บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่งด้านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้ตามเป้าหมาย NAV เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 34 มุ่งรักษาแชมป์โดยเจาะกลุ่มลูกค้าเอกชนและรัฐวิสาหกิจ
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอ็มเอฟซีประสบความสำเร็จในการก้าวสู่อันดับหนึ่งด้านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้ โดย ณ วันที่ 30 เมษายน 2557 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 136,914.21 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 34 จากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ 27 ธันวาคม 2556 ซึ่งอยู่ที่ 102,152.29 ล้านบาท เนื่องจากเอ็มเอฟซีได้รับความไว้วางใจจากรัฐวิสาหกิจหลายแห่งให้บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จึงมีเงินก้อนใหม่เข้ามาส่งผลให้ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรม
ในปีนี้เอ็มเอฟซีจะเจาะกลุ่มบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กให้มากขึ้น รวมทั้งรัฐวิสาหกิจ โดยมั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มดังกล่าว จากการมุ่งมั่นสร้างผลตอบแทนให้อยู่ในระดับที่ดีอย่างสม่ำเสมอ นโยบายกองทุนที่หลากหลายสำหรับลูกค้าเลือกได้ตามความต้องการ และการให้บริการด้านงานทะเบียนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อความสะดวกของสมาชิกกองทุน ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของเอ็มเอฟซีสามารถเติบโตเป็นที่หนึ่งตลอดปีนี้
ทั้งนี้ จากสัดส่วนของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของเอ็มเอฟซี 136,914.21 ล้านบาท แบ่งเป็นรัฐวิสาหกิจร้อยละ 70 ภาคเอกชนร้อยละ 21 Master Fund ร้อยละ 6 และ Fix Income Pool Fund อีกร้อยละ 3
จากข้อมูลส่วนแบ่งการตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ณ วันที่ 30 เมษายน 2557 ของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน โดย 3 อันดับแรกได้แก่ อันดับ 1 บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 136,914.21 ล้านบาท อันดับ 2 บลจ. กสิกรไทย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 136,425.21 ล้านบาท และอันดับ 3 บลจ. ทิสโก้ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 102,792 ล้านบาท
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ: สุวรรณา ชีวนันทชัย บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2649-2232
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอ็มเอฟซีประสบความสำเร็จในการก้าวสู่อันดับหนึ่งด้านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้ โดย ณ วันที่ 30 เมษายน 2557 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 136,914.21 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 34 จากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ 27 ธันวาคม 2556 ซึ่งอยู่ที่ 102,152.29 ล้านบาท เนื่องจากเอ็มเอฟซีได้รับความไว้วางใจจากรัฐวิสาหกิจหลายแห่งให้บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จึงมีเงินก้อนใหม่เข้ามาส่งผลให้ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรม
ในปีนี้เอ็มเอฟซีจะเจาะกลุ่มบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กให้มากขึ้น รวมทั้งรัฐวิสาหกิจ โดยมั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มดังกล่าว จากการมุ่งมั่นสร้างผลตอบแทนให้อยู่ในระดับที่ดีอย่างสม่ำเสมอ นโยบายกองทุนที่หลากหลายสำหรับลูกค้าเลือกได้ตามความต้องการ และการให้บริการด้านงานทะเบียนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อความสะดวกของสมาชิกกองทุน ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของเอ็มเอฟซีสามารถเติบโตเป็นที่หนึ่งตลอดปีนี้
ทั้งนี้ จากสัดส่วนของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของเอ็มเอฟซี 136,914.21 ล้านบาท แบ่งเป็นรัฐวิสาหกิจร้อยละ 70 ภาคเอกชนร้อยละ 21 Master Fund ร้อยละ 6 และ Fix Income Pool Fund อีกร้อยละ 3
จากข้อมูลส่วนแบ่งการตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ณ วันที่ 30 เมษายน 2557 ของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน โดย 3 อันดับแรกได้แก่ อันดับ 1 บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 136,914.21 ล้านบาท อันดับ 2 บลจ. กสิกรไทย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 136,425.21 ล้านบาท และอันดับ 3 บลจ. ทิสโก้ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 102,792 ล้านบาท
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ: สุวรรณา ชีวนันทชัย บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2649-2232
บลจ.ภัทร ชูจุดแข็ง 'Phatra Asset Allocation’ เปิด 2 กองทุนใหม่ ตอบโจทย์การลงทุนท่ามกลางตลาดผันผัวน
ภาพข่าว: ทีมผู้บริหาร KTAM แถลงผลงานปี 61
KTAMโชว์ผลงานปี61AMUพุ่ง7.76แสนล้านเพิ่ม8.7% ปีนี้ตั้งเป้าโตกว่า10%เร่งออกกองทุนสร้างทางเลือกลูกค้า
KTAM ตั้งเป้าปี 6 1 AUM โต 8.38 แสนล้าน ปลื้ม KTEF ครองที่ 1 ผลงาน 5 ปี ทั้ง AIMC-Morningstar
KTAM เพิ่มทางเลือกเปิดขายKT25/75เน้นสะสมมูลค่า จับกลุ่มนักลงทุนรับโอกาสผลตอบแทนสูงกว่าตราสารหนี้
KTAMเพิ่มทางเลือกเปิดขายKT25/75เน้นสะสมมูลค่า จับกลุ่มนักลงทุนรับโอกาสผลตอบแทนสูงกว่าตราสารหนี้
KTAMเพิ่มเงินทุนจดทะเบียนกองทุนKT-CHINA พร้อมขาย2กองทุนตราสารหนี้ตปท.1ปีชูยิลด์1.65%