“ฮาลาลประเทศไทย” จัดอบรมผู้ตรวจ สร้างรากฐานวิทยาศาสตร์ฮาลาล หวังขึ้นอันดับ 1 ผู้ส่งออกฮาลาลโลก

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับฝ่ายกิจการฮาลาล สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย จัด “โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ การพัฒนาศักยภาพผู้ตรวจประเมินและที่ปรึกษาฝ่ายกิจการฮาลาลทั่วราชอาณาจักรประจำปี 2556” โดยการบูรณาการศาสนบัญญัติอิสลามเข้ากับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮาลาล เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ตรวจประเมินและการรับรองฮาลาลในประเทศไทย ให้มีคุณภาพและสามารถรับประกันคุณภาพของผลิตภัณฑ์ฮาลาลได้ ประกอบกับการพัฒนาศักยภาพของนักการศาสนาให้มีความรู้และความเข้าใจในเรื่องฮาลาลเพื่อใช้ในการตรวจประเมิน โดยประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ฮาลาลได้อย่างที่ถูกต้อง นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจำนวนไม่กี่ประเทศทั่วโลกที่มีศักยภาพการผลิตอาหารถึงระดับส่งออกเพื่อเลี้ยงประชากรโลก รัฐบาลจึงมีนโยบายที่จะผลักดันให้ไทยเป็นครัวของโลก โดยเฉพาะในยุทธศาสตร์อาหารฮาลาล เนื่องจากอาหารฮาลาลเป็นอาหารที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคของมุสลิมหรือผู้นับถือศาสนาอิสลาม ความเชื่อมั่นของมุสลิมทั่วโลกต่อผลิตภัณฑ์ฮาลาลส่วนสำคัญเกิดจากการรับรองฮาลาลโดยองค์กรศาสนาอิสลามที่ได้รับการเชื่อถือ อีกทั้งความเชื่อมั่นในภาพลักษณ์ด้านคุณภาพขององค์กรศาสนาตลอดจนประเทศผู้ผลิตอาหารนั้นๆ โดยประเทศไทยนับว่าเป็นประเทศสำคัญในการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารและผลผลิตทางการเกษตร แต่ละปีประเทศไทยส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารสู่ต่างประเทศทั่วโลกประมาณ 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐ นับเป็นประเทศส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารขนาดใหญ่หนึ่งในสิบของโลก ในจำนวนนี้เกือบร้อยละ 20 หรือ 4,800 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นอาหารที่ปลอดสุกรและสุราหรืออาจนับเป็นอาหารฮาลาล เพื่อการบริโภคของมุสลิมโดยผลิตจากภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารของไทย ใช้วัตถุดิบ แรงงาน เทคโนโลยีของคนไทยส่งเข้าสู่กลุ่มประเทศมุสลิม 57 ประเทศ ที่เป็นสมาชิกองค์กรการประชุมอิสลามหรือโอไอซี (Organization of Islamic Conference) ทำให้ปัจจุบันประเทศไทยจึงเป็นประเทศผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ฮาลาลเป็นอันดับ 5 ของโลก และเพื่อหวังครองอันดับ 1 ผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลนั้น ประเทศไทยจึงจำเป็นที่จะต้องมีการพัฒนาและเสริมสร้างตราสัญลักษณ์ฮาลาลให้เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก รศ.ดร.วินัย ดะห์ลันผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยนับเป็นประเทศส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารประเทศเดียวที่มีกฎหมายกำหนดอำนาจหน้าที่ด้านการรับรองฮาลาลไว้ โดยกำหนดให้เป็นกิจการในศาสนาอิสลามที่ระบุไว้ชัดเจน โดยมีศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศวฮ.จฬ.) ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อพัฒนางานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮาลาล สนับสนุนการดำเนินงานของฝ่ายศาสนาอิสลามและพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลส่งออก สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (สกอท.) และศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศวฮ.จฬ.) ได้ร่วมมือกันประสานงานในการบูรณาการศาสนบัญญัติอิสลามเข้ากับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮาลาลสร้างแนวทาง “ศาสนารับรอง วิทยาศาสตร์รองรับ” ขึ้น เพื่อร่วมกันสร้างภาพลักษณ์ “วิทยาศาสตร์ฮาลาล อัตลักษณ์ประเทศไทย” โดยมุ่งหวังที่จะมีส่วนร่วมผลักดันผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลไทยให้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดอาหารโลก จึงได้จัด “โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ การพัฒนาศักยภาพผู้ตรวจประเมินและที่ปรึกษาฝ่ายกิจการฮาลาลทั่วราชอาณาจักรประจำปี 2556” ขึ้น โดยมีฝ่ายกิจการฮาลาล คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 39 จังหวัด ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบและรับรองสถานประกอบการที่อยู่ในพื้นในจังหวัดนั้นๆ ซึ่งพบว่าในปัจจุบันมีผู้ประกอบการขอการรับรองเป็นจำนวนมากและมีความหลากหลายในด้านผลิตภัณฑ์ กระบวนการ และวิธีการผลิตและจำหน่าย ที่ความซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งสำนักงานงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยได้เห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้ประสานความร่วมมือกับ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อจัดพัฒนาระบบการตรวจสอบและการพัฒนาศักยภาพผู้ปฏิบัติงานกิจการฮาลาลทั่วประเทศ หวังเป็นแนวทางการดำเนินงานในทิศทางเดียวกันทั้งประเทศ พร้อมกันนี้ยังได้พัฒนาให้ผู้ปฏิบัติงานมีความเข้าใจในระบบสากล และวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มศักยภาพผู้ตรวจประเมินและการรับรองฮาลาลในประเทศไทย ให้มีคุณภาพและสามารถรับประกันคุณภาพของผลิตภัณฑ์ฮาลาลได้ ประกอบกับการพัฒนาศักยภาพของนักการศาสนาให้มีความรู้และความเข้าใจในเรื่องฮาลาลเพื่อใช้ในการตรวจประเมิน โดยประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ฮาลาลได้อย่างที่ถูกต้อง รศ.ดร.วินัย กล่าวปิดท้าย -นท- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี+จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยวันนี้

จุฬาฯ จับมือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ และ สวทช. วิจัยและพัฒนาโครงการแลกเปลี่ยนข้อมูล องค์ความรู้และประสบการณ์ด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่า

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมมือกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ และศูนย์โอมิกส์แห่งชาติ) ในการวิจัยและพัฒนาโครงการแลกเปลี่ยนข้อมูล องค์ความรู้และประสบการณ์ด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่า พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือจัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 ณ ห้องประชุม 202 อาคารจามจุรี 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี ศ.ดร.วิ

วว. /จุฬาฯ /มทร.ล้านนา /ม.พายัพ /บริษัทไบ... วว. /จุฬาฯ /มทร.ล้านนา /ม.พายัพ /บริษัทไบโออัพฯ ร่วมรับรางวัลจาก สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ — วว. /จุฬาฯ /มทร.ล้านนา /ม.พายัพ /บริษัทไบโออัพฯ ร่วมรับรางวัลจ...

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโล... คลังความรู้ SciMath สสวท. พาหายสงสัย "น้ำท่วมอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดินได้หรือไม่ ?" — สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) พาคลายข้อกังขากับบทคว...

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประ... วว. จัดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ …เสริมสร้างขีดความสามารถของบุคลากรด้านการปกป้องดิน — สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึ...

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโล... สสวท. ชวนครูเตรียมพร้อมรับเปิดเทอมกับ "ระบบจัดการเรียนรู้ออนไลน์ My IPST" — สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ชวนคุณครูเตรียมพร้อมรับเปิ...

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโล... สำหรับนักเรียนทุน พสวท. ระดับมัธยมศึกษา ปีการศึกษา 2567 — สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) จัดค่ายวิทยาศาสตร์ภาคฤดูร้อนสำหรับนักเรียนทุ...