"พี่น้องชาวสวนยางควรการทำแนวกันไฟในสวนยางเพื่อป้องกันไฟลุกลามจากบริเวณใกล้เคียง โดยการขุดถากวัชพืชและเก็บซากพืชบริเวณรอบๆ สวนยาง ออกเป็นแนวกว้างประมาณ 3 - 5 เมตร และควรกำจัดวัชพืชบริเวณแถวยางออกข้างละ 1 เมตร แล้วนำเศษวัชพืชมาคลุมโคนต้นยาง และหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชในหน้าแล้ง เพราะวัชพืชที่แห้งตายอาจเป็นเชื้อเพลิงทำให้เกิดไฟไหม้สวนยางได้"
นอกจากนี้ แสงแดดในช่วงที่มีอากาศร้อนอาจทำให้ต้นยางพารามีรอยไหม้ เกษตรกรสามารถแก้ไขได้โดยใช้ปูนขาวละลายน้ำทาบริเวณโคนต้นสูงจากพื้นดินประมาณ ๑ เมตร รวมถึงการปลูกพืชแซมในสวนยางที่ให้ความชุ่มชื้นกับดิน อาทิ กล้วย และสับปะรด ก็สามารถช่วยสร้างรายได้เสริมให้กับพี่น้องชาวสวนยางระหว่างช่วงปิดกรีดอีกทางหนึ่ง พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง สามารถขอคำปรึกษาการดูแลสวนยาง และข้อมูลที่สนใจเพิ่มเติมได้ที่ การยางแห่งประเทศไทยในทุกพื้นที่ใกล้บ้าน นายเชาว์กล่าวทิ้งท้าย
กยท. MOU ร่วม บ.ไทยอีสเทิร์น สร้างสมดุลระบบยาง หนุนตลาดรองรับผลผลิตที่เป็นธรรม
กยท. เยือนท่าเรือชิงเต่า ศึกษาระบบบริหารจัดการฯ มุ่งสนับสนุนสถาบันเกษตรกรฯ ผ่านการปั้น "แบรนด์ RAOT" สู่ตลาดโลก
พร้อมแล้ว! ทุนปลูกแทนปีงบฯ 69 กยท. เปิดรับคำขอฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. - 31 มี.ค. 69 สนับสนุนเกษตรกรเพื่อการปลูกแทนสู่ความยั่งยืน
กยท. จัดสรรงบ 2,800 ลบ. หนุนชาวสวนยางที่ยื่นขอโค่นยางฯ ด้วยทุนตนเองไว้แล้ว ตั้งเป้าอนุมัติสวนครบ - พร้อมจ่ายเงิน ภายใน 15 ก.ย. นี้
STA สนับสนุน "ทำยางไทยอย่างยั่งยืน" ส่งต่อองค์ความรู้แก่เกษตรกร สหกรณ์ และผู้ค้ายาง ในงานปิดกรีดยาง ประจำปี 68 จ.พิษณุโลก
กยท. หนุนงบ 16 ลบ. ดันอาชีพเสริมชาวสวนยาง สอดรับนโยบายรัฐบาล สร้างรายได้ระยะยาวแก่เกษตรกร
NER ลงนาม MOU กยท. ยกระดับการพัฒนาการซื้อขายยางพารา
กลุ่มบริษัท TEGH จับมือ Apollo และ การยางแห่งประเทศไทย จ.ฉะเชิงเทรา จัดประชุม การจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน (FSC) ประจำปี 2565
กลุ่มบริษัทอินโนเวชั่นนำกลุ่มเกษตรสวนยางเยี่ยมชม IRPC และสวนตัวอย่าง