สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 9.00 น.

14 Jan 2015
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,238 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ1,235เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.85 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,100 บาท กับ 19,200 บาท และกลับมาปิดที่ 19,200 บาท กับ 19,300 บาท

ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 564 คู่สัญญา แบบ 10 บาทอยู่ที่ 4310 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 0.3 % แบบ 10 บาท ลดลง 0.11% GFG14 ปิด 19,400 บาท และ GFJ14 ปิด 19,490 บาท GF10G14 ปิดที่ 19,410 บาท GF10J14 ปิดที่ 19,520 บาท

สัญญา Comex เพิ่มขึ้น 1.6 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,234.4 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 18 เซนต์ ปิดตลาดที่ระดับ 45.89 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำอยู่ที่ระดับ 707.82 ตัน (เท่าเดิม)

ข่าวที่สำคัญ

-ทองคำปรับตัวลดลงหลังขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญทางเทคนิคในรอบ 12 สัปดาห์บริเวณ 1,239 เหรียญ/ออนซ์ โดยในเช้าวันนี้ค่อยๆปรับตัวลดลงต่อจากการกลับมาแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ หลังจากที่ตำแหน่งงานว่างของสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 4.97 ล้านตำแหน่ง และบัญชีงบดุลออกมาดีขึ้นสู่ระดับ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์

-นักวิเคราะห์จากรอยเตอร์ ระบุว่า ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจของนักลงทุนในระยะนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนในตลาดหุ้นและตลาดสกุลเงิน หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี

-นักวิเคราะห์จาก INTL FCStone กล่าวว่า ทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,243.6 เหรียญ/ออนซ์ได้เมื่อวานนี้ ซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับเส้นค่าเฉลี่ย 150 วันเพียงเล็กน้อย ซึ่งหากตลาดหุ้นและน้ำมันยังคงได้รับแรงกดดันให้ร่วงลงอย่างหนักจะส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลและทำให้ทองคำกลับมาได้รับความน่าดึงดูดใจอีกครั้ง

-ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.1764 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1840 ยูโร/ดอลลาร์ และเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1770 ยูโร/ดอลลาร์ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯยังมีสัญญาณที่แข็งแกร่งในด้านปัจจัยพื้นฐาน แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงชะลอตัว

ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าขึ้นสู่ระดับ 117.73 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 118.32 เยน/ดอลลาร์ และเช้านี้ทรงตัวที่ระดับ 117.63 เยน/ดอลลาร์

-สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ดอยซ์ แบงก์ ได้ปรับลดคาดการณ์ค่าเงินยูโรในปีนี้ลงสู่ระดับ 1.10 ยูโร/ดอลลาร์ ขณะที่ปี 2016 และ 2017 จะอยู่ที่ระดับ 1.00 และ 0.90 ยูโร/ดอลลาร์

-สำนักข่าวฟอเร็กซ์ครันช์ รายงานว่า สภายุโรป (ECJ) จะตัดสินใจเกี่ยวกับกรณีที่ได้รับจากศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมนี ในกรณีที่อีซีบีประกาศใช้มาตรการ OMT ในปี 2012 แต่อีซีบีไม่เคยดำเนินการใดๆเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว รวมถึงพิจารณาเกี่ยวกับการเข้าซื้อตราสารหนี้ที่เพิ่มขึ้น หรือมาตรการ QE ของอีซีบี ทั้งนี้ สภายุโรปคาดว่าจะอนุมัติการดำเนินงานของอีซีบีโดยให้เกิดความยุติธรรมและเป็นไปอย่างโปร่งใส ซึ่งการพิจารณาดังกล่าวยังคงได้รับความสนใจและอาจทำให้ตลาดการเงินเกิดความผันผวนได้

-หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของดอยซ์ แบงก์ในจีน ประเมินว่า เศรษฐกิจจีนในช่วงครึ่งปีแรกจะได้รับผลกระทบจากภาคการคลัง แต่จะกลับมาฟื้นตัวได้ดีในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และคาดว่าจีดีพีในปี 2015 จะเติบโตประมาณ 7%

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลง 18 เซนต์ ที่ระดับ 45.89 เหรียญ/บาร์เรล เพราะได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯจะเพิ่มสูงขึ้น จึงอาจส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นด้วย

-เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด -0.15% โดยยังคงปิดแดนลบติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนทำการเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีปรับตัวขึ้นกว่า 300 จุดระหว่างวัน จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัท อัลโค อิงค์ และข้อมูลเศรษฐกิจของจีน ได้แก่ ยอดบัญชีงบดุลของจีนออกมาดีขึ้นกว่าที่คาดการณ์สู่ระดับ 4.96 หมื่นล้านดอลลาร์

-เช้านี้ ดัชนีนิกเกอิเปิด -0.74% ตามการอ่อนแรงของตลาดหุ้นดาวโจนส์ และการแข็งค่าของค่าเงินเยนที่ส่งผลให้หุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวลดลงในวันนี้

-นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทในวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.75-32.90 บาท/ดอลลาร์ ในลักษณะแกว่งตัวในกรอบแคบรอการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ยอดค้าปลีก,จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงาน และตัวเลขเงินเฟ้อ

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืน

JOLTS Job Openings ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 4.83 M ตัวเลขจริงที่ออกมาอยุ่ที่ระดับ 4.97 M

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้

Core Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.5% ตัวเลขที่คาดการณ์อยุ่ที่ระดับ 0.1%

Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.7 % ตัวเลขที่คาดการ์อยู่ที่ระดับ 0.2 %

Import Prices m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -1.5% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ -2.7 %

Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -3.1 M ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 1.2 M

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดเมื่อวานนี้บริเวณ 1,242 เหรียญ/ออนซ์ ก่อนจะมีแรงเทขายอย่างหนาแน่น โดยตลาดโลกยังคงมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลงจากการที่ราคาน้ำมันยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่องรุนแรง แม้ค่าเงินดอลลาร์จะแข็งแกร่งขึ้นก็ตาม โดยเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1764 ยูโร/ดอลลาร์ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ ได้แก่ JOLTS Job Openings มีตำแหน่งว่างงานเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 4.97ล้านตำแหน่ง จึงกดดันทำให้มีแรงเทขายทองคำทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง และปิดตลาด COMEXที่ระดับ 1,234.4 เหรียญ/ออนซ์ และในช่วงปลายตลาดก็ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยในเช้านี้ตลาดฮ่องกงเปิดที่ระดับประมาณ 1,231 เหรียญ/ออนซ์ ทางด้าน SPDR ยังไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมยังคงถือครองทองคำที่ระดับ 707.82 ตัน สำหรับคืนนี่ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Core Retail Sales, Retail Sales และ Import Price ที่คาดว่าจะออกมาแย่ลง

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในเชิงเทคนิคระยะสั้น ราคาทองคำสามารถยืนเหนือระดับ 1,220 เหรียญได้ ซึ่งทำให้โดยภาพรวมเป็นแนวโน้มขาขึ้น ทั้งนี้ Oscillators เองยังคงปรับตัวสูงขึ้น แต่อาจจะเห็นแรงเทขายทำกำไรอย่างหนาแน่นบริเวณ 1,240 เหรียญขึ้นไป ในวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะแก่วงตัวในกรอบ 1,210-1250 เหรียญ โดยขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะประกาศออกมาในคืนนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันยังเป็นตัวกดดันภาพรวมของเศรษฐกิจโลกและตลาดหุ้นดาวโจนส์ จึงวิเคราะห์ว่า ทองคำยังคงเป็นขาขึ้นในระยะสั้นตราบใดที่ยังยืนอยู่เหนือระดับ 1,220 เหรียญ

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แนวโน้มขาขึ้น ในลักษณะซื้อก่อนขายทีหลังโดยเมื่อราคาปรับตัวหรืออ่อนตัวลงให้เข้าซื้อ

  • นักลงทุนที่ถือ Long Position

Take Profit เป็นช่วงๆ

  • นักลงทุนที่ถือ Short Position

พยายามลดสถานะลง โดยมี Stop Loss ป้องกันความเสี่ยง

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

บริหารพอร์ทสมดุล เนื่องจากในระยะสั้นทองคำยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ภาพหลักระยะยาวของทองคำยังเป็นขาลง

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

ประชาสัมพันธ์:

1. MTS Gold ประกาศปรับ Rate อัตราดอกเบี้ยเงินวางค้ำประกันของ Gold Spot และ Gold Futuresจากระดับ 0.90% สู่ระดับ 1.00% ต่อปี โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558 เป็นต้นไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 02-770-7777

2. นักลงทุนสามารถติดตามการวิเคราะห์ตลาดทองคำและตลาดอนุพันธ์ (ช่วงเช้า) กับ MTS Gold ได้ในรายการ “รู้ทองรวยเงิน” ทางช่อง TNN24 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.10-10.15น. แทนรายการ “รู้ก่อนรวยกว่า”

3. รายการ Gold Tonight by MTS Gold ปรับเปลี่ยนเวลาใหม่ให้เร็วขึ้น ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 21.00-21.05น. ทางช่อง Money Channel ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.58

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม: 02 770 7777

MTS Research

MTS Gold Group

Phone: 02-770-7777

Fax: 02-623-9366

Email: [email protected]

Website: http://www.mtsgold.co.th