นางจันทร์ธิดา มีเดช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดสัมมนาการจัดทำยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ พ.ศ. 2560-2564 ครั้งที่ 2โรงแรมรามาการ์เด้น กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2559 ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้ร่วมกับศูนย์วิจัยเศรษฐศาสตร์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อร่วมกันวิเคราะห์ และสังเคราะห์ในการจัดทำร่างแผนยุทธศาสตร์ฯ หลังที่ได้ร่วมกันพิจารณาให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา
ปัจจุบัน ความแปรปรวนด้านดินฟ้าอากาศมีแนวโน้มที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งรายงานจากธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียระบุว่า ภาคการเกษตรเป็นภาคที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศรุนแรงที่สุด และแม้ว่าที่ผ่านมาทั่วโลกจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรอย่างต่อเนื่อง แต่การทำการเกษตรส่วนใหญ่ซึ่งต้องพึ่งพาสภาวะแวดล้อมทางธรรมชาติเป็นหลัก ยังคงเกิดความสูญเสียในแต่ละปีที่คิดเป็นมูลค่ามหาศาล
นอกจากนี้ รายงานของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ.2557 ระบุว่า หากภาคเกษตรไม่มีการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศแล้ว ภายในปี 2593 หรือประมาณอีก 30 ปีข้างหน้า ผลผลิตเกษตรที่สำคัญ เช่น ข้าวสาลี ข้าว และข้าวโพด ในพื้นที่เขตร้อนและอบอุ่นจะมีปริมาณผลผลิตลดลงร้อยละ 25 และส่งผลต่อความมั่งคงอาหารของโลกในอนาคต ซึ่งกระทบต่อประเทศไทยที่มีพื้นที่อยู่ในเขตร้อน เป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้าอาหารย่อมจะได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จะเห็นได้ว่า การพัฒนาการเกษตรของไทยให้มีความยั่งยืนภายใต้สภาวะการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ นับเป็นเรื่องที่มีความท้าทายอย่างมาก การจัดทำยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศด้านการเกษตร พ.ศ. 2560-2564 จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยให้ภาคเกษตรสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม บนพื้นฐานทรัพยากรและสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เหมาะสมของแต่ละพื้นที่
ดังนั้น สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศด้านการเกษตร และคณะทำงานการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศด้านการจัดทำยุทธศาสตร์ วิชาการ และฐานข้อมูล เชื่อมั่นว่า ยุทธศาสตร์ฯ ฉบับที่ 2 จากการระดมความคิดเห็นของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จะสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนภาคการเกษตรไปสู่ความยั่งยืนภายใต้บริบทการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
เลขาธิการ สศก. เตรียมนำทีม ลุย Crop Cutting ภาคสนามเพชรบูรณ์ 27 ตุลาคมนี้ ลงพื้นที่แปลงข้าวโพดเกษตรกร ยกระดับข้อมูลแม่นยำพืชเศรษฐกิจของประเทศ
ของดีเมืองสงขลา 'ส้มโอหอมควนลัง' GI เกษตรกรรวมกลุ่มผลิตส้มโอคุณภาพ ออกตลาด ต.ค. - พ.ย. นี้
'แปลงใหญ่ทั่วไป (ข้าว)' จ.สุพรรณบุรี ผลิตข้าว GAP คุณภาพ แหล่งให้บริการเครื่องจักรกลการเกษตรในพื้นที่ สร้างรายได้ให้กลุ่ม 810,000 บาท/ปี
สศท.12 ชวนศึกษาวิถี เกษตรอินทรีย์ 'บ้านสวนน้อยชมจันทร์' จ.เพชรบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบยั่งยืน
สศท.5 หนุน 'ผำ' อาหารแห่งอนาคต สู่โปรตีนทางเลือกยุคใหม่ ตามนโยบายเกษตรมูลค่าสูง
โครงการปรับปรุงคลองส่งน้ำ ท่ามะกา ระยะ 5 ช่วยเกษตรกร 40 ครัวเรือน ผลผลิตและรายได้เพิ่ม
ปีนี้ ไม้ผลภาคใต้ 4 ชนิด ผลผลิตรวม 6.7 แสนตัน สศท.8 ชวนบริโภค 'ลองกอง' ในฤดู ก.ย. - ต.ค. นี้ ออกตลาด ร้อยละ 42
สศก. ลงพื้นที่สมุทรสาคร หนุนเกษตรกรเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม GAP ชี้ได้เปรียบทั้งคุณภาพและความปลอดภัย
สศก. จัดสัมมนาระดมความเห็น ดึงแพลตฟอร์ม "AgriDataProv" ขับเคลื่อนการเกษตรด้วย Big Data สู่จังหวัดยุคดิจิทัล