สำนักโรคติดต่อทั่วไป จับมือ สคร.11 - 12 จัดประชุมเชิงปฏิบัติการโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ ปี 57

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          สำนักโรคติดต่อทั่วไป ร่วมกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช และ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “การถ่ายทอดแนวทางรณรงค์โรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี” เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติงานตามแนวทางการรณรงค์ให้วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ในกลุ่มผู้ใหญ่อายุ 20-50ปี การเฝ้าระวังอาการภายหลังได้รับวัคซีน การเบิกวัคซีน และการจัดทำรายงานผลการการให้บริการ ในวันที่ 11 ธันวาคม 2557 ณ โรงแรมธรรมรินทร์ธนา อำเภอเมือง จังหวัดตรัง โดยมี นายแพทย์สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา ให้เกียรติเป็นประธาน
          ดร.นายแพทย์สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า โรคคอตีบ เป็นโรคติดเชื้อเฉียบพลันของระบบทางเดินหายใจ มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดการอักเสบ มีแผ่นเยื่อเกิดขึ้นในลำคอในรายที่รุนแรงจะมีการตีบตันของทางเดินหายใจ จึงได้ชื่อว่าโรคคอตีบ และจากพิษของเชื้อจะทำให้มีอันตรายต่อกล้ามเนื้อหัวใจ และเส้นประสาทส่วนปลายซึ่งถ้าเป็นรุนแรงจะทำให้เป็นอัมพาตและเสียชีวิตได้ 
          เชื้อจะพบอยู่ในคนเท่านั้น โดยจะพบอยู่ในจมูกหรือลำคอของผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ ติดต่อกันได้ง่ายโดยการได้รับเชื้อโดยตรงจากการไอ จามรดกัน หรือพูดคุยกันในระยะใกล้ชิด เชื้อจะเข้าสู่ผู้สัมผัสทางปากหรือทางการหายใจ บางครั้งอาจติดต่อกันได้โดยการใช้ภาชนะร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ ช้อน หรือ การเอาของเล่นใส่ปาก การรับประทานอาหารร่วมกันเล่นร่วมกันในเด็กเล็ก ผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการเป็นแหล่งแพร่เชื้อที่สำคัญในชุมชน เด็กที่ไม่ได้รับวัคซีนจะติดเชื้อได้ตั้งแต่เล็ก หลังจากภูมิต้านทานจากแม่ลดลง ระยะฟักตัวของโรคอยู่ระหว่าง 2-5 วัน อาจจะนานกว่านี้ได้ เชื้อจะอยู่ในลำคอของผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษาได้ประมาณ 2 สัปดาห์ แต่บางครั้งอาจนานถึงหลายเดือนได้ ผู้ที่ได้รับการรักษาเต็มที่เชื้อจะหมดไป ภายใน 1 สัปดาห์ 
          โรคคอตีบสามารถเกิดได้ทั้งในผู้ใหญ่และเด็ก สาเหตุเกิดจากการที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับไม่ครบถ้วนตามเกณฑ์ ในปี 2555 ได้มีการระบาดของโรคคอตีบในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือตอนล่าง มีผู้ป่วยยืนยันโรคคอตีบรวมจำนวน 54 ราย เสียชีวิต 7 ราย ส่วนใหญ่ผู้ป่วยเป็นผู้ใหญ่ กระทรวงสาธารณสุขประเมินความเสี่ยงของการระบาดด้วยโรคคอตีบในกลุ่มนี้พบว่าเกิดจากการที่ประชาชนยังไม่มีภูมิต้านทานโรคหรือมีภูมิคุ้มกันโรคแต่อยู่ในระดับที่ไม่เพียงพอ ซึ่งได้แก่ กลุ่มผู้ใหญ่ที่เกิดก่อนหรือเกิดในช่วงต้นของแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค และเด็กที่ไม่ได้รับวัคซีนครบถ้วนตามเกณฑ์ ซึ่งมักเป็นกลุ่มแรงงานย้ายถิ่นหรืออยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร นอกจากนี้ มีผลการศึกษาหลายแห่งให้ผลตรงกันว่า ระดับภูมิคุ้มกันต่อโรคคอตีบในประชากรไทยกลุ่มอายุ ต่าง ๆ มีแนวโน้มลดลงในกลุ่มที่มีอายุมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอายุประมาณ 20 ปี ถึง 50 ปี (ผู้ที่เกิดระหว่างมกราคม 2508 - ถึง ธันวาคม 25328 ) ทำให้ต้องรณรงค์ให้วัคซีนคอตีบเพื่อควบคุมโรคทั่วประเทศเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อโรคคอตีบในผู้ใหญ่ ทั้งบุคคลชาวไทยและชาวต่างชาติทุกคน คนละ 1 ครั้ง โดยเริ่มในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นภาคแรก ภายในเดือนธันวาคม 2557 และขยายครอบคลุมทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 30 เมษายน ณ สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ ฟรี 
          การให้วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ เป็นการป้องกันที่ดีที่สุด วัคซีนตามเกณฑ์จะกำหนดไว้ 5 ครั้ง เมื่ออายุ 2, 4, 6และ 18 เดือน และกระตุ้นอีกครั้งหนึ่งเมื่ออายุ 4 ปี ในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ พ.ศ.2551 เป็นต้นมา พบการระบาดของโรคคอตีบในเด็กอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนต่ำ 
          ดร.นายแพทย์สุวิช ธรรมปาโล กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคคอตีบเริ่มมีสัญญาณการกลับมาระบาดอีกครั้ง จึงต้องมีการรณรงค์ให้วัคซีนเพื่อเพิ่มระดับความคุ้มกันของผู้ใหญ่ให้อยู่ในระดับสูงเพียงพอต่อการป้องกันโรคได้ โดยกระทรวง-สาธารณสุขร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้เริ่มให้วัคซีนป้องกันโรคคอตีบแก่ผู้ใหญ่อายุ ๒๐-๕๐ ปี ทุกคน ๑ เข็ม ทั่วประเทศ โดยวัคซีนที่ใช้ในการรณรงค์ครั้งนี้ เป็นวัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบและโรคบาดทะยักอยู่ในเข็มเดียวกัน อย่างไรก็ตามหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคคอตีบ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
สำนักโรคติดต่อทั่วไป จับมือ สคร.11 - 12 จัดประชุมเชิงปฏิบัติการโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ ปี 57

ข่าวเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ+สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่วันนี้

SYS มอบเครื่องเลเซอร์รักษาจอประสาทตาให้ รพ.เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระยอง ช่วยผู้ป่วยโรคจอประสาทตาเข้าถึงการรักษาได้สะดวกมากขึ้น

บริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด หรือ SYS ผู้ผลิตเหล็กเอชบีม ไวด์แฟลงก์ มานานกว่า 25 ปี สานต่อธรรมาภิบาลการดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและห่วงใยในคุณภาพชีวิตชุมชนรอบโรงงาน โดยล่าสุด นายเจษฎา ปลั่งมณี กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย นายฉัตรภพ พรธรรม ผู้จัดการฝ่ายบริหารความยั่งยืน และ ดร.เภา บุญเยี่ยม ผู้จัดการสายงานรัฐกิจและชุมชนสัมพันธ์ บริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด หรือ SYS เป็นตัวแทนมอบเครื่องเลเซอร์รักษาโรคจอประสาทตา ชนิดลำแสงสีเขียว มูลค่า 3.5 ล้านบาท (สามล้านห้าแสนบาท) ให้กับ นายแพทย์สุกิจ

บริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด หรือ SYS ผู... ภาพข่าว: SYS สนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์โรงพยาบาล 7 แห่ง — บริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด หรือ SYS ผู้ผลิตเหล็กเอชบีม ไวด์แฟลงก์ มานานมากกว่า 25 ปี ล่าสุ...

นายประยูร อินสกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหก... ภาพข่าว: กิจกรรม วันสหกรณ์นักเรียน 7 มิ.ย. 62 — นายประยูร อินสกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน "7 มิถุนายน วันกิจกรรมสหกรณ์นักเรียน...

อมตะปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

นายอัครเรศร์ ชูช่วย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อมตะ ฟาซิลิตี้ เซอร์วิส จำกัด เป็นประธานเปิดกิจกรรม ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสมงคลทรงเจริญพระชนมายุ 64 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2562 ...

เกิดเรื่องราวดีๆ ที่ทำให้สังคมไทยน่าอยู่ม... ลาซาด้าชวนทำบุญสร้างอาคารรองรับผู้ป่วย ดึง “หมอภาคย์” นำทีมระดมทุน — เกิดเรื่องราวดีๆ ที่ทำให้สังคมไทยน่าอยู่มากขึ้นกันอีกครั้ง เมื่อ ลาซาด้า (Lazada) ผู...