“บางซื่อโรงสีไฟเจียเม้ง” ทุ่มกว่า 100 ล้านบาท ขยายอาณาจักร “บีเอสซีเอ็ม ฟูดส์” ผลิตอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

12 Dec 2012

กรุงเทพฯ--12 ธ.ค.--โฟร์ฮันเดรท

บางซื่อโรงสีไฟเจียเม้ง ทุ่มกว่า 100 ล้าน เปิด บริษัท บีเอสซีเอ็ม ฟูดส์ จำกัด (BSCM Foods) โรงงานผลิตข้าวพร้อมรับประทาน Ready Rice ตราหงษ์ทอง และเครื่องดื่มจากข้าว ตรา Frezfill และเครื่องดื่มที่ให้พลังงาน (Energy Drink) ตรา Enere ที่ใช้วัตถุดิบหลักที่มีทั้งหมดจากข้าวสายพันธุ์คุณภาพดีที่สุดในประเทศไทย บนพื้นที่กว่า 10,000 ตร.ม. รองรับการแปรรูปข้าวได้สูงถึง 3,000 ตันต่อปี เพื่อตอบสนองวิถีชีวิตเร่งรีบ ส่งขายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ คาดว่าจะเริ่มผลิตได้หลังการเปิดโรงงานอย่างเป็นทางการ (Grand Opening) ในวันที่12/12/12 เป็นต้นไป และพร้อมจัดจำหน่ายได้ทั้งภายในและต่างประเทศตั้งแต่มกราคม 2556

นายวัลลภ มานะธัญญา ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท บางซื่อโรงสีไฟเจียเม้ง จำกัด ผู้ผลิต และจัดจำหน่ายข้าว ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดข้าวหอมมะลิทั้งในประเทศตราหงษ์ทอง และในต่างประเทศ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการขยายตลาดในวงการธุรกิจข้าวอย่างครบวงจร กลุ่มบริษัท บางซื่อโรงสีไฟเจียเม้ง จึงได้เปิด บริษัท บีเอสซีเอ็ม ฟูดส์ จำกัด หรือ BSCM Foods ก่อตั้งขึ้นเพื่อรองรับบทบาทในการแตกแขนงกิจการไปสู่ธุรกิจข้าวยุคใหม่ จากธุรกิจการผลิตบรรจุข้าวสารชั้นดี ไปสู่ธุรกิจแปรรูปข้าว และการผลิตอาหารเพื่อสุขภาพ ด้วยกรอบความคิดหลัก 3 ประการ ได้แก่ สินค้าที่ต่อยอดมาจากวัตถุดิบข้าวไทยที่มีชื่อเสียง สินค้าที่เน้นเรื่องของสุขภาพของผู้บริโภค และสินค้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่สามารถตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตในปัจจุบัน

ดังนั้นสินค้าที่ทาง BSCM Foods พัฒนาขึ้นจึงคลอบคลุมทั้งในส่วนของสินค้าที่เป็นอาหารพร้อมรับประทานและเครื่องดื่มที่มีผลดีต่อสุขภาพ ได้แก่ ข้าวกล้องพร้อมรับประทาน Ready Rice ตราหงษ์ทอง ที่จำหน่ายในประเทศ โดยมองว่าเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์และตรงกับตวามต้องการของพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวก ของการใช้ชีวิตในสังคมที่เร่งรีบได้ดี และยังสามารถต่อยอดผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนอง ความต้องการได้อีกหลากหลาย นอกจากนี้ยังมีข้าวกล้องพร้อมรับประทานตรา Goodish สำหรับการวางจำหน่ายต่างประเทศ , เครื่องดื่มน้ำนมข้าว ตรา Frezfill และเครื่องดื่มที่ให้พลังงานจากข้าว (Energy Drink) ตรา Enere

นายวัลลภ กล่าวต่อว่า ได้ทำการจัดสัดส่วนแบ่งช่องทางการจำหน่ายสินค้าสำหรับตลาดภายในประเทศอยู่ที่ประมาณ 35% และสำหรับตลาดต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 65% ซึ่งในส่วนของการทำตลาดในประเทศ บริษัทฯ ได้เลือกที่จะใช้วิธีการจัดจำหน่ายใน Modern Trade เพื่อที่จะสามารถจัดโปรโมชั่น การให้ข้อมูลของสินค้ากับผู้บริโภคได้อย่างสะดวกซึ่งจะใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายเดียวกับสินค้าข้าวสารตรา หงษ์ทอง ซึ่งเป็นสินค้าของบริษัทฯแม่ และเน้นพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลก่อน หลังจากนั้นในจะมุ่งเน้นการขายใน Convenient Store โดยจะเริ่มกระจายตัวสินค้าออกสู่ภูมิภาค เน้นพื้นที่จังหวัดใหญ่ๆ อาทิ เชียงใหม่, ชลบุรี, ภูเก็ต, สงขลา หรือเกาะสมุย และในระยะต่อมา จะมีการวางแนวนโยบายที่จะเปิดร้านจำหน่ายสินค้า ร่วมมือกับบริษัทฯ แม่ เพื่อจัดจำหน่ายสินค้าทั้งประเภทที่เป็นข้าวสารตรา หงษ์ทอง และสินค้าของ BSCM Foods ซึ่งหากการกระจายหรือจัดจำหน่ายสินค้าของทั้งสามระยะได้รับการตอบรับที่ดี ผลประกอบการที่ออกมาน่าจะเป็นไปตามสัดส่วนของตลาดภายในประเทศที่วางเอาไว้ อยู่ที่ 90 ล้านบาท

สำหรับตลาดต่างประเทศ มุ่งเน้นไปยังตลาดผู้บริโภคที่นิยมการบริโภคเกี่ยวกับสินค้าเพื่อสุขภาพเป็นหลัก อาทิ สหรัฐอเมริกา, ยุโรป, กลุ่มประเทศสหราชอนาจักร และกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย เป็นต้น โดยวางแผนการตลาดออกเป็น 2 กลุ่มลูกค้า ได้แก่ ผู้ซื้อรายย่อยที่มีตราสินค้าเป็นของตัวเอง (Private Label) และผู้ซื้อที่มีส่วนแบ่งการตลาดอย่างชัดเจน มีตราสินค้าที่มีอิทธิพลต่อผู้ซื้อในตลาด (National or Regional Brand) โดยวางสัดส่วนของตลาดต่างประเทศไว้ ที่ 160 ล้านบาท

ทั้งนี้บริษัท บางซื่อโรงสีไฟเจียเม้ง จำกัด ใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ในการสร้าง BSCM Foods บนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร สามารถรองรับการแปรรูปข้าวได้สูงถึง 3,000 ตันต่อปี ด้วยพนักงาน ที่ได้รับการฝึกฝนจนมีความชำนาญ พร้อมโรงงานที่ได้รับการรับรองมาตราฐาน ISO22000 และ BRC โดย BVQI ปี พ.ศ.2555 ซึ่งมีผู้ผลิต น้อยรายที่จะผ่านการตรวจประเมินลักษณะนี้ โดยคาดว่ายอดขายรวมสิ้นปี 2556 น่าจะอยู่ที่ 250 ล้านบาท

นายวัลลภ กล่าวปิดท้ายว่า สำหรับนโยบายคุณภาพที่เป็นหลักสำคัญของ BSCM Foods ได้แก่

B- Being food expert = ชำนาญการด้านอาหาร

S- Service Mind = บริการด้วยหัวใจ

C- Concern Safety = คำนึงถึงความปลอดภัย

M- Must adhere to law = ถือมั่นในหลักกฏเกณฑ์

F- Food quality trusted = ชัดเจนเรื่องคุณภาพ

-กภ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net