ฟิทช์จัดอันดับเครดิต TASCO ที่ระดับ ‘BBB+ (tha)’

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวของบริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO ที่ BBB+(tha) แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ และจัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ระดับ ‘F2(tha)’ 

          ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต

          ตำแหน่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งภายในประเทศ: อันดับเครดิตสะท้อนถึงความเป็นผู้นำทางการตลาดของ TASCO ในธุรกิจยางมะตอยในประเทศไทย โดย TASCO มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณร้อยละ 40 ในธุรกิจแอสฟัลต์ซีเมนต์ และมากกว่าร้อยละ 60 ในสินค้ายางมะตอยชนิดพิเศษ เนื่องจากที่บริษัทฯ มีเครือข่ายทางการตลาดที่แข็งแกร่ง มีการส่งมอบสินค้าที่ตรงเวลาและหน่วยงานสนับสนุนด้านเทคนิคที่ดี ความเชี่ยวชาญในสินค้ายางมะตอยและการบริการทางเทคนิคถือเป็นจุดแข็งที่สำคัญของบริษัทฯ โดยการที่ TASCO มีประวัติการดำเนินธุรกิจยางมะตอยที่ยาวนาน และการได้รับการสนับสนุนด้านเทคนิคจากบริษัท Colas SA หรือ Colas ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ โดยถือหุ้น TASCO อยู่ร้อยละ 32 เป็นปัจจัยสนับสนุนความสามารถในการแข่งขันที่เหนือกว่าคู่แข่งทั้งในประเทศและในภูมิภาคนี้
          การกระจายความเสี่ยงด้านภูมิศาสตร์: TASCO มีโรงงานผลิตจำนวน 18 โรงงานตั้งอยู่ใน 5 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกซึ่งรวมถึงโรงกลั่นยางมะตอยที่ตั้งอยู่ในประเทศมาเลเซียด้วย ประมาณร้อยละ 70 ของยอดขายของ TASCO จะเป็นการขายที่เกิดขึ้นภายนอกประเทศไทย โดยมีการขายกระจายอยู่ใน 5 ประเทศหลัก ประกอบด้วย อินโดนีเซีย จีน ออสเตรเลีย มาเลเซีย และเวียดนาม และยังมีการขายอยู่ในอีกกว่า 10 ประเทศ นอกจากนี้การขายระหว่างประเทศยังได้รับการสนับสนุนจากการที่บริษัทฯ มีกองเรือขนส่งยางมะตอย 6 ลำ ซึ่งทำให้มีความได้เปรียบด้านต้นทุนค่าขนส่งและความยืดหยุ่นในการจัดตารางการส่งมอบ
          การสนับสนุนจากบริษัทแม่ที่แข็งแกร่ง: TASCO ได้รับประโยชน์จาก Colas ในด้านเทคโนโลยีในการผลิตยางมะตอยชนิดพิเศษที่ทันสมัยและเครือข่ายทางการตลาดทั่วโลกของ Colas โดย Colas ได้จัดหาเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในการพัฒนาสินค้าและการฝึกอบรมด้านเทคนิคให้กับ TASCO ภายใต้ข้อตกลงการให้บริการทางเทคนิค นอกจากนี้ Colas ยังให้การสนันสนุนในด้านการให้คำปรึกษา การบริหารจัดการ การตลาดและการบริการแก่ TASCO อีกด้วย
          ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมัน: TASCO ต้องเผชิญกับความผันผวนของราคาวัตถุดิบซึ่งได้แก่น้ำมันดิบเป็นหลัก ในขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์ยางมะตอยมีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นไม่มากนัก นอกจากนี้ระยะเวลาที่ต้องใช้ในการขนส่งน้ำมันดิบจากอเมริกาใต้ซึ่งคือ 35 วัน ถึง 45 วัน โดยประมาณยังทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างราคาสินค้าผลิตภัณฑ์จากโรงกลั่นกับราคาน้ำมันดิบที่ซื้อมาอีกด้วย อย่างไรก็ตาม บริษัทฯได้ใช้เครื่องมือทางการเงินในการประกันความเสี่ยงเพื่อบรรเทาความเสี่ยงดังกล่าว เช่น การเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเภท four-way collar เพื่อรักษาอัตราส่วนกำไรให้อยู่ในระดับเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ในระดับหนึ่ง 
          วงจรการสร้างกระแสเงินสดที่ยาว: TASCO มีความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนค่อนข้างสูง เนื่องจากมีรอบหมุนเวียนเงินสดคือระยะเวลานับแต่การจ่ายเงินสดเพื่อซื้อวัตถุดิบจนสามารถผลิตผลิตภัณฑ์และเรียกเก็บเงินได้ที่ค่อนข้างยาว รอบหมุนเวียนเงินสดสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 50 วัน ในปี 2551 เป็นประมาณ 90 วันในช่วงปี 2552-2555 เพื่อสนับสนุนการจัดซื้อน้ำมันดิบหลังจากที่บริษัทฯ เริ่มดำเนินธุรกิจโรงกลั่นยางมะตอย ด้วยเหตุนี้สัดส่วนหนี้สินระยะสั้นของบริษัทฯ จึงเพิ่มขึ้นอย่างมีมาก อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีวงเงินกับธนาคาร (ประเภทที่ธนาคารสามารถยกเลิกได้โดยไม่มีเงื่อนไข) ทั้งในและต่างประเทศเป็นจำนวนมากและมีดอกเบี้ยต่ำซึ่งสามารถใช้สนับสนุนสภาพคล่องของบริษัทฯได้ 
          อัตราส่วนหนี้สินที่สูง: ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินของ TASCO จะยังคงอยู่ในระดับสูงในปี 2556-2557 บริษัทฯ มีแผนการลงทุนประมาณสองพันล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจและพัฒนาประสิทธิภาพในการผลิตในปี 2556-2557 โดยค่าใช้จ่ายหลักเพื่อการลงทุนจะเป็นการขยายกำลังการผลิตของโรงกลั่นและการซื้อเรือขนส่งสินค้า แม้ว่าฟิทช์คาดว่าความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดของบริษัทฯ จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่แผนการลงทุนขนาดใหญ่ของบริษัทฯ จะทำให้การลดอัตราส่วนหนี้สินของบริษัทฯ เป็นไปอย่างจำกัด ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดที่ได้จากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์และหนี้สินจากการดำเนินงานจะลดลงเหลือประมาณ 6 เท่า ในปี 2557 (จากระดับ 7.1 เท่าในปี 2555) และลดลงต่ำกว่า 5 เท่าหลังจากปี 2558 

          ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

          ปัจจัยลบ: 
          -การลงทุนที่สูงขึ้นโดยมีแหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมซึ่งทำให้อัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดที่ได้จากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์และหนี้สินจากการดำเนินงานที่สูงกว่า 6 เท่าอย่างต่อเนื่อง 
          -อัตราส่วนกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สินต่อดอกเบี้ยจ่ายและค่าเช่าต่ำกว่า 4.5 เท่า
ปัจจัยบวก: 
          -อัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดที่ได้จากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์และหนี้สินจากการดำเนินงานที่ต่ำกว่า 4 เท่าอย่างต่อเนื่อง

ข่าวฟิทช์ เรทติ้งส์+ทิปโก้แอสฟัลท์วันนี้

BAFS เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ชูดอกเบี้ย 4.75 - 5.10% ต่อปี คาดเปิดจองซื้อแก่ "สถาบัน-รายใหญ่" วันที่ 9 - 14 พ.ค. นี้ รองรับการขยายตัวธุรกิจในอนาคต

BAFS เตรียมออกหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี 9 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ [ 4.75 5.10 ] % ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือ "BBB (tha)" จาก ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) เตรียมเสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน นักลงทุนรายใหญ่ คาดจองซื้อระหว่างวันที่ 9 และ 13 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย), บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส และ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี ม.ล. ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล

ฟิทช์คงอันดับเครดิตของ บล. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ 'AA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LHS ที่ 'AA(tha)' และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น ...

ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส และ บจก.แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค ในเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ (Rating Watch Negative; RWN) ของอันดับเครดิต บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) และบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ท...