ผลสำรวจแกรนท์ ธอนตันเผย จำนวนผู้บริหารหญิงในไทยยังคงติด 1 ใน 10 ของโลก

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          รายงานผลการสำรวจธุรกิจนานาชาติของแกรนท์ ธอนตัน (International Business Report: IBR) ประจำปี 2559 เนื่องในวันสตรีสากลโลก เผยให้เห็นบทบาทผู้หญิงในฐานะผู้บริหารของบริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังคงมีความคืบหน้าที่ค่อนข้างช้า โดยในปีนี้สัดส่วนของผู้บริหารระดับสูงที่เป็นผู้หญิงทั่วโลกอยู่ที่ร้อยละ 24 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากร้อยละ 22 ในปีที่ผ่านมา
          อันดับ 1 ของผลสำรวจยังคงเป็นของประเทศรัสเซีย (ร้อยละ 45) ขณะที่ประเทศญี่ปุ่นยังคงมีสัดส่วนผู้บริหารหญิงต่ำที่สุดในโลก (ร้อยละ 7) ทางด้านภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้นอยู่ที่ร้อยละ 23 โดยกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วในเอเชียแปซิฟิกมีตัวเลขเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 57 จากร้อยละ 53 ในปี 2558 ตรงข้ามกับกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในภูมิภาคที่ลดลงจากร้อยละ 29 ในปีก่อนเหลือเพียงร้อยละ 20 ในปีนี้ โดยประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีสัดส่วนผู้บริหารระดับสูงเป็นผู้หญิงอันดับหนึ่งได้แก่ประเทศฟิลิปปินส์ (ร้อยละ 39) รองลงมาคือประเทศไทย (ร้อยละ 37) และอินโดนีเซีย (ร้อยละ 36) ตามลำดับ
          สุมาลี โชคดีอนันต์ หุ้นส่วนสายงานตรวจสอบบัญชีของแกรนท์ ธอนตันในประเทศไทยกล่าวว่า "ผลสำรวจของประเทศไทย ได้สะท้อนถึงบทบาทในการสนับสนุนผู้หญิงสู่การป็นผู้บริหารระดับสูงของเรา ยังคงติดอันดับต้นๆ หรือ 1 ใน 10 ของผลสำรวจฯ ระดับโลกมาอย่างต่อเนื่องทุกปี ทั้งนี้เนื่องจากวัฒนธรรมและภาพลักษณ์ต่อผู้หญิงที่เปลี่ยนไป ตลอดจนการสนับสนุนทางด้านการศึกษาและการสร้างแรงกระตุ้นเพื่อผลักดันบทบาทของผู้หญิงในโลกธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง"
          นอกจากนี้ เมื่อเราถามผู้บริหารระดับสูงทั่วโลกถึงลักษณะที่สำคัญของผู้นำที่ดีนั้น พบว่ากว่าร้อยละ 35 หรือมากกว่า 1 ใน 3 มองว่าทักษะด้านการสื่อสารนั้นสำคัญที่สุด อย่างไรก็ตามในประเทศไทยเอง ผู้บริหารหญิงกลับมองว่าความรักในงาน (Passion) เป็นสิ่งสำคัญที่สุดถึงร้อยละ 64 ซึ่งตรงข้ามกับผู้บริหารชายที่กว่าร้อยละ 63 มองว่าความซื่อสัตย์และคุณธรรม(Integrity)เป็นคุณลักษณะที่สำคัญที่สุด
สุมาลี กล่าวต่อว่า "แม้ผู้บริหารทั้งชายและหญิงของไทยจะมีมุมมองที่ต่างกัน แต่ก็ถือเป็นการกระตุ้นให้ทีมบริหารมีมุมมองที่หลากหลายและครอบคลุมขึ้น ตั้งแต่อดีตเรามักพบว่า ธุรกิจแบบครอบครัวจะมีความคาดหวังที่แตกต่างกันสำหรับผู้สืบทอดชายและหญิงที่จะมาดูแลกิจการต่อ ผลสำรวจนี้ได้แสดงให้เห็นว่า แม้เรื่องดังกล่าวยังคงสามารถพบเห็นได้ในประเทศไทยปัจจุบัน แต่ความหลากหลายและแตกต่างนี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งแก่ธุรกิจในที่สุด"
          ผลสำรวจ IBR ยังแสดงให้เห็นว่ามีเพียงร้อยละ 31 หรือ 1 ใน 3 ขององค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังไม่มีผู้หญิงอยู่ในทีมบริหารเลย ซึ่งในประเทศไทยนั้น ตัวเลขดังกล่าวมีจำนวนเพียงร้อยละ 21 ในขณะที่กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วในเอเชียแปซิฟิกกลับมีตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 53 ในปี 2558 เป็นร้อยละ 57 ในปีนี้ โดยญี่ปุ่นยังคงมีตัวเลขดังกล่าวเป็นอันดับ 1 ของโลกโดยสูงถึงร้อยละ 73 ขณะที่ผลสำรวจเดียวกันในประเทศรัสเซียเป็นศูนย์
          สุมาลี กล่าวเสริมว่า "ผลสำรวจ IBR ของเราปีที่ผ่านมานั้น ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าองค์กรที่มีคณะกรรมการบริหารซึ่งผสมผสานทั้งเพศชายและหญิง จะช่วยทำให้มีผลการดำเนินการทางด้านการเงิน (Financial performance)ดีกว่าองค์รที่มีคณะกรรมการเป็นเพียงเพศชายเท่านั้น นอกจากนี้งานวิจัยจากวิทยาลัยการจัดการเคลล็อก (Kellogg School of Management) และนิตยสาร Scientific American ยังยืนยันถึงประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นขององค์กรอันเนื่องจากความหลากหลายในการตัดสินใจที่มีมากขึ้น ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่หลายองค์กรทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกต่างพยายามที่จะส่งเสริมเรื่องนี้"
          "หลายองค์กรในประเทศที่พัฒนาแล้วได้เคยพูดคุยถกเถียง เกี่ยวกับประเด็นเรื่องความหลากหลายในทีมผู้บริหารมาเป็นเวลานานแล้ว เราเห็นผลลัพท์แล้วว่าองค์กรที่มีทีมบริหารทั้งชายและหญิง จะมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าและสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของโลกซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มันคงถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องลงมือทำอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่เพียงแค่คำพูดเท่านั้น แม้ว่าปัญหานี้อาจจะไม่มีวิธีการตายตัวในการรับมือหรือแก้ไข แต่จากที่รายงานของเราได้ระบุไว้ เพื่อให้สิ่งนี้เกิดความคืบหน้า เราจะต้องร่วมมือกันทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรและผู้หญิงเราเองด้วย" สุมาลี กล่าวสรุป





ผลสำรวจแกรนท์ ธอนตันเผย จำนวนผู้บริหารหญิงในไทยยังคงติด 1 ใน 10 ของโลก ผลสำรวจแกรนท์ ธอนตันเผย จำนวนผู้บริหารหญิงในไทยยังคงติด 1 ใน 10 ของโลก

ข่าวประเทศญี่ปุ่น+เอเชียแปซิฟิกวันนี้

บอกต่อแป้งพัฟหลักร้อยจากญี่ปุ่น คุมมัน ปกปิดเริด เอาอยู่ทุกสภาพผิว

ใกล้จะปีใหม่แล้ว สาว ๆ ที่กำลังมองหาไอเทมความงามใหม่ ๆ ให้ตัวเอง SUNGRACE (ซันเกรส) แบรนด์เครื่องสำอางจากประเทศญี่ปุ่น ในเครือ โอซีซี กรุ๊ป ขอแนะนำ แป้งพัฟผสมรองพื้นรุ่นขายดี SUNGRACE WHITE UV PACT N ด้วยอนุภาคแป้งขนาดเล็กเนื้อเนียนละเอียด มอบสัมผัสบางเบาสบายผิว ช่วยอำพรางรูขุมขน ความหมองคล้ำและจุดด่างดำ ให้ผลลัพธ์ผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอ แลดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ผสานพลังของส่วนผสม Silky Fitting Powder ที่มีประสิทธิภาพคุมมัน กันน้ำและเหงื่อได้เป็นอย่างดี ช่วยให้แป้งติดทนนาน หน้า

คริสปี้ ครีม ประเทศไทย (Krispy Kreme) ชวน... คริสปี้ ครีม เสิร์ฟเมนูมัทฉะยอดนิยม เติมความสดชื่นรับเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ — คริสปี้ ครีม ประเทศไทย (Krispy Kreme) ชวนทุกคนส่งท้ายปีเก่าและเริ...

'มาสด้า' เข้าพบรองนายกฯ เอกนิติ ตอบรับมาต... มาสด้าประกาศลงทุน MHEV 5 พันล้าน ชูไทยฐานส่งออก ขานรับบอร์ดอีวีออกมาตรการสนับสนุน — 'มาสด้า' เข้าพบรองนายกฯ เอกนิติ ตอบรับมาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าของบอ...

สายการบินแอร์เอเชีย เริ่มให้บริการเที่ยวบ... แอร์เอเชีย เริ่มบิน 5 เส้นทางบินใหม่ รับธันวาคม..ช่วงเดินทางท่องเที่ยวที่ดีที่สุด! — สายการบินแอร์เอเชีย เริ่มให้บริการเที่ยวบินปฐมฤกษ์ 5 เส้นทางบินใหม่ ต...