ป้องกันตนเองจากภัยร้ายไวรัสซิก้า

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา รองโฆษกกทม. เปิดเผยหลังที่ประชุมสำนักอนามัยว่า ขณะนี้ในกรุงเทพฯ พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสซิกาแล้วจำนวน 8 ราย วินาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักไวรัสซิกาที่กำลังโด่งดังไปทั่วโลก เนื่องจากมีอัตราการแพร่ระบาดที่น่าเป็นห่วง ไม่ว่าจะเป็นโซนลาตินอเมริกา แอฟริกา หรือแม้แต่เอเซียตะวันออกเฉียงใต้บ้านเรา ถึงขนาดองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้การระบาดของไวรัสซิกา เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ซึ่งอย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าไวรัสซิกาเป็นเชื้อไวรัสที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค ดังนั้นการติดต่อจึงมาจากการถูกยุงที่มีเชื้อไวรัสกัด นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ รวมทั้งติดต่อผ่านทางเลือด หรือแพร่จากมารดาที่ป่วยสู่ทารกในครรภ์อีกด้วย จึงทำให้สตรีมีครรภ์เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะทารกในครรภ์สามารถติดเชื้อไวรัสได้ทุกอายุครรภ์ ถึงแม้เด็กที่คลอดออกมาหัวจะไม่ลีบทันที แต่ก็มีโอกาสที่จะแสดงอาการหลังจากนั้นอีกหลายปี แต่ในผู้ใหญ่จะทำให้เกิดอาการทางสมองหรือประสาท ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาหรือวัคซีนป้องกันโรคไวรัสซิกา แต่แพทย์จะรักษาตามอาการ เบื้องต้นผู้ป่วยควรดื่มน้ำมากๆและพักผ่อนให้เพียงพอ หากมีไข้หรือปวดศรีษะควรทานยาลดไข้ในกลุ่มพาราเซตามอล ไม่ควรรับประทานยาแอสไพรินหรือยากลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เพราะจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อเลือดออกในอวัยวะภายใน และหากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบไปพบแพทย์ ส่วนการป้องกันโรคคงจะไม่มีวิธีไหนดีไปกว่าการหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกยุงลายกัด ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ให้สิ้นซากเพื่อเป็นการกำจัดต้นเหตุของการเกิดโรค ส่วนการกำจัดยุงตัวเต็มวัยนั้นอาจต้องพึ่งสารเคมีและผู้เชี่ยวชาญในการใช้ ซึ่งในปัจจุบันเคมีกำจัดยุงที่ได้มาตรฐานจะไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง เนื่องจากการกำจัดยุงลายจำเป็นต้องใช้วิธีบูรณาการ (IPM - Integrated Pest Management) เพื่อให้การกำจัดยุงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
          ด้วยความปรารถนาดีจาก คิงส์ เซอร์วิส เซ็นเตอร์
ป้องกันตนเองจากภัยร้ายไวรัสซิก้า
 


ข่าวองค์การอนามัยโลก+องค์การอนามัยโลวันนี้

ผู้เชี่ยวชาญย้ำ! ไทยเข้าใกล้เป้ายุติเอดส์ 95-95-95 ชี้ต้องเร่ง "ป้องกันเชิงรุก" ลดผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างยั่งยืน

องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดวันที่ 1 ธันวาคมของทุกปีเป็น "วันเอดส์โลก" โดยแนวคิด ปี 2568 คือ "Overcoming disruption, transforming the AIDS response: ก้าวข้ามวิกฤต พลิกโฉมงานเอดส์" เพื่อกระตุ้นให้ทุกประเทศเร่งลดผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างยั่งยืน สมาคมโรคเอดส์แห่งประเทศไทยจึงเน้นย้ำแนวทาง "ตรวจให้รู้ ป้องกันให้ทัน รักษาให้ถึง" พร้อมเสริมความเข้าใจเรื่องการป้องกันเชิงรุกด้วย "ตรวจเอชไอวี-ใช้ถุงยาง-เพร็พ-เพ็พ" เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายระดับโลก "95-95-95" ในการยุติเอดส์ภายในปี 2573 ผศ.พญ.จุรีรัตน์

วันเบาหวานโลก 2568: มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ เชิญชวนให้คนไทยตระหนักรู้ ตรวจคัดกรอง และป้องกันโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้

องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่ามีผู้ป่วยโรคเบาหวานทั่วโลกประมาณ 630 ล้านคน โดยส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในประเทศรายได้ต่ำและปานกลาง ผู้ป่วยจำนวนมากไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคเบาหวานจนกระทั่งเกิดภาวะ...

ปัจจุบันปัญหาการบริโภคโซเดียมเกินความจำเป... ผงปรุงรสจากพืชพื้นบ้าน: นวัตกรรมทางเลือกเพื่อสุขภาพและความยั่งยืนของชุมชน — ปัจจุบันปัญหาการบริโภคโซเดียมเกินความจำเป็นเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ส่งผ...

การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ห่วงใยประชาชนพ... กปภ. ตรวจเข้มคุมคุณภาพน้ำ 24 ชั่วโมงย้ำ ! น้ำประปาเชียงรายสะอาด ปลอดภัย มั่นใจได้ — การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ห่วงใยประชาชนพื้นที่จังหวัดเชียงราย กำชับ ก...