SIRFLOX เผยผลการวิจัยในการประชุม ASCO ประจำปี 2558

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          คณะนักวิจัยเชิงคลินิกชี้ให้เห็นถึงนัยสำคัญของระยะปลอดโรค (PFS) ในตับ ที่เพิ่มขึ้นถึง 7.9 เดือนในผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักระยะแพร่กระจาย (mCRC) ประเภทที่ผ่าตัดไม่ได้ ซึ่งได้รับการรักษาด้วย SIR-Spheres(R) Y-90 resin microspheres ร่วมกับการทำเคมีบำบัด

          ประโยชน์จากการใช้ SIR-Spheres Y-90 resin microspheres ที่ตับโดยตรง เพิ่มเติมจากการทำเคมีบำบัดที่เป็นการรักษาพื้นฐานสำหรับรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักระยะแพร่กระจาย (mCRC) ประเภทที่ผ่าตัดไม่ได้ ดังที่ปรากฎในผลการวิจัย SIRFLOX นั้น ได้รับการนำเสนอต่อที่ประชุมประจำปี 2558 ของสมาคม American Society of Clinical Oncology (ASCO) ในชิคาโก ผลการวิจัย SIRFLOX แบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมในผู้ป่วยจำนวน 530 คน ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสใหม่ๆในการผสานรังสีรักษาที่มีเป้าหมายที่ตับร่วมกับการรักษาพื้นฐานนั้น ได้รับการนำเสนอโดยรองศาสตราจารย์ปีเตอร์ กิ๊บส์ หนึ่งในผู้นำการวิจัย SIRFLOX และที่ปรึกษาด้านวิทยาเนื้องอกประจำโรงพยาบาล The Royal Melbourne Hospital ในออสเตรเลีย

          (โลโก้: http://photos.prnewswire.com/prnh/20150119/724485)
          (โลโก้: http://photos.prnewswire.com/prnh/20150317/182238LOGO)

          ศ.กิ๊บส์ กล่าวว่า “เราพบว่าเนื้องอกในตับเริ่มโตขึ้นอีกครั้งหลังผ่านไป 12.6 เดือนโดยเฉลี่ย ในกลุ่มผู้ป่วยโรค mCRC ที่รักษาด้วยการทำเคมีบำบัดพื้นฐานเพียงอย่างเดียว ส่วนผู้ป่วยที่รับเคมีบำบัดร่วมกับการเสริม SIR-Spheres Y-90 resin microspheres สามารถควบคุมการเติบโตของเนื้องอกในตับได้เฉลี่ย 20.5 เดือน ผลต่าง 7.9 เดือนมีนัยสำคัญในเชิงสถิติ ด้วยค่า p-value ที่ 0.002 และอัตราความเสี่ยง (hazard ratio) ที่ 0.69 ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถลดความเสี่ยงในการลุกลามของเนื้องอกในตับได้ถึง 31% สำหรับผู้ป่วยที่รักษาด้วย Y-90 resin microspheres”

          ศ.กิ๊บส์ อธิบายเพิ่มเติมว่า “ผลการค้นพบนี้มีความหมายอย่างมาก เนื่องจากตับนั้นเป็นอวัยวะที่มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักมักแพร่กระจายไปถึงเป็นอันดับแรก ผู้ป่วยครึ่งหนึ่งที่ได้รับการวินิจฉัยแต่เนิ่นๆว่าเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก รอดชีวิตมาได้ด้วยการผ่าตัดกำจัดเนื้องอกก่อนที่เชื้อร้ายจะแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ แต่ถ้ามะเร็งแพร่กระจายไปยังตับผู้ป่วยก็มักจะเสียชีวิต ซึ่งในแต่ละปีมีผู้ป่วยหลายแสนรายที่ไม่สามารถผ่าตัดเพื่อสกัดการแพร่กระจายของเนื้องอกได้”

          ศ.กิ๊บส์ กล่าวต่อที่ประชุม ASCO ด้วยว่า อัตราการตอบสนองต่อการรักษาตับนั้น มีสัดส่วนที่สูงกว่าเป็นอย่างมากในผู้ป่วยที่เสริม Y-90 resin microspheres ร่วมกับการทำเคมีบำบัดพื้นฐานด้วย FOLFOX ทั้งแบบควบคู่และไม่ควบคู่การใช้ยา bevacizumab โดยเขากล่าวว่า “เราพบว่าผู้ป่วยกลุ่มนี้มีอัตราการตอบสนองในตับที่ 78.7% เทียบกับ 68.8% ในกลุ่มผู้ป่วยที่ผ่านการทำเคมีบำบัดเพียงอย่างเดียว ซึ่งถือว่ามีนัยสำคัญทางสถิติ โดยมีค่า p-value ที่ 0.042 นอกจากนี้ อัตราการตอบสนองในตับอย่างสมบูรณ์ของผู้ป่วยในการทดลอง SIRFLOX ที่ได้รับการรักษาด้วย SIR-Spheres Y-90 resin microspheres ยังอยู่ที่ 6.0% ซึ่งแม้ว่าจะอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ แต่ก็ยังมากกว่าสามเท่าเมื่อเทียบกับอัตราการตอบสนองอย่างสมบูรณ์ที่ 1.9% ของผู้ป่วยที่รับการทำเคมีบำบัดเพียงอย่างเดียว ซึ่งถือว่ามีนัยสำคัญทางสถิติเป็นอย่างมาก ด้วยค่า p-value ที่ 0.02”

          คณะนักวิจัยเชิงคลินิกรายอื่นๆในการทดลอง SIRFLOX หารือถึงนัยของการศึกษานี้

          ในการแถลงข่าวภายหลังการนำเสนอผลการทดลอง SIRFLOX ของศ.กิ๊บส์ ทางศ.กาย ฟาน เฮเซล อีกหนึ่งผู้นำการวิจัย SIRFLOX และศาสตราจารย์คลินิกสาขาแพทยศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัย University of Western Australia ในเมืองเพิร์ท กล่าวว่า “SIRFLOX ให้ข้อมูลที่ยืนยันประสิทธิภาพของการทำรังสีบำบัดเฉพาะจุด (SIRT) ด้วย SIR-Spheres Y-90 resin microspheres ในผู้ป่วยโรค mCRC ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการวิจัยเชิงคลินิกแบบสุ่มที่ใหญ่พอที่จะนำไปใช้เป็นหลักฐานระดับ Level One ในการสนับสนุนให้การรักษานี้กลายเป็นวิธีการรักษาพื้นฐาน”

          ศ.ฟาน เฮเซล กล่าวเสริมว่า “ความก้าวหน้าครั้งนี้มีความหมายเป็นอย่างยิ่งต่อเหล่านักวิทยาเนื้องอกและผู้ป่วย เนื่องจากก่อนหน้าที่จะมีการพัฒนา Y-90 resin microspheres ก็แทบจะไม่มีการใช้รังสีรักษาเนื้องอกในตับ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการใช้รังสีนั้นสามารถรักษาตับได้ แต่ปัญหาอยู่ที่การควบคุมปริมาณรังสีเพื่อไม่ให้สร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อตับที่ดี ดังนั้นในการรักษาโรค mCRC นั้น รังสีรักษาจึงไม่สามาถผงาดขึ้นมา “เทียบเท่า” การผ่าตัดและการทำเคมีบำบัดได้เหมือนกับการรักษาโรคมะเร็งประเภทอื่นๆเกือบทุกประเภท”

          ศ.โวล์คเกอร์ ไฮน์มานน์ ผู้นำการวิจัยประจำยุโรปของ SIRFLOX ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ Comprehensive Cancer Center ประจำมหาวิทยาลัย University of Munich ประเทศเยอรมนี กล่าวในงานแถลงข่าวว่า “เหล่านักวิทยาเนื้องอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับชุมชน กำลังเริ่มตระหนักว่าการรักษาโรคมะเร็งตับที่แพร่กระจายมาจากอวัยวะอื่นอย่างตรงจุดและเป็นระบบ มีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาโรคมะเร็งที่รักษายากได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจเปิดโอกาสให้สามารถทำการผ่าตัดรักษาตับ จากที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถผ่าตัดได้”

          “ผลของ Y-90 resin microspheres ที่มีต่อระยะปลอดโรคในตับ ดังที่ปรากฎในรายงาน SIRFLOX นั้น ค่อนข้างชัดเจนในตัวเองอยู่แล้ว” ศ.ไฮน์มานน์ กล่าวเสริม “แม้ว่าจะไม่มีข้อมูลเพียงพอในการประเมินระยะการดำรงอยู่โดยรวม หรือผลการค้นพบสำคัญสำหรับจุดยุติปฐมภูมิ (primary endpoint) ของระยะปลอดโรคในจุดต่างๆ แต่ผลที่ได้จากการทดลอง SIRFLOX ก็บ่งชี้ว่า เหล่านักวิทยาเนื้องอกที่ทำการรักษาโรค mCRC อาจจะพิจารณาใช้ Y-90 resin microspheres รักษาผู้ป่วยตั้งแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยที่มีมะเร็งแพร่กระจายไปยังตับเป็นหลัก”

          เขากล่าวว่า “SIRFLOX ได้มอบหลักฐานชิ้นสำคัญให้กับนักวิทยาเนื้องอกทุกคน เพื่อนำไปพิจารณาและประเมินประกอบการรักษาผู้ป่วยของตนเอง”

          ดร.นาเวช เค ชาร์มา ผู้นำการวิจัยประจำสหรัฐอเมริกาของ SIRFLOX ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์สาขารังสีรักษาและมะเร็งวิทยา และรังสีวินิจฉัย/ร่วมรักษา ประจำ University of Maryland Medical Center ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐในการทดลอง SIRFLOX กล่าวว่า “ด้วยจำนวนผู้ป่วยมากถึง 530 ราย SIRFLOX จึงเป็นการทดลองแบบสุ่มที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งผสานการใช้รังสีร่วมรักษาควบคู่กับการทำเคมีบำบัดในการรักษาโรคมะเร็ง”

          ดร.ชาร์มา กล่าวว่า “บรรดาแพทย์ได้ใช้วิธีการรักษาที่เรียกว่า SIRT ด้วย Y-90 resin microspheres ในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกมานานกว่า 10 ปีแล้ว เราเห็นว่าวิธีนี้เป็นแนวทางการรักษาที่แปลกใหม่ ด้วยการส่งรังสีปริมาณมากไปยังเนื้องอกในตับโดยไม่ทำร้ายเนื้อเยื่อดี อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ทางคลินิกที่พบในการทดลอง SIRFLOX มาพร้อมกับอาการไม่พึงประสงค์ในระดับที่สามารถรับได้ อันเกิดจากการเสริม Y-90 resin microspheres ควบคู่กับการทำเคมีบำบัดพื้นฐานในการรักษาโรค mCRC ตามปกติแล้วบรรดานักวิทยาเนื้องอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าแพทย์ด้านรังสีรักษาและมะเร็งวิทยา ต่างมีความระมัดระวังอย่างมากในการฉายรังสีปริมาณสูงไปยังตับ เนื่องด้วยอาการไม่พึงประสงค์จากการรักษานี้ แต่ผลการทดลอง SIRFLOX ได้แสดงให้เห็นอย่างเป็นธรรมว่า วิธีนี้สามารถฉายรังสีปริมาณมากไปยังตับได้อย่างปลอดภัย ทั้งยังสามารถใช้ควบคู่กับการทำเคมีบำบัดได้ด้วย ทั้งนี้ การทำเคมีบำบัดคู่กับการฉายรังสีนั้น ถือเป็นวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการรักษาโรคมะเร็งในภาพรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งที่ก่อตัวจากกระเพาะและลำไส้”

          เมื่อพิจารณาถึงศักยภาพทางคลินิกอันเกิดจากการผนวกรวมการทำเคมีบำบัดเข้ากับการฉายรังสีในการทดลอง SIRFLOX แล้ว ทาง ASCO ได้ตัดสินให้ผลการวิจัยของ SIRFLOX เป็นหนึ่งใน 71 บทคัดย่อที่ดีที่สุด (Best of ASCO) ในการประชุมครั้งนี้ จากบทคัดย่อทั้งหมดหลายพันรายการ โดยรายงานที่ติดอันดับ "Best of ASCO" อาจมีการนำไปพูดคุยต่อบนเวทีอื่นๆ ซึ่งเหล่าผู้นำด้านวิทยาเนื้องอกระดับประเทศจะร่วมกันจัดขึ้นในช่วงหลายเดือนจากนี้ เพื่อนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจต่อเหล่านักวิทยาเนื้องอกในประเทศของตนที่ไม่สามารถเดินทางไปร่วมการประชุม ASCO ที่ชิคาโกได้

          SIRFLOX เป็นการวิจัยแรกจากทั้งหมด 3 รายการ โดยมีเป้าหมายเพื่อประเมินผลลัพธ์ที่ได้จากการเสริม SIR-Spheres Y-90 resin microspheres ร่วมกับการทำเคมีบำบัดซึ่งเป็นขั้นตอนพื้นฐานในการรักษาโรค mCRC สำหรับการวิจัยอื่นๆประกอบด้วย FOXFIRE ซึ่งเป็นการทดลองทางคลินิกในสหราชอาณาจักรที่เสร็จสิ้นการรับสมัครผู้ป่วยเข้าร่วมการทดลองไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 และ FOXFIRE Global ซึ่งเป็นโครงการวิจัยระดับนานาชาติที่เสร็จสิ้นการรับผู้ป่วยร่วมการทดลองเมื่อเดือนมกราคม 2558 โดยผลที่ได้จากการวิจัยทั้งสาม ซึ่งมีจำนวนผู้ป่วยโรค mCRC รวมกันกว่า 1,100 ราย จะถูกรวบรวมเพื่อนำไปประเมินอัตราการอยู่รอดโดยรวมจากการเสริม SIR-Spheres Y-90 resin microspheres ร่วมกับการทำเคมีบำบัดที่เป็นขั้นตอนพื้นฐานในการรักษาโรค mCRC ทั้งนี้ คาดว่าจะรับทราบผลลัพธ์ทั้งหมดในปี 2560

          ผู้นำการวิจัยของ FOXFIRE ประกอบด้วย ศ.ริคกี้ ชาร์มา วิทยากรอาวุโสด้านคลินิกสาขาวิทยาเนื้องอกจากมหาวิทยาลัย University of Oxford สหราชอาณาจักร และดร.ฮาร์พรีต วาซาน จากโรงพยาบาล Hammersmith Hospital และ Imperial College Trust ในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร โดยศ.ชาร์มาเป็นผู้อภิปรายของ SIRFLOX ในการประชุมประจำปีของ ASCO ที่ชิคาโก ส่วนศ.ปีเตอร์ กิ๊บส์ เป็นผู้นำการวิจัยของ FOXFIRE Global

          เกี่ยวกับ SIR-Spheres Y-90 Resin Microspheres

          SIR-Spheres Y-90 resin microspheres เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ในขั้นตอนการทำรังสีร่วมรักษาที่เรียกว่าการนำรังสีเข้าสู่ร่างกายเฉพาะจุด (SIRT) หรืออีกชื่อหนึ่งคือการอุดเส้นเลือดด้วยสารกัมมันตรังสี อันเป็นการฉายรังสีปริมาณสูงโดยตรงต่อเนื้องอกในตับ โดยใช้อนุภาคเรซินเคลือบสารกัมมันตรังสี Y-90 หลายสิบล้านอนุภาค ซึ่งแต่ละอนุภาคมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กกว่าเส้นผมมนุษย์ โดยแพทย์ด้านรังสีร่วมรักษาจะฉีดอนุภาคเรซินเหล่านี้ หรือที่เรียกว่าไมโครสเฟียร์ เข้าไปในหลอดเลือดแดงเฮปาติกผ่านทางสายสวนที่ถูกสอดทางหลอดเลือดแดงโคนขาผ่านการกรีดบริเวณขาหนีบ หลังจากนั้น Y-90 resin microspheres ก็จะฝังตัวอยู่ในเส้นเลือดฝอยรอบๆเนื้องอกในตับ และแผ่รังสีเบตาระยะสั้นที่มีความเข้มสูง (เฉลี่ย 2.5 มม. สูงสุด 11 มม.) ไปยังเนื้องอกในตับ โดยไม่สร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อดีในตับ ขณะที่ค่าความถ่วงจำเพาะที่ต่ำของ Y-90 resin microspheres ส่งผลให้เลือดสามารถส่งกัมมันตภาพรังสีไหลเวียนได้อย่างทั่วถึงทั้งในและรอบๆเนื้อเยื่อในตับ

          SIR-Spheres Y-90 resin microspheres ผ่านการรับรอง Pre-Market Approval อย่างเต็มรูปแบบจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) สหภาพยุโรป (มาตรฐาน CE) และการรับรอง TGA Conformity Assessment จากออสเตรเลีย

          SIR-Spheres Y-90 resin microspheres ยังผ่านการรับรอง PMA จากองค์การอาหารและยาสหรัฐ สำหรับใช้รักษามะเร็งตับที่ลุกลามจากมะเร็งลำไส้ใหญ่และผ่าตัดเฉือนเนื้อร้ายไม่ได้ ร่วมกับการทำเคมีบำบัดหลอดเลือดในตับโดยใช้ floxuridine นอกจากนั้นยังมีการนำไปใช้ในอีกหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย สหภาพยุโรป (มาตรฐาน CE) อาร์เจนตินา (ANMAT) บราซิล และอีกหลายประเทศในเอเชีย เช่น อินเดีย และสิงคโปร์ เป็นต้น

          เกี่ยวกับ Sirtex

          Sirtex Medical Limited (ASX:SRX) เป็นธุรกิจเฮลธ์แคร์สัญชาติออสเตรเลียระดับแนวหน้าของโลกที่มุ่งยกระดับการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง ผลิตภัณฑ์เด่นของบริษัทคือ รังสีบำบัดเฉพาะจุดสำหรับมะเร็งตับอย่าง SIR-Spheres Y-90 resin microspheres โดยมีการส่งมอบไปแล้วราว 50,000 โดส เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งตับในศูนย์การแพทย์กว่า 800 แห่ง ในกว่า 40 ประเทศ

          สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถรับชมได้ที่ http://www.sirtex.com

          SIR-Spheres(R) เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Sirtex SIR-Spheres Pty Ltd

          อ้างอิง:

          Gibbs P et al. 2015 ASCO Annual Meeting; J Clin Oncol 2015; 33 (Suppl): Abs 3502.

          107-U-0515

          แหล่งข่าว: Sirtex Medical Limited


 


ข่าวผู้ป่วยโรคมะเร็ง+มะเร็งลำไส้ใหญ่วันนี้

โรงพยาบาลวัฒโนสถ Cancer Hospital ร่วมกับ BDMS Wellness Clinic ยกระดับการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง นำมาตรฐาน ICHOM ส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ Care Beyond Cure

โรงพยาบาลวัฒโนสถ Cancer Hospital ไม่หยุดนิ่งพัฒนาคุณภาพการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง Care Beyond Cure พร้อมดูแลผู้ป่วยมะเร็งแบบ Total Cancer Care มากกว่าการรักษา คือการใส่ใจทั้งกาย ใจ สังคม และพลังแห่งความหวัง ดูแลคุณภาพชีวิตผู้ป่วยและครอบครัวตั้งแต่วันแรกไปจนถึงหลังการรักษา เพื่อให้กลับไปใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพและสมดุลในทุกช่วงชีวิต โดยนำมาตรฐาน ICHOM (International Consortium for Health Outcomes Measurement) องค์กรที่มุ่งหวังให้ผลลัพธ์การดูแลรักษาของผู้ป่วยมีมาตรฐาน เน้นคุณภาพตั้งแต่

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จรรยา จันทร์ผ่อง ภา... มะเร็งปากมดลูก : โรคใกล้ตัวที่ผู้หญิงควรรู้ — ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จรรยา จันทร์ผ่อง ภาควิชาการพยาบาลสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิ...

รศ.นพ.ศิระ เลาหทัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญศัลยศ... ถ้าป่วยเป็นมะเร็งปอดผมจะรอดมั้ยครับ? — รศ.นพ.ศิระ เลาหทัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญศัลยศาสตร์ทรวงอกเฉพาะทางด้านการผ่าตัดส่องกล้องในช่องทรวงอก โรงพ...