ปลัดท่องเที่ยว เน้นแก้ไขปัญหาท่องเที่ยวอย่างบูรณาการ

12 Jan 2011

กรุงเทพฯ--12 ม.ค.--กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

นายสมบัติ คุรุพันธ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ โดยมี นายสุพล ศรีพันธุ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้ด้วย ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2554

นายสมบัติ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย ถือว่ากำลังปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยกว่า 15.8 ล้านคนในปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มที่จะคลี่คลายและมีความชัดเจนมากขึ้น ประกอบกับมีการประชาสัมพันธ์ถึงฤดูการท่องเที่ยวของประเทศไทยกันอย่างกว้างขวางโดยหน่วยงานของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงการท่องเที่ยวแหล่งประเทศไทย ซึ่งเน้นย้ำว่าในช่วงนี้เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของประเทศไทย จึงทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเกิดความมั่นใจและหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยกันมากขึ้น และผู้ที่ใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวและจะเป็นผู้ที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั้นก็คือ มัคคุเทศก์ หากว่ามัคคุเทศก์สามารถทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจได้แล้วนั้น ก็จะทำให้การท่องเที่ยวของประเทศไทยมีภาพลักษณ์ที่ดี โดยตนได้เห็นถึงความสำคัญของผู้ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ ได้กำชับกับสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ดูแลการออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ให้เป็นไปอย่างถูกต้องที่สุด เพื่อลดปัญหาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวรวมถึงมัคคุเทศก์

โดยขณะนี้ มีจำนวนผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว รวมทั้งสิ้น 9,029 ราย แบ่งเป็น Inbound 1,629 ราย Outbound 2,282 ราย ในประเทศ 1,128 ราย เฉพาะพื้นที่ 3,990 ราย ในส่วนของผู้ที่ได้รับใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์รวมทั้งสิ้น 42,792 ราย แบ่งเป็นมัคคุเทศก์ทั่วไป 35,653 ราย และจำนวนมัคคุเทศก์เฉพาะ 7,139 ราย ซึ่งทางสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ จะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่า ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวหรือมัคคุเทศก์ผู้จดทะเบียนได้ประกอบอาชีพธุรกิจนำเที่ยวหรือมัคคุเทศก์จริงหรือไม่ เนื่องจากตัวเลขข้อร้องเรียนและคดีที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เป็นปัญหาที่เกี่ยวกับการหลอกลวงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากเป็นอันดับต้นๆ จึงทำให้เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ในด้านของการบั่นทอนความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้พิจารณา กรณีเพิกถอนใบอนุญาตของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว จำนวน 3 ราย ประกอบไปด้วย ห้างหุ้นส่วนจำกัด นิภาพรเทรเวลแอนด์คอนทรัคชั่น (นิราพรทัวร์) เนื่องจากขายรายการนำเที่ยวไม่เป็นไปตามประเภทของใบอนุญาต คือ ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ประเภทในประเทศ แต่ในใบเสนอขายเป็นรายการนำเที่ยวต่างประเทศ บริษัท เว็บสวัสดี จำกัด และบริษัท ไอคิว ไดว์ จำกัด เนื่องจาก ทั้ง 2 บริษัทขาดคุณสมบัติการเป็นผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว เนื่องจากบริษัทได้กำหนดให้ชาวต่างชาติ เป็นผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท โดยผลการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ได้พิจารณายืนตามคำสั่งของนายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์