เตือนเกษตรกรระวังภัยน้ำเค็มเอ่อทำลายพืชผล สศข.15 เผย นนทบุรี-ปทุมธานีต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 15 แจ้งเตือนเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีและปทุมธานีให้ระวังน้ำเค็มเอ่อเข้าทำลายพืชผลการเกษตร เนื่องจากกรมชลประทานหยุดปล่อยน้ำทำนาปรัง อาจส่งผลน้ำเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาเคลื่อนขึ้นมาสูงโดยเฉพาะทางด้านตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาแถมอำเภอบางกรวย บางบัวทอง และไทรน้อย ส่วนจังหวัดปทุมธานีในแถบอำเภอเมืองและอำเภอลาดหลุมแก้ว 
          นายสมชาย ครามานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 15 ปทุมธานี (สศข.15) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการแจ้งเตือนเกษตรกรที่ทำการเกษตรในฤดูแล้งช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนในเขตจังหวัดนนทบุรีและปทุมธานีให้ระวังน้ำเค็มเอ่อเข้าทำลายพืชผลการเกษตร เนื่องจากปีนี้ปริมาณน้ำใช้การได้ในเขื่อนภูมิพลและสิริกิติ์เมื่อสิ้นเดือนมกราคมมีประมาณ 5,100 ล้านลูกบาศก์เมตรซึ่งมีปริมาณน้อย สืบเนื่องจากกรมชลประทานหยุดปล่อยน้ำทำนาปรังและไม่มีน้ำปล่อยไล่น้ำเค็ม ทำให้น้ำเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาเคลื่อนขึ้นมาสูงถึงจังหวัดนนทบุรีและปทุมธานีโดยเฉพาะทางด้านตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาแถมอำเภอบางกรวย บางบัวทองและไทรน้อย ส่วนจังหวัดปทุมธานีในแถบอำเภอเมืองและอำเภอลาดหลุมแก้ว 
          ดังนั้น เกษตรกรควรระวังน้ำเค็มด้วยการทำคันกั้นน้ำไม่ให้น้ำจากแม่น้ำเข้าสู่แปลงโดยตรง พร้อมทั้งติดตามข่าวและเฝ้าระวังคุณภาพน้ำทุกวันซึ่งสามารถติดตามข่าวได้จากศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน โดยหากมีความจำเป็นต้องผันน้ำจากแม่น้ำลำคลองเข้าสู่แปลงผัก สวนไม้ผล สวนกล้วยไม้และนาข้าว ก็ควรตรวจวัดค่าความเค็มของน้ำในลำคลองให้มีค่าความเค็มของน้ำไม่เกิน 0.2 เปอร์เซ็น 
          อย่างไรก็ตาม ในการปลูกพืชผักขอแนะนำให้เกษตรกรที่ปลูกพืชผักโดยเฉพาะพืชผักที่มีการยกร่องแปลงปลูก ควรปลูกในบริเวณที่ต่ำกว่าบริเวณสันร่อง เนื่องจากโดยธรรมชาติแล้วเกลือจะเคลื่อนที่สะสมในพื้นที่สูงเมื่อมีการระเหยน้ำและควรเลือกปลูกชนิดพืชผักที่เหมาะสมกับระดับความเค็มในดินที่เพิ่มขึ้น เช่น ในพื้นที่ดินเค็มน้อย ควรปลูกถั่วฝักยาว คื่นฉ่าย แตงร้าน และแตงไทย เป็นต้น ในพื้นที่ดินเค็มปานกลาง ควรปลูก บวบ พริก ถั่วลันเตา หอมใหญ่ข้าวโพดหวาน และผักกาดหอม เป็นต้น ส่วนพื้นที่ดินเค็มมาก แนะนำให้ปลูกผักกาดหัว มะเขือเทศ ถั่วพุ่ม ชะอมคะน้า ผักบุ้งจีน และกระเพรา ทั้งนี้ สามารถขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้จากศูนย์บริการข้อมูลเศรษฐกิจการเกษตรเขต 15 โทร. 0 2520 3720-1 ในวันและเวลาราชการ


ข่าวสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร+เศรษฐกิจการเกษตรวันนี้

ภาพรวม ลำไย 8 จังหวัด ภาคเหนือ ปี 68 ผลผลิตรวม 1.06 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 12% ลำไยในฤดูเริ่มออกตลาดแล้ว สศท.1 เชิญชวนบริโภคลำไยคุณภาพ

นางสุจารีย์ พิชา ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 เชียงใหม่ (สศท.1) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการติดตามสถานการณ์ผลิตลำไยของ 8 จังหวัดภาคเหนือ (เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย พะเยา ลำปาง ตาก แพร่ และน่าน) โดย สศก. ร่วมกับคณะทำงานย่อยเพื่อพัฒนาระบบข้อมูลและโลจิสติกภาคเหนือ จัดทำข้อมูลไม้ผลเศรษฐกิจภาคเหนือ ครั้งที่ 2/2568 (ข้อมูล ณ วันที่ 7-8 พฤษภาคม 2568) พบว่า ปี 2568 ลำไยของ 8 จังหวัดภาคเหนือ มีเนื้อที่ยืนต้น จำนวน 1,243,784 ไร่ ลดลงจากปีที่แล้ว ที่มีจำนวน 1,251,506 ไร่ (ลดลง 7

นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงา... โครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรชีวภาพ หนุนเกษตรกรสร้างรายได้จากสมุนไพร-แมลงเศรษฐกิจ — นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)...

นายนิกร สงเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิ... สศท.8 เผยผลศึกษาการเพิ่มมูลค่าวัสดุเหลือใช้จากมังคุด ตามแนวทาง BCG Model เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร — นายนิกร สงเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 ส...

นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงา... โครงการส่งเสริมอาชีพประมง เพิ่มมูลค่าสัตว์น้ำ หนุนสร้างรายได้เกษตรกร — นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสห...

นางสาวอุษา โทณผลิน ผู้อำนวยการสำนักงานเศร... สศท.3 หนุนสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น 'สับปะรดท่าอุเทน' GI ขึ้นแท่นผลไม้เศรษฐกิจเด่น จ.นครพนม — นางสาวอุษา โทณผลิน ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่...

นายไพฑูรย์ สีลาพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเ... 'กระท้อนนาปริก' จ.สตูล สินค้า GI มุ่งยกระดับคุณภาพ พัฒนาตลาด สร้างรายได้อย่างยั่งยืน — นายไพฑูรย์ สีลาพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 9 สงขลา...