2559 ปีแห่งการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อการสื่อสารการตลาดแบบอะแด๊ปทีฟสอดคล้องมีเดียแลนด์สเคปและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เชื่อมโยงมากขึ้น
มายด์แชร์ เอเยนซี่เครือข่ายด้านการตลาดและการสื่อสาร เผยในวันนี้ถึงโอกาสในการสร้างแบรนด์ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว โดยความท้าทายของแบรนด์อยู่ที่การบริหารจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่อย่างมหาศาล (Big Data) ไปเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการสื่อสารการตลาด (Smart Data) และแบรนด์ต้องพัฒนาแคมเปญผ่านทุกช่องทาง เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคที่มีพฤติกรรมการบริโภคสื่อที่เชื่อมโยงมากขึ้น
ปัทมวรรณ สถาพร – กรรมการผู้จัดการ มายด์แชร์ กล่าวว่า "ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวเป็นโอกาสของแบรนด์ที่จะขับเคลื่อนธุรกิจไปในเชิงบวกด้วยการบริหารและจัดการกับข้อมูลที่มีมากมายมหาศาลให้เป็นประโยชน์ (Big Data to Smart Data) เพื่อนำมาวิเคราะห์และปรับกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค"
มายด์แชร์ยังได้ให้มุมมองต่อการตลาดสำหรับปี 2559 ดังต่อไปนี้
• ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาจะโตที่ประมาณ 3-6% ใกล้เคียงกับปี 2558
• แพลตฟอร์มที่มีบทบาทเด่นชัดในปีหน้ายังคงเป็นมือถือสมารท์โฟนและทีวี
• ดิจิตอลทีวีจะเป็นช่องปกติของครัวเรือน และจะมีการวัดผลที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
• มีเดียแลนด์สเคปมีความเชื่อมโยงและหลอมรวมกันมากขึ้น
• ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคบ่งชัดว่าเป็นยุคของมัลติสกรีน แบรนด์ต้องพัฒนาแคมเปญผ่านทุกช่องทางโดยที่ไม่ยึดติดกับโทรทัศน์เป็นช่องทางหลัก แต่ในขณะเดียวกันต้องไม่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกอึดอัด
• การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์แบบอะแด็ปทีพให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภค กลุ่มเป้าหมายเป็นสิ่งที่สำคัญ การใช้ข้อมูลที่ชาญฉลาดและเครื่องมือที่มีศักยภาพในการคาดการณ์เพื่อผลลัพธ์ทางการตลาดและเพิ่มสัดส่วนผลตอบแทนต่อการลงทุนให้สูงมากชึ้นกลายเป็นเป็นวัตถุประสงค์ที่สำคัญ
โดยเทรนด์ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนในปี 2559 มีดังนี้
• มีเดียเคลื่อนที่ทุกที่ด้วยมือถือสมาร์ทโฟน (Mobile)
• พฤติกรรมผู้บริโภคที่มีความเชื่องโยง (More Connected)
• การหลอมรวมของสื่อ (Media Convergence)
• การทำให้เป็นส่วนบุคคลมากขึ้น (Personalization)
• ข้อมูล การวิเคราะห์จากเดต้าและการปรับเปลี่ยนได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว (Smart Data for real time adaptive marketing)
เกี่ยวกับมายด์แชร์
มายด์แชร์เป็นเอเยนซี่เครือข่ายด้านการตลาดและการสื่อสารในประเทศไทยซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในเครือ WPP Network มีรายได้กว่า 8,000 ล้านบาท และมีการเจริญเติบโตถึง 15% ในปี 2550 บริษัทฯได้รับการจัดอันอับให้เป็นที่ 1 โดย RECMA ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี ติดต่อกัน และได้รับการยกย่องเป็น Media Magazine Agency ประจำปีเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกันซึ่งไม่มีบริษัทใดเคยได้รับ
สินค้าและบริการ: การให้บริการวางแผนและซื้อสื่อ บริการข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างครบวงจร, ให้บริการครบวงจรในการจัดกิจกรรมทางการตลาดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด และการสปอนเซอร์กิจกรรมการตลาด ร่วมถึงการสร้างเนื้อหาที่เป็นแบรนด์ ให้บริการครบวงจรด้านการทำการตลาดดิจิตอลและอินเตอร์เน็ต ให้บริการคำปรึกษาด้านการลงทุนในสื่อการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค
บุคลากร : Mindshare มีพนักงานรวม 120 คน และมีหน่วยงานสนับสนุนอีกจำนวน 65 คนจาก GroupM
เกี่ยวกับกรุ๊ปเอ็ม
กรุ๊ปเอ็ม เป็นเครือข่ายกลุ่มบริษัททางด้านการปฏิบัติการจัดการด้านการลงทุนด้านสื่อชั้นนำของโลก ซึ่ง กรุ๊ปเอ็ม ถือเป็นบริษัทแม่ของตัวแทนสื่อของกลุ่ม WPP รวมทั้ง แมกซัส (Maxus) มีเดียคอม (Mediacom) มีเดียเอจ : ซีไอเอ (Mediaedge : cia) และมายด์แชร์ (MindShare) โดยเป้าหมายหลักของ กรุ๊ปเอ็ม คือ การมุ่งเน้นให้ตัวแทนทางสื่อและการสื่อสารของกลุ่ม WPP มีการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ในฐานะที่เป็นตัวแทนของลูกค้า ผู้ถือหุ้น และพนักงานของกรุ๊ปเอ็ม และทางบริษัทมีการดำเนินงานโดยปฏิบัติการเสมือนเป็นผู้ดูแล และผู้จัดการร่วม ในการจัดกิจกรรมที่เป็นการเพิ่มพูนความสามารถในการปฏิบัติงาน เช่น กิจกรรมการแลกเปลี่ยนทางการค้า การสร้างข้อมูลข่าวสารเพื่อการสื่อสาร งานกีฬา เทคโนโลยี การเงิน การพัฒนาแบรนด์สินค้า และกิจกรรมที่มีความสำคัญทางด้านธุรกิจ ตัวแทนของกรุ๊ปเอ็มนั้นล้วนเป็นบุคลที่มีการปฏิบัติงานอยู่ในสายงานที่ได้รับการยอมรับ และอยู่ในตำแหน่งแนวหน้าของตลาดทั้งสิ้น
มายด์แชร์ เอเยนซี่เครือข่ายด้านการตลาดและการสื่อสาร เผยในวันนี้ถึงโอกาสในการสร้างแบรนด์ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว โดยความท้าทายของแบรนด์อยู่ที่การบริหารจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่อย่างมหาศาล (Big Data) ไปเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการสื่อสารการตลาด (Smart Data) และแบรนด์ต้องพัฒนาแคมเปญผ่านทุกช่องทาง เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคที่มีพฤติกรรมการบริโภคสื่อที่เชื่อมโยงมากขึ้น
ปัทมวรรณ สถาพร – กรรมการผู้จัดการ มายด์แชร์ กล่าวว่า "ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวเป็นโอกาสของแบรนด์ที่จะขับเคลื่อนธุรกิจไปในเชิงบวกด้วยการบริหารและจัดการกับข้อมูลที่มีมากมายมหาศาลให้เป็นประโยชน์ (Big Data to Smart Data) เพื่อนำมาวิเคราะห์และปรับกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค"
มายด์แชร์ยังได้ให้มุมมองต่อการตลาดสำหรับปี 2559 ดังต่อไปนี้
• ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาจะโตที่ประมาณ 3-6% ใกล้เคียงกับปี 2558
• แพลตฟอร์มที่มีบทบาทเด่นชัดในปีหน้ายังคงเป็นมือถือสมารท์โฟนและทีวี
• ดิจิตอลทีวีจะเป็นช่องปกติของครัวเรือน และจะมีการวัดผลที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
• มีเดียแลนด์สเคปมีความเชื่อมโยงและหลอมรวมกันมากขึ้น
• ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคบ่งชัดว่าเป็นยุคของมัลติสกรีน แบรนด์ต้องพัฒนาแคมเปญผ่านทุกช่องทางโดยที่ไม่ยึดติดกับโทรทัศน์เป็นช่องทางหลัก แต่ในขณะเดียวกันต้องไม่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกอึดอัด
• การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์แบบอะแด็ปทีพให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภค กลุ่มเป้าหมายเป็นสิ่งที่สำคัญ การใช้ข้อมูลที่ชาญฉลาดและเครื่องมือที่มีศักยภาพในการคาดการณ์เพื่อผลลัพธ์ทางการตลาดและเพิ่มสัดส่วนผลตอบแทนต่อการลงทุนให้สูงมากชึ้นกลายเป็นเป็นวัตถุประสงค์ที่สำคัญ
โดยเทรนด์ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนในปี 2559 มีดังนี้
• มีเดียเคลื่อนที่ทุกที่ด้วยมือถือสมาร์ทโฟน (Mobile)
• พฤติกรรมผู้บริโภคที่มีความเชื่องโยง (More Connected)
• การหลอมรวมของสื่อ (Media Convergence)
• การทำให้เป็นส่วนบุคคลมากขึ้น (Personalization)
• ข้อมูล การวิเคราะห์จากเดต้าและการปรับเปลี่ยนได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว (Smart Data for real time adaptive marketing)
เกี่ยวกับมายด์แชร์
มายด์แชร์เป็นเอเยนซี่เครือข่ายด้านการตลาดและการสื่อสารในประเทศไทยซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในเครือ WPP Network มีรายได้กว่า 8,000 ล้านบาท และมีการเจริญเติบโตถึง 15% ในปี 2550 บริษัทฯได้รับการจัดอันอับให้เป็นที่ 1 โดย RECMA ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี ติดต่อกัน และได้รับการยกย่องเป็น Media Magazine Agency ประจำปีเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกันซึ่งไม่มีบริษัทใดเคยได้รับ
สินค้าและบริการ: การให้บริการวางแผนและซื้อสื่อ บริการข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างครบวงจร, ให้บริการครบวงจรในการจัดกิจกรรมทางการตลาดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด และการสปอนเซอร์กิจกรรมการตลาด ร่วมถึงการสร้างเนื้อหาที่เป็นแบรนด์ ให้บริการครบวงจรด้านการทำการตลาดดิจิตอลและอินเตอร์เน็ต ให้บริการคำปรึกษาด้านการลงทุนในสื่อการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค
บุคลากร : Mindshare มีพนักงานรวม 120 คน และมีหน่วยงานสนับสนุนอีกจำนวน 65 คนจาก GroupM
เกี่ยวกับกรุ๊ปเอ็ม
กรุ๊ปเอ็ม เป็นเครือข่ายกลุ่มบริษัททางด้านการปฏิบัติการจัดการด้านการลงทุนด้านสื่อชั้นนำของโลก ซึ่ง กรุ๊ปเอ็ม ถือเป็นบริษัทแม่ของตัวแทนสื่อของกลุ่ม WPP รวมทั้ง แมกซัส (Maxus) มีเดียคอม (Mediacom) มีเดียเอจ : ซีไอเอ (Mediaedge : cia) และมายด์แชร์ (MindShare) โดยเป้าหมายหลักของ กรุ๊ปเอ็ม คือ การมุ่งเน้นให้ตัวแทนทางสื่อและการสื่อสารของกลุ่ม WPP มีการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ในฐานะที่เป็นตัวแทนของลูกค้า ผู้ถือหุ้น และพนักงานของกรุ๊ปเอ็ม และทางบริษัทมีการดำเนินงานโดยปฏิบัติการเสมือนเป็นผู้ดูแล และผู้จัดการร่วม ในการจัดกิจกรรมที่เป็นการเพิ่มพูนความสามารถในการปฏิบัติงาน เช่น กิจกรรมการแลกเปลี่ยนทางการค้า การสร้างข้อมูลข่าวสารเพื่อการสื่อสาร งานกีฬา เทคโนโลยี การเงิน การพัฒนาแบรนด์สินค้า และกิจกรรมที่มีความสำคัญทางด้านธุรกิจ ตัวแทนของกรุ๊ปเอ็มนั้นล้วนเป็นบุคลที่มีการปฏิบัติงานอยู่ในสายงานที่ได้รับการยอมรับ และอยู่ในตำแหน่งแนวหน้าของตลาดทั้งสิ้น
"MOSHI" โตสวนกระแสเศรษฐกิจ โชว์ผลงาน Q3/68 กวาดรายได้ 845 ล้านบาท ดัน SSSG แกร่ง กำไรทะยาน 27% ย้ำชัดโตตามเป้า 15-20% เดินหน้าขยายสาขา-พัฒนาสินค้าใหม่
SABINA เผยผลงานไตรมาส 3 ปี 2568 กำไรสุทธิ 96.9 ล้านบาท รายได้ช่องทางรับจ้างผลิต (OEM) โต 37% มั่นใจโค้งสุดท้ายกำลังซื้อกระเตื้อง
ท็อปส์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล พลิกเกมค้าปลีก ส่งแคมเปญ "TOPS KNOCK PRICE" รับยุคเศรษฐกิจคุ้มค่าด้วย "สินค้าราคาที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องเช็ค"
ผู้นำภาคธุรกิจชี้ การขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความยั่งยืนช่วยฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจไทย จ่ออัดงบลงทุนกว่าแสนล้าน ปรับโครงสร้างการผลิต สู่ 'Net Zero' ปี 2593 กรุยทางเกมรุกในโลกธุรกิจยุคใหม่ "มิตรภาพ และความยั่งยืน"
รพ. พญาไท พหลโยธิน เปิดตัวทิศทางการดูแลสุขภาพ 'Value Personalized Care' ราคาเข้าถึงได้ บริการเข้าใจคุณ
บลจ.ทิสโก้ปลื้มกองทุน TGSMART สุดฮอต ลูกค้าสนใจลงทุนฝ่าความผันผวน ประกาศเพิ่มทุนเป็น 2,000 ล้านบาท
SKIN โตแกร่ง แม้เศรษฐกิจชะลอตัว รับกระแส T-Beauty
L&E ส่งสัญญาณครึ่งปีหลังสตรอง! ทยอยรับรู้รายได้งานในมือ 1,200 ลบ. เผยภาพรวมครึ่งปีแรกได้รับผลกระทบเศรษฐกิจชะลอตัวและปัจจัยลบรอบด้าน
'UBE' ประกาศแผนครึ่งปีหลัง 68 ปรับกลยุทธ์รับแรงกดดันฝ่าความท้าทายทุกมิติ มุ่งขยายพอร์ตฯ ธุรกิจใหม่ ส่งมอบนวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่ม ชูการเพิ่มประสิทธิภาพ หลังดีมานด์เอทานอลลด ทำผลงานไตรมาส 2/2568 รายได้ 1,311.1 ล้านบาท