สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เผยผลติดตามความก้าวหน้าของโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพริกไทยเพื่อลดผลกระทบจากการเปิดเสรีการค้า ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ระบุ กิจกรรมถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีการผลิต ช่วยเกษตรกรตื่นตัว หันฟื้นฟูสวนพริกไทยให้มีคุณภาพมาตรฐาน พร้อมเสนอให้ส่งเสริมการรวมกลุ่มเป็นองค์กรหรือสมาคม เพื่อผลักดันด้านการผลิตและการตลาดที่ชัดเจน
นายสุรศักดิ์ พันธ์นพ รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพริกไทยเพื่อลดผลกระทบจากการเปิดเสรีการค้า ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ซึ่งมีเกษตรกรที่ร่วมโครงการเริ่มหันกลับมาปรับปรุงฟื้นฟูสวนพริกไทย และเน้นเพิ่มคุณภาพผลผลิตให้ได้มาตรฐาน GAP อันเป็นทางเลือกหนึ่งในการเพิ่มรายได้ และยังช่วยเพิ่มปริมาณผลผลิตให้เพียงพอกับความต้องการในประเทศที่ยังสูงอยู่ โดยในปี 2557 ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี กรมวิชาการเกษตร ได้รับงบประมาณ 5.50 ล้านบาท เพื่อดำเนินงานโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพริกไทยเพื่อลดผลกระทบจากการเปิดเสรีการค้า มีระยะเวลาดำเนินงาน 2 ปี มุ่งเน้นการปรับปรุงและฟื้นฟูสวนพริกไทยเดิมให้สามารถเพิ่มผลผลิตให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน GAP และให้มีปริมาณเพียงพอกับความต้องการใช้บริโภคภายในประเทศ
สำหรับในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การผลิตพริกไทยของประเทศมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากปี 2551 มีเนื้อที่ให้ผลกว่า 9,000 ไร่ ผลผลิตกว่า 5,000 ตัน แต่ในปี 2555 เนื้อที่ให้ผลลดลงเหลือประมาณ 7,000 ไร่ และผลผลิตรวม 3,500 ตัน เนื่องจากปัญหาต่างๆ เช่น โรคแมลงศัตรูพืช ขาดแคลนแรงงาน และราคาพืชชนิดอื่นที่จูงใจ
ซึ่งจังหวัดจันทบุรี ถือเป็นแหล่งผลิตพริกไทยที่สำคัญ มีเนื้อที่ปลูกกว่าร้อยละ 95 ของพื้นที่ปลูกพริกไทยทั้งประเทศ ดังนั้น กองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ หรือกองทุน FTA จึงได้สนับสนุนให้ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี ร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรีเข้ามาส่งเสริมการผลิตพริกไทยให้มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน
ในการนี้ สศก. ได้ติดตามความก้าวหน้าของโครงการ พบว่า ได้มีการจัดกิจกรรมการถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกร เกี่ยวกับเทคโนโลยีการผลิตพริกไทยให้ได้คุณภาพไปแล้ว 3 ครั้ง และล่าสุดได้จัดเวทีระดมความคิดเห็นของเกษตรกรผู้ปลูกพริกไทย เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ เทศบาลตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ มีเกษตรกรเข้าร่วมจาก 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าใหม่ นายายอาม แก่งหางแมว และเขาคิชฌกูฏ รวมทั้งเกษตรกรที่สนใจจากอำเภออื่นๆ ประมาณ 100 ราย ซึ่งทางสำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี ได้นำร่างยุทธศาสตร์การพัฒนาพริกไทยจังหวัดจันทบุรี มาให้ร่วมกันแสดงข้อคิดเห็นต่างๆ เพื่อปรับปรุงก่อนนำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดผลักดันเป็นแนวทางการพัฒนาพริกไทยของจังหวัดต่อไป
นอกจากนี้ จากการสอบถามเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ พบว่า ได้เริ่มนำความรู้จากการจัดอบรมไปปรับใช้ในสวนพริกไทยของตนเองแล้ว โดยเริ่มทำการฟื้นฟูสวนที่ปล่อยเสื่อมโทรมให้กลับมามีความสมบูรณ์ขึ้น และหวังว่าจากราคาจำหน่ายผลผลิตในปัจจุบันเฉลี่ยประมาณ 240 บาทต่อกิโลกรัม (พริกไทยดำคละ) จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เกษตรกรมีความต้องการให้จัดอบรมเกี่ยวกับการดูแลสวนพริกไทยอย่างต่อเนื่อง และอยากให้มีการส่งเสริมการรวมกลุ่มเป็นองค์กรหรือสมาคมผู้ปลูกพริกไทย เพื่อให้เกิดการผลักดันด้านการผลิตและการตลาดที่ชัดเจน
ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากสิ้นสุดโครงการในปลายปี 2558 จะส่งผลต่อการตื่นตัวในการผลิตพริกไทยในจังหวัดจันทบุรี จากการมีแปลงต้นแบบการเรียนรู้ในแต่ละอำเภอที่ช่วยจะกระตุ้นให้เกษตรกรที่เคยปลูกพริกไทยโดยทั่วไป ได้กลับมาปรับปรุงฟื้นฟูสวนพริกไทยให้มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นพืชทางเลือกหนึ่งในการสร้างรายได้ ให้สมกับคำว่า “พริกไทยพันธุ์ดี” ที่เป็นส่วนหนึ่งของคำขวัญจังหวัดจันทบุรี รองเลขาธิการ กล่าว
เลขาธิการ สศก. เตรียมนำทีม ลุย Crop Cutting ภาคสนามเพชรบูรณ์ 27 ตุลาคมนี้ ลงพื้นที่แปลงข้าวโพดเกษตรกร ยกระดับข้อมูลแม่นยำพืชเศรษฐกิจของประเทศ
สศท.12 ชวนศึกษาวิถี เกษตรอินทรีย์ 'บ้านสวนน้อยชมจันทร์' จ.เพชรบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบยั่งยืน
โครงการปรับปรุงคลองส่งน้ำ ท่ามะกา ระยะ 5 ช่วยเกษตรกร 40 ครัวเรือน ผลผลิตและรายได้เพิ่ม
สศก. ลงพื้นที่สมุทรสาคร หนุนเกษตรกรเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม GAP ชี้ได้เปรียบทั้งคุณภาพและความปลอดภัย
สศก. จัดสัมมนาระดมความเห็น ดึงแพลตฟอร์ม "AgriDataProv" ขับเคลื่อนการเกษตรด้วย Big Data สู่จังหวัดยุคดิจิทัล
สศก. ติดตามความก้าวหน้าโครงการจัดการความเสื่อมโทรมของที่ดิน ด้วยแนวคิด LDN มุ่งสู่การใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน
สศท.6 ชวนเช็คอิน 'สวนผลอำไพ' จ.ตราด แหล่งเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ สร้างมูลค่าเพิ่มเชื่อมโยงการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
โครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรชีวภาพ หนุนเกษตรกรสร้างรายได้จากสมุนไพร-แมลงเศรษฐกิจ
สศท.6 ชี้ผลสำเร็จโครงการนำร่องการแก้ไขปัญหาลดผลกระทบจากช้างป่า พื้นที่บ้านหนองกระทิง จ.ฉะเชิงเทรา ช่วยเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ลดรายจ่ายครัวเรือน