สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ระบุ ภัยแล้งกระทบพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังบางส่วนได้รับความเสียหาย หัวมันสำปะหลังมีขนาดเล็ก เชื้อแป้งลดลง โดยราคาที่เกษตรกรขายได้ในเดือนพฤษภาคม อยู่ที่กิโลกรัมละ 1.87 บาท ด้านภาครัฐเร่งเดินหน้าโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลังในระบบน้ำหยด ปี 2558/59 เพื่อสนับสนุนเงินทุน ช่วยเหลือเกษตรกรในการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตแล้ว
นางจันทร์ธิดา มีเดช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การผลิตและการตลาดมันสำปะหลังในแหล่งเพาะปลูกมันสำปะหลังที่สำคัญของภาคกลางและภาคเหนือ ว่า มันสำปะหลังได้ออกสู่ตลาดมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 ถึง พฤษภาคม 2559 ซึ่งจากการลงพื้นที่สำรวจ พบว่า ปีนี้หัวมันสำปะหลังส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก เชื้อแป้งลดลงประมาณ 1- 3% รวมทั้งผลผลิตต่อไร่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากภาวะภัยแล้ง โดยเกษตรกรบางส่วนขุดมันสำปะหลังไม่ครบอายุ ประกอบกับใช้พันธุ์มันสำปะหลังไม่เหมาะสมกับพื้นที่ หรือใช้พันธุ์ที่ไม่ได้รับการรับรองจากทางราชการ และใช้พันธุ์ตามเพื่อนบ้าน เช่น พันธุ์น้องแบม ที่ให้น้ำหนักดีแต่มีเชื้อแป้งต่ำ เพราะมีการโฆษณาชวนเชื่อเกินจริงของผู้จำหน่ายพันธุ์มันสำปะหลัง ทำให้เมื่อกระทบแล้ง มันสำปะหลังพันธุ์นี้จึงให้เชื้อแป้งลดต่ำลงมาก
สำหรับการเพาะปลูกในฤดูกาลใหม่ พบว่า มันสำปะหลังที่ปลูกในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2558 ประสบภาวะภัยแล้ง ส่งผลให้พื้นที่ปลูกมันสำปะหลังบางส่วนได้รับความเสียหาย เกษตรกรต้องปลูกซ่อมหรือบางรายต้องปลูกใหม่ ส่วนเกษตรกรที่เตรียมต้นพันธุ์เพื่อปลูกในช่วงเดือนมกราคม - มีนาคม 2559 บางพื้นที่ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ไม่สามารถปลูกมันสำปะหลังได้ จึงส่งผลให้พันธุ์มันสำปะหลังที่เตรียมไว้ตาย เกิดปัญหาขาดแคลนต้นพันธุ์
ด้านการตลาด พบว่า ราคามันสำปะหลังที่เกษตรกรขายได้ยังคงอ่อนตัวลง จากราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 2.09 บาท ในเดือนตุลาคม 2558 เหลือกิโลกรัมละ 1.87 บาท ในเดือนพฤษภาคม 2559 เนื่องจากจีนชะลอการสั่งซื้อมันเส้น ประกอบกับเชื้อแป้งมันสำปะหลังต่ำ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้มีโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลังในระบบน้ำหยด ปี 2558/59 เพื่อสนับสนุนเงินทุนในการพัฒนาการปลูกมันสำปะหลังในระบบน้ำหยดให้แก่เกษตรกร และช่วยเหลือเกษตรกรในการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต โดยให้เกษตรกรกู้เงินจาก ธ.ก.ส. วงเงินกู้รายละไม่เกิน 230,000 บาท อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 7 ต่อปี ซึ่งรัฐชดเชยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ FDR+1 ต่อปี ระยะเวลา 24 เดือน เกษตรกรสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการกับ ธ.ก.ส. ใกล้บ้าน ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 30 กันยายน 2559
เลขาธิการ สศก. เตรียมนำทีม ลุย Crop Cutting ภาคสนามเพชรบูรณ์ 27 ตุลาคมนี้ ลงพื้นที่แปลงข้าวโพดเกษตรกร ยกระดับข้อมูลแม่นยำพืชเศรษฐกิจของประเทศ
สศท.12 ชวนศึกษาวิถี เกษตรอินทรีย์ 'บ้านสวนน้อยชมจันทร์' จ.เพชรบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบยั่งยืน
โครงการปรับปรุงคลองส่งน้ำ ท่ามะกา ระยะ 5 ช่วยเกษตรกร 40 ครัวเรือน ผลผลิตและรายได้เพิ่ม
สศก. ลงพื้นที่สมุทรสาคร หนุนเกษตรกรเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม GAP ชี้ได้เปรียบทั้งคุณภาพและความปลอดภัย
สศก. จัดสัมมนาระดมความเห็น ดึงแพลตฟอร์ม "AgriDataProv" ขับเคลื่อนการเกษตรด้วย Big Data สู่จังหวัดยุคดิจิทัล
สศก. ติดตามความก้าวหน้าโครงการจัดการความเสื่อมโทรมของที่ดิน ด้วยแนวคิด LDN มุ่งสู่การใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน
สศท.6 ชวนเช็คอิน 'สวนผลอำไพ' จ.ตราด แหล่งเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ สร้างมูลค่าเพิ่มเชื่อมโยงการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
โครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรชีวภาพ หนุนเกษตรกรสร้างรายได้จากสมุนไพร-แมลงเศรษฐกิจ
สศท.6 ชี้ผลสำเร็จโครงการนำร่องการแก้ไขปัญหาลดผลกระทบจากช้างป่า พื้นที่บ้านหนองกระทิง จ.ฉะเชิงเทรา ช่วยเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ลดรายจ่ายครัวเรือน