“คูปองต้องไม่เกิน 690 บาท จัดการเด็ดขาดธุรกิจ ลวงขายกล่องทีวีดิจิตอล”

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

           องค์กรผู้บริโภคเสนอให้คสช. กำหนดราคาคูปองไม่เกิน 690 บาท เพื่อป้องกันการหลอกลวงในชุมชน เหตุราคาคูปองสูงเกินไป มีกำไรมาก ทำให้เกิดกลุ่มพ่อค้าหัวใส ดำเนินการเก็บสำเนาบัตรประชาชน และแจกคำขอกล่องดิจิตอล โดยได้นำเสนอผ่านตัวแทนจำหน่ายและผู้นำชุมชนในท้องที่ต่างๆ ทั่วประเทศ 
          ภายหลังที่ กสท. มีมติกำหนดราคาคูปอง 1,000 บาท และกรรมการกองทุนฯ มีมติตาม กสท. อนุมัติงบประมาณราคาคูปอง 1,000 บาท ใช้งบประมาณ 25,000 ล้านบาท สำหรับแจกแก่ประชาชน 25 ล้านครัวเรือนตามทะเบียนราษฏร์ เพื่อใช้แลกซื้อกล่องทีวีดิจิตอล ทั้งที่ยังไม่มีการกำหนดระยะเวลาแจกคูปองที่ชัดเจน ปรากฎว่า มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในหลายจังหวัดได้แก่ พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร เชียงใหม่ พะเยา นครราชสีมา และกรุงเทพมหานคร โดยมีพฤติการณ์มีตัวแทน ทั้งจากของบริษัท และผู้นำชุมชน ดำเนินการเก็บบัตรประชาชน เพื่อเป็นหลักฐานในการแจกกล่องและเก็บคูปองจากประชาชน โดยมีบริษัท จำหน่ายกล่องทีวีดิจิตอลอย่างน้อย 4 บริษัท ได้แก่ บริษัทแฟมิลี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทเจเนซิส มีเดียคอม จำกัด บริษัทโซกู๊ด โกบอล จำกัด และบริษัท การศึกษาก้าวไกล จำกัด ทั้งที่ได้รับอนุญาตและไม่ได้รับอนุญาตจากกสทช. ถูกร้องเรียนและในหลายพื้นที่ บางบริษัทเพิ่งได้รับจดทะเบียนบริษัทเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และบางจังหวัดยังไม่มีการดำเนินการออกอากาศทีวีดิจิตอลในปัจจุบัน
          องค์กรผู้บริโภค จึงขอเรียกร้อง ต่อทุกส่วนที่เกี่ยวข้องดังนี้
          1. ขอให้คสช. กำหนดมูลค่าคูปอง ไม่เกิน 690 บาท ตามราคาตั้งต้นประมูล เนื่องจากต้นทุนไม่ถึง 500 บาท โดยเห็นได้จากข้อมูลล่าสุดของบริษัทอาร์เอส มีต้นทุนเพียง 475 บาทเท่านั้น ที่สอดคล้องกับการศึกษาขององค์กรผู้บริโภคว่า 512 บาท เป็นราคาที่มีกำไร ทำให้มีผลต่างกำไรเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ปัญหาราคาคูปองที่ไม่ได้สะท้อนต้นทุนราคาที่แท้จริง ทำให้สินค้าในท้องตลาดสูงเกินจริงเป็นภาระแก่ผู้บริโภค และเกิดกำไรจำนวนมหาศาลขึ้น ทำให้ดึงดูดบรรดาพ่อค้าหัวใสทั้งหลายให้เข้ามาแสวงหาประโยชน์ เมื่อคสช. ชะลอโครงการนี้ ต้องมีการดำเนินการให้เกิดความโปร่งใส มีมูลค่าคูปอง ไม่เกิน 690 บาท สมเหตุสมผล เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติที่คาดว่าจะเกิดความเสียหายไม่น้อยกว่า 12,500 ล้านบาท จากการใช้งบประมาณมากกว่า 25,000 ล้านบาท และเป็นเหตุให้ประชาชนที่ไม่ได้รับข้อมูล อาจจะถูกหลอกลวง และหาประโยชน์จากเรื่องนี้ รวมถึงผู้บริโภคต้องมีภาระต้องจ่ายสมทบไม่น้อยกว่า 300 บาท ในการซื้อของแพงในท้องตลาด
          2. ขอเรียกให้ กสทช. ในฐานะหน่วยงานซึ่งทำหน้าที่รับจดทะเบียนและรับรองมาตรฐานของกล่องทีวีดิจิตอล จัดการขั้นเด็ดขาดไม่ให้มีการดำเนินการ พร้อมเร่งการประชาสัมพันธ์ข้อมูลของบริษัทที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตและจำหน่ายกล่องทีวีดิจิตอลให้แก่ผู้บริโภคทราบ ก่อนที่จะมีการแจกคูปองทีวีดิจิตอลในช่วงปลายเดือนกรกฏาคมนี้ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความรู้ความเข้าใจในการเลือกซื้อกล่องทีวีดิจิตอลจากข่าวทีมีมิจฉาชีพ อาศัยความไม่รู้ของผู้บริโภค ผลิตและจำหน่ายกล่องทีวีดิจิตอลเถื่อน ตราอักษร MITRON รุ่น RV-003 ที่ไม่ได้รับใบอนุญาตผลิต และจำหน่ายกล่องจาก กสทช. ซึ่งเป็นการกระทำความผิดฐานค้า ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 อันเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค 
          3. หยุดเก็บบัตรประชาชนจากผู้บริโภค ผู้บริโภคต้องไม่ร่วมมือให้สำเนาบัตรประชาชน ซึ่งเหมือนกับการให้บัตรประชาชน เนื่องจากตัวสำเนาบัตรประชาชนที่ได้ไปนั้น สามารถนำไปแอบอ้างเพื่อทำธุรกรรมการเงินบางอย่างได้ เช่น สมัครบัตรเครดิต หรือ นำไปปลอมลายมือชื่อเพื่อใช้ในการทำใบมอบอำนาจปลอมและทำสัญญาซื้อขายสินค้า หรือแอบอ้างเพื่อใช้สิทธิทางการเมืองในอนาคต จึงขอเตือนไปยังผู้บริโภคให้ระมัดระวังในการนำสำเนาบัตรประชาชนไปใช้ในการทำธุรกรรมต่างๆ โดยเฉพาะในการใช้เป็นเอกสารหลักฐานประกอบการแลกซื้อกล่องทีวีดิจิตอล ซึ่งหากเป็นไปได้ ในขณะนี้ ยังไม่ควรส่งมอบสำเนาบัตรประชาชนให้แก่ผู้ใด จนกว่าจะได้รับคูปองแลกซื้อทีวีดิจิตอล เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อไปขณะนี้ เนื่องจากมีผู้แอบอ้างกับประชาชนว่าเป็นตัวแทนจาก กสทช. มาอำนวยความสะดวกในการจัดหากล่องเซ็ตท็อปบ็อกซ์ (Set Top Box) ให้ โดยให้ประชาชนถ่ายสำเนาบัตรประชาชนพร้อมรับรองสำเนาให้ทางบริษัทแล้วทางบริษัทจะนำกล่องเซ็ตท็อปบ็อกซ์ (Set Top Box) มาแจกให้เลย โดยที่ประชาชนไม่ต้องนำคูปองจาก กสทช. ไปแลกซื้อกล่องเซ็ตท็อปบ็อกซ์ (Set Top Box) เอง ซึ่งเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคเห็นว่า การกระทำของผู้ประกอบการในลักษณะเช่นนี้ อาจเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 
          4. ผู้นำชุมชน ควรยุติการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า เนื่องจากกลยุทธ์การตลาดอีกรูปแบบหนึ่ง ของบริษัทขายกล่องจะติดต่อผ่านทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้นำชุมชน โดยอาศัยความน่าเชื่อถือของบุคคลเหล่านี้เพื่อให้ช่วยในการประชาสัมพันธ์กล่องทีวีดิจิตอลของตนเอง และให้ผู้บริโภคนำสำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านมาลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิในการสั่งจองกล่องทีวีดิจิตอล โดยในใบโฆษณากล่อง ไม่มีการกำหนดราคากล่องไว้เลย อีกทั้งไม่มีการแจ้งข้อมูลถึงที่ไปที่มาแก่ผู้บริโภคให้ชัดเจน ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจว่า หากแจ้งสิทธิจองไปแล้วจะต้องนำคูปองไปแลกซื้อกับบริษัทนั้นเท่านั้น ไม่สามารถนำคูปองไปแลกใช้สิทธิเพื่อแลกซื้อกล่องอื่นได้อีก อันมีลักษณะเป็นการผูกขาดการค้ากับประชาชน นอกจากนี้ยังมีข้อสงสัยอีกว่าการกระทำของบริษัทดังกล่าวจะมีการให้ผลประโยชน์แก่ตัวแทนชุมชนที่ช่วยในการประชาสัมพันธ์กล่องหรือไม่

ข่าวตัวแทนจำหน่าย+กล่องดิจิตอลวันนี้

CPW เปิดจอง iPhone 17 Pro, iPhone 17 และ iPhone Air พร้อมกัน 12 ก.ย.นี้

"คอปเปอร์ ไวร์ด" หรือ CPW ในฐานะตัวแทนจำหน่ายสินค้า Apple รายใหญ่ในไทย ประกาศเปิดจอง iPhone 17 จำนวน 4 รุ่น iPhone 17 Pro Max, iPhone 17 Pro, iPhone 17 และ iPhone Air สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ก่อนใคร โดยสั่งจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 12 กันยายน 68 เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 19 กันยายน 68 เวลา 8.00 น. ผ่านร้าน iStudio by copperwired, U.Store by copperwired, TECHHOUSE by Dotlife และร้าน Dotlife ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ www.istudio.store

พานาโซนิค ออกโรงเตือนภัย "ถ่านปลอม" ระบาด... พานาโซนิค เตือนผู้บริโภคระวังถ่านปลอม เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพและอุปกรณ์ — พานาโซนิค ออกโรงเตือนภัย "ถ่านปลอม" ระบาดตลาดออนไลน์-ออฟไลน์ ชี้ถ่านปลอมเสี่ยงบวม...

บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ ... CPW ปรับโฉมใหม่ Xiaomi Store โรบินสันลาดกระบัง จัดหนักโปรปัง เฉพาะ 29 ส.ค.68 - 12 ก.ย.68 เท่านั้น! — บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ CPW ตอกย้ำคว...

บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ ... CPW เปิดประสบการณ์ใหม่ที่ร้าน iStudio by copperwired centralwOrld สู่ Apple Premium Partner — บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ CPW ผู้นำตัวแทนจำหน...