำลังจะหมดอายุลงได้ในเร็วๆนี้ และนี่อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะวิกฤตการเงินรอบใหม่ได้

สำหรับในช่วงปลายของสัปดาห์ ราคาทองคำมีแนวโน้มลดลงมากกว่าขึ้น แม้ตัวเลขกำไรของหลายบริษัทที่ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์ได้ประเมินไว้ โดย ไอบีเอ็ม บริษัทผู้ให้บริการคอมพิวเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลกเปิดเผยว่า รายได้สุทธิช่วงไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 12% สำหรับกูเกิล เจ้าของเสิร์ชเอ็นจิ้นที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก มีรายได้ในช่วงไตรมาส 2 ขยายตัวขึ้น 2.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ และ เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ธนาคารใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ รายงานผลกำไรไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 36% ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจวาณิชธนกิจที่แข็งแกร่ง อีกทั้ง+ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกร่วงลงอย่างรุนแรงในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ก.ค. โดยร่วงลง 4.7 หมื่นราย มาที่ 5.22 แสนราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. แต่ตัวเลขเศรษฐกิจเชิงพื้นฐานก็ยังไม่สนับสนุนการเติบโตเท่าที่ควร ขณะที่ความเสี่ยงจากภาวะเงินฝืดกลับเพิ่มขึ้นในช่วงนี้

Source: Bisnews

หมายเหตุ : ข้อมูลที่นำเสนอในรายงานดังกล่าว นี้เป็นเพียงความคิดเห็นซึ่งนำเสนอโดย บริษัท YLG Bullion International จำกัด โดยบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ จากความเสียหายที่เกิดจากการใช้รายงานหรือข้อความจากรายงานฉบับนี้

ข้อมูลจากฝ่ายวิจัย : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net