ก.ล.ต. ปรับปรุงเกณฑ์การตั้งตัวแทนในการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน เพื่อเพิ่มช่องทางซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการลงทุนได้โดยสะดวก คาดมีผลใช้บังคับภายในต้นเดือนสิงหาคม 2557
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับตลาดทุนมีมติเห็นชอบให้เพิ่มประเภทตัวกลาง (selling agent) ในการเป็นตัวแทนขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน สำหรับผู้มีคุณสมบัติตามที่กำหนด คือ (1) เป็นรัฐวิสาหกิจซึ่งไม่ใช่สถาบันการเงินและถ้าตั้งในรูปบริษัทต้องมีกระทรวงการคลังถือหุ้นโดยตรงเกินร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด (2) ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยในการให้บริการทางการเงิน เช่น รับฝาก-ถอน โอนเงิน หรือรับชำระเงิน (3) มีเครือข่ายเข้าถึงผู้ลงทุนในวงกว้าง (4) มีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนในการให้บริการซื้อขายหน่วยลงทุนในระยะยาว และ (5) ความพร้อมในด้านฐานะการเงิน ระบบงานและบุคลากรในการให้บริการ
“การเพิ่มประเภทตัวกลางใหม่นี้ นอกจากจะสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจจัดการลงทุนและเพิ่มโอกาสทางการแข่งขันให้แก่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ไม่ใช่บริษัทย่อยของธนาคารพาณิชย์ได้มีช่องทางจำหน่ายหน่วยลงทุนได้กว้างขวางมากขึ้นแล้ว ยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีศักยภาพ เช่น ไปรษณีย์ไทย ได้เข้ามาร่วมธุรกิจตลาดทุนโดยเป็นช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงการลงทุนในกองทุนรวมได้สะดวกและลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง ช่วยส่งเสริมนโยบายภาครัฐให้ประชาชนมีวินัยการออมและการลงทุน เตรียมพร้อมรับมือวัยเกษียณ อันจะเป็นการช่วยลดภาระของประเทศเมื่อก้าวสู่สภาวะสังคมผู้สูงอายุในอนาคต” นายวรพล กล่าวเสริม
“สคร. จัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดิน7เดือนปีงบประมาณ2563 รวมจำนวน144,922ล้านบาทสูงกว่าเป้าหมายสะสมร้อยละ 16 หรือคิดเป็นร้อยละ77ของเป้าหมายทั้งปี”
“สคร. จัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดิน 6 เดือน ปีงบประมาณ 2563 รวมจำนวน 101,173 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 54 ของเป้าหมายทั้งปี”
“สคร. จัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดินสะสม ณ สิ้นไตรมาสแรก ปีงบประมาณ 2563 จำนวน 72,387 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 38 ของเป้าหมายทั้งปี”
“สคร. จัดเก็บเงินนำส่งรายได้ 8 เดือนของปีงบประมาณ 2562 เกินเป้าหมาย 8%”
“สคร. จัดเก็บเงินนำส่งรายได้ครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2562 เกินเป้าหมาย 22%”
รัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้ 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2562 สูงกว่าประมาณการ 25%
สคร. จัดเก็บเงินนำส่งรายได้ ปีงบประมาณ 2561 จำนวน 157,041 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 15% ทำให้รายได้ของรัฐบาลเป็นไปตามเป้าหมาย