"3 กลุ่มเสี่ยงที่พึงระวัง คือ มนุษย์ออฟฟิศ ที่ต้องทำงานหน้าจอ มนุษย์ก้มกด ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และมนุษย์ทั่วไป ที่ใช้หน้าจอในอิริยาบถที่ไม่เหมาะสม" นายแพทย์กฤษดา กล่าว
ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ กล่าวว่า เพื่อให้ทุกท่านที่กำลังอยู่ในภาวะขาดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกชนิดนี้ไม่ได้ ขอยก 10 ปัญหาพาป่วยของมนุษย์หน้าจอ เพื่อทราบถึงอันตรายที่จะมาถึงตัว ดังนี้
1.โรคก้มกด นำไปสู่อาการปวดคอเรื้อรัง มีอาการปวดบ่าไหล่ไปถึงหลังได้ ซึ่งเรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์กระดูกคอที่นิวยอร์กชี้ว่าโรคก้มกด (Text neck) นี้กำลังระบาด เป็นอาการของคนยุคใหม่ ในการก้มคอไปข้างหน้าแต่ละนิ้วแต่ละเซ็นติเมตรมีผลทั้งสิ้น ให้คิดง่าย ๆ ว่ายิ่งก้มกดนานก็ยิ่งทำร้ายกระดูกและกล้ามเนื้อที่ละเอียดอ่อนรอบคอ
2.กระดูกคอเสื่อม การศึกษาชี้ว่าการก้มดูหน้าจอ นานและบ่อย มีผลให้น้ำหนักกดกระดูกต้นคอทั้ง 7 ชิ้นจนเกิดภาวะเสื่อมก่อนวัยได้ แต่หากไม่นานมาก็ไม่ส่งผล แต่ถ้านานประมาณดูซีรีส์เกาหลีจบก็น่าห่วง เพราะชีวิตที่ต้องก้มกดนานทำให้คอต้องรับน้ำหนักพอๆกับมีเด็ก 8 ขวบ (30 กิโลกรัม)มาขี่คอตลอดเวลา
3.โรคเพลียตา อาการตาล้ารวมถึงตาแห้งอาจเกิดได้ มีสัญญานคือล้า ปวดรอบกระบอกตา เพลียตาคล้ายตาจะปิด มีอาการนานเข้าทำให้ปวดศีรษะได้ด้วย ขอให้ช่วยพักตาเป็นระยะด้วยการเบรกการใช้หน้าจอบ้าง รวมถึงการติดแผ่นกันแสงสะท้อน(Anti-glare) ถือเป็นการช่วยล้างพิษดิจิตอล(Digital detox)ไปในตัว
4.นอนไม่หลับ จากแสงหน้าจอโดยเฉพาะในแสงแถบสีฟ้าที่ท่านอาจมองไม่เห็นแต่มันเป็นแถบสีหนึ่งที่รวมอยู่ในแสงสว่างจากจอที่พุ่งเข้ากระทบตาท่านผ่านไปถึงสมองจึงไม่ควรใช้บ่อยผิดเวลาเกินไปโดยเฉพาะในเวลาที่ควรนอนหลับพักผ่อน มีการศึกษาเรื่องนี้ในระดับลึกจนพบว่าแสงสว่างมีผลกดการสร้างเคมีนิทราในสมองมีผลทำให้สุขภาพแย่ลง
5.ท้องผูก เป็นผลทางอ้อมจากความเครียด นั่งนาน ยืนนานจากการจดจ่ออยู่กับหน้าจอเป็นเวลานาน ภาวะนี้อาจเกิดได้กับมนุษย์หน้าจอที่ไม่ลุกขยับกายส่วนใดเลยนอกจากมือบนหน้าจอ ทำให้ลำไส้ไม่ขยับจนมีปัญหาเรื่องการขับถ่ายจนทำให้ท้องผูกได้ ในหลายคนเมื่อถ่ายลำบากบ่อยเข้าก็เรียกริดสีดวงมาเสริมด้วย
6.ปวดศีรษะ เกิดได้จากผลกระทบหลายจุดของหน้าจอเช่นจากแสงการเพ่งนานและความเครียดจากการเล่นเกมส์ แชทโต้ตอบหรืออ่านเฟสอย่างเอาจริงเอาจังซึ่งเรื่องนี้ตีพิมพ์ในวารสารชื่อดังอย่าง Journal of Vision มีการศึกษาหลายชิ้นพบว่าแสงสว่างจ้าและการกะพริบไม่นิ่งของแสงกระตุ้นปวดหัวให้หนักขึ้นรวมถึงไมเกรนได้
7.กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ท่านที่เอาแต่สนใจหน้าจอจนลืมสนใจอาการปวดตามธรรมชาติ เมื่อกระเพาะปัสสาวะส่งสัญญาณให้เข้าห้องน้ำ แต่กลับเลือกที่จะจดจ่ออยู่หน้าจอจนลืมทุกอย่าง เมื่อต้องอั้นบ่อยเข้าก็มีส่วนทำให้เกิดอาการปัสสาวะขัดจนถึงอักเสบได้เหมือนกัน
8.ปวดหลัง อาการปวดนี้เกิดได้ในท่านที่อยู่กับหน้าจอได้ทั้งแบบที่ก้มกดและนั่งหน้าจอ เพราะอาชีพที่ทำงานจำเป็นต้องอยู่ชิดใกล้กับหน้าจอวันละหลายชั่วโมง เรื่องนี้อยู่ที่ท่านั่งมีส่วนด้วย ดังนั้นการจัดอิริยาบถให้เหมาะสมจึงจำเป็นอย่างยิ่ง
9. อุบัติเหตุ มือถือและหน้าจอที่สะกดจิตให้เอาแต่ก้มดูจนลืมมองรอบตัว ส่วนที่หูก็มีที่ฟังเสียบอยู่จนไม่ได้ยินสรรพเสียงขณะข้ามถนนหรือขับรถ ปรากฏการณ์มีโลกส่วนตัวกับหน้าจอนี้อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุจนต้องไปอยู่โลกหน้าได้ และสุดท้ายที่น่าห่วงคือ ถึงแก่ชีวิต หรืออาจเปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล เรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากหน้าจอโดยตรงแต่ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ ไฮเทคหน้าจอทั้งหลายจะกลายเป็นมฤตยูคร่าชีวิตได้เมื่อผู้ใช้ไม่อยู่ในกาละเทศะที่เหมาะสม เป็นต้นว่าเดินตัดหน้ารถในขณะที่เสียบหูฟังจนไม่ได้ยินเสียงแตรเตือน หรือก้มลงดูแต่จอจนลืมมองถนนขณะอยู่หลังพวงมาลัย ทั้งหมดนี้เป็นภัยใกล้ตัวในขณะนี้ ติดจอได้แต่ก็ต้องรู้เท่าทันเพื่อชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี
วว. ผนึกกำลัง TCEL ยกระดับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางไทยสู่มาตรฐานสากล
MEDEZE ร่วมอภิปรายงานประชุมวิชาการนานาชาติ "สถานการณ์การพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (ATMPs) ในประเทศไทย"
วว. คว้ารางวัล Medal of Excellence จากเวที COSMETIC 360 ปี 2024 ณ ประเทศฝรั่งเศส
นาโนเทค-อย.-TCELS หนุนระบบรับรองวัตถุดิบและสารสกัดสมุนไพร ยกระดับอุตฯ ไทยสู่สากล
TCELS นำเสนอเทคโนโลยีโปรตอนลดความเหลื่อมล้ำ ต้อนรับรองนายกอนุทิน
TCELS เข้าร่วม NCRN conference 2023 พร้อมหนุนเสริมงานวิจัยคลินิกของประเทศ
TCELS พร้อมหนุน บีบีเอช ฮอสปิทอล แมเนจเม้นท์ เข้า mai ปี 2570
TCELS ร่วมออกบูธ อว. ต้อนรับนายอนุทิน ชาญวีรกูล
TCELS ผนึกกำลัง VNU พร้อมยกระดับ Bio Asia Pacific 2024