นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมยุค 4.0 เป็นคำที่ใช้เรียกโดยภาคเอกชน มีการนำเสนอครั้งแรก ในงานนิทรรศการ แฮนโนเวอร์เมส (Hannover Messe) ที่ประเทศเยอรมนี เมื่อปี 2554 กล่าวถึงทิศทางการปรับตัวของอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและบริการในหลากหลายรูปแบบ อาทิ เช่น การใช้เทคโนโลยีไอซีทีกับเครื่องจักรเพื่อผลิตสินค้าจำนวนมากๆ แต่สามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล (Mass-customized production) เครื่องจักร และหน่วยผลิตสามารถสื่อสารกันเองได้โดยอัตโนมัติ การจัดเก็บข้อมูลและใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ เชื่อมโยงกับระบบธุรกิจเพื่อให้สื่อดิจิตอลสามารถปฏิสัมพันธ์ระหว่างโลกดิจิตอลและโลกแห่งความเป็นจริง ฯลฯ ทำให้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจและการแข่งขันทางการตลาดจะเปลี่ยนไป
ทั้งนี้ ทิศทางการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมการผลิตและบริการเท่านั้น แต่จะเกิดขึ้นกับกิจกรรมและสิ่งอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ความสำเร็จในอดีตจะไม่สามารถรับประกันอะไรได้เลย การเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนอยู่ที่ว่าจะช้าหรือเร็ว ผู้ประกอบการของไทยจะต้องรู้เท่าทันและเตรียมพร้อมเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และจะต้องมีระบบการจัดการธุรกิจที่เหมาะสม อาทิ คุณภาพ ความปลอดภัย กฎระเบียบ ความต้องการ และความคาดหวังของลูกค้า ฯลฯ ซึ่งจะเชื่อมโยงโดยตรงต่อความเสี่ยง โอกาส และความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้สามารถปรับตัวได้กับเงื่อนไขใหม่ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างรวดเร็วเท่านั้นจึงจะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
"สภาอุตสาหกรรมฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การลงนามความร่วมมือด้านมาตรฐานสากลที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรม ยุคอุตสาหกรรม 4.0 กับ บริษัท ทูฟ นอร์ด (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม 4.0 ในประเทศเยอรมนี อีกทั้ง สถาบัน ทูฟ นอร์ด ยังเป็นหน่วยงานที่ตรวจสอบด้านมาตรฐานสากลที่เก่าแก่กว่า 140 ปี ในเยอรมนี ในครั้งนี้ จะช่วยพัฒนาภาคอุตสาหกรรม และยกระดับผู้ประกอบการไทยตามนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 ต่อไป" ประธาน ส.อ.ท. กล่าว
ด้านนาย พิทักษ์ สุภนันการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทูฟ นอร์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าอุตสาหกรรมยุค 4.0 เป็นทิศทางการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและบริการในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งมิติทางการแข่งขันเชิงบริการก็เปลี่ยนแปลงไป การบริการต่างๆเปลี่ยนไปโดยมีการผนวกรวมเทคโนโลยีต่างๆ เกิดโมเดลธุรกิจ และมิติทางการแข่งขันที่แตกต่างไปจากเดิม ธุรกิจที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรับมือได้ก็จะสูญเสียสถานะทางการแข่งขัน (Competitive advantage) การบริการและโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่จะอำนวยประโยชน์ต่อภาคผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการให้บริการกับสาธารณะและภาคสังคมก็จะไม่รองรับกับความต้องการที่ ที่เปลี่ยนไป ซึ่งความท้าท้ายที่ประเทศไทยจะต้องตระเตรียมเพื่อรับมือกับบริบทใหม่ "อุตสาหกรรม4.0" และ "ไทยแลนด์ 4.0" ได้แก่
· กลไก โครงสร้าง กฎระเบียบ และบทบาทภาครัฐที่เปลี่ยนไป – หากไม่ปรับเปลี่ยนให้สอดรับกับทิศทางนี่ ก็เท่ากับเป็นอุปสรรคขนาดใหญ่เชิงระบบของรัฐ
· โครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีที ไซเบอร์ และดิจิตอลระดับประเทศที่จะสามารถรองรับและสอดประสานกับการเคลื่อนตัวด้านเทคโนโลยีระดับสากล
· กรอบ กลไก และระบบกฎหมายของประเทศ
· ความเชี่ยวชาญและชุดของทักษะใหม่ที่จำเป็น (Set of skills and key competency)
· ความคิด (mindset) ของผู้คนระดับต่างๆของทั้งหน่วยงานภาครัฐผู้กำหนดนโยบายและภาคอุสาหกรรมผู้เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รวมทั้งภาคประชาชน
· กฎระเบียบ ระบบความปลอดภัยพื้นฐานด้านบริการทางการเงินของประเทศ การธนาคาร บริการทางการเงินของธนาคารและภาคบริการ
· วัฒนธรรมสากลที่จะรองรับและสร้างสรรค์โอกาสใหม่ๆ จากการแลกเปลี่ยนและการเดินทางของผู้คนในโลก
ความท้าทายดังกล่าวนี้อาจถือเป็นจุดหักเห หรือจุดเปลี่ยนที่สำคัญของประเทศไทยที่ทุกภาคส่วนจะต้องนำมาประเปลี่ยนและตระเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับกระบวนทัศน์ใหม่ (New paradigm) ซึ่งสิ่งที่เป็นพลวัตแห่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะเกิดขึ้นแน่นอนในทุกมิติ และจะไม่สามารถหยุดยั้งหรือเปลี่ยนทิศทางได้ หากไม่สามารถทำความเข้าใจและปรับตัวได้อย่างเหมาะสมกับเงื่อนไข และสภาพแวดล้อมของกระแสใหม่ของโลก ก็เชื่อว่าจะส่งผลกระทบเชิงลบระดับประเทศในแทบทุกด้าน เช่น ทางเศรษฐกิจ สังคม ความปลอดภัยและความมั่นคงด้านอื่นๆ ของประเทศ..
ปตท.สผ. คว้ารางวัลสูงสุดจากเวที Climate Action Awards 2025 สะท้อนความโดดเด่นในการดำเนินงานด้าน Decarbonization
SAPPE ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน ผนึกกำลัง TIPMSE และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในงานรวมพลังขับเคลื่อน EPR เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นวัตถุดิบ
"นิปปอนเพนต์" แบรนด์สีหนึ่งเดียวที่เหนือชั้นกว่า คว้ารางวัลเชิดชูเกียรติสูงสุด "Climate Action Excellence" โดย ส.อ.ท. พิสูจน์ความตั้งใจ การันตีองค์กรผู้นำด้านความยั่งยืนในทุกมิติ
OR ได้รับรางวัล Climate Action Excellence ตอกย้ำการเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่อนาคตยั่งยืน
ส.อ.ท. จับมือ CBS-กสิกร-บพค. ยกระดับ SMEs ไทยสู่ SMART SMEs ด้วย Digital & AI
กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี สอท. พร้อมดึงเทคโนโลยีเม็ดพลาสติกรีไซเคิล สนับสนุนอุตสาหกรรมไทยสู่ S-Curve หนุนทุกภาคส่วนนำพลาสติกใช้แล้วกลับมาเป็นวัตถุดิบครบวงจร
เบเยอร์คว้ารางวัล Climate Action Award ตอกย้ำผู้นำสีรักษ์โลกอันดับหนึ่ง มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero
TCMA คว้ารางวัล 'Outstanding Contribution' Climate Action Award 2025 ตอกย้ำบทบาทองค์กรศักยภาพ นำอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ขับเคลื่อนลดคาร์บอน
ส.อ.ท. จัด Climate Change Forum 2025 ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่เป้า Net Zero บางจากฯ คว้ารางวัลสูงสุด Climate Change Award องค์กรต้นแบบด้าน Climate Action