แอร์บัสได้ทำการส่งมอบเครื่องบินที่ใช้เชื้อเพลิงแบบยั่งยืนให้แก่ลูกค้า

12 Jun 2017
เอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบี ลำที่ 15 ถูกส่งไปยังสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิคแล้ว ด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานที่เป็นแบบผสมผสาน
แอร์บัสได้ทำการส่งมอบเครื่องบินที่ใช้เชื้อเพลิงแบบยั่งยืนให้แก่ลูกค้า

แอร์บัสแสดงความมุ่งมั่นในเรื่องประสิทธิภาพสูงสุดของเชื้อเพลิง โดยการเป็นผู้ผลิตเครื่องบินรายแรกที่เสนอทางเลือกของการส่งมอบเครื่องบินเจ็ตแบบใหม่โดยการใช้เชื้อเพลิงเครื่องบินแบบผสมที่ยั่งยืน

เครื่องบินแอร์บัส เอ 350-900 ลำที่ 15 ของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค เดินทางออกจากเมืองตูลูสเพื่อมุ่งตรงไปยังประเทศฮ่องกง เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา เครื่องบินลำนี้มีการผสมผสานของเชื้อเพลิงเครื่องบินแบบยั่งยืนในถังเป็นจำนวนร้อยละ 10 นับตั้งแต่การส่งมอบครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2559 เอ350 ทุกลำของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิคก็ถูกส่งมอบด้วยโครงสร้างแบบนี้ทั้งหมด

แนวคิดของเที่ยวบินส่งมอบด้วยการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ ริเริ่มคิดค้นโดยสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค เมื่อปี 2558 ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบแล้ว และเที่ยวบินส่งมอบครั้งล่าสุดนี้ยืนยันว่ากระบวนการการวางแผนและการจัดการจัดตั้งขึ้นเมื่อปีที่แล้วโดยแอร์บัสและโทเทิล (Total) นั้นทำงานได้อย่างถูกต้อง ตั้งแต่การผลิตเชื้อเพลิงไปจนถึงการจัดการแบบบูรณาการที่โรงงานแซ็งมาร์แต็งที่ใกล้เมืองตูลูสและการจัดส่งลูกค้า

"นับเป็นก้าวสำคัญสำหรับแอร์บัสและเป็นครั้งแรกของการจัดส่งเครื่องบินผลิตใหม่แบบปกติ มันแสดงให้เห็นว่าเชื้อเพลิงชีวภาพเพื่อการบินนั้นเกิดขึ้นได้จริง ขณะนี้เรามีเป้าหมายที่จะขยายความคิดริเริ่มนี้ไปยังทุกพื้นที่จัดส่งของเราเพื่อให้ใกล้กับลูกค้าของเรา" นาย เฟรเดอริค เออเชนน์ (Frederic Eychenne) หัวหน้าฝ่ายพลังงานใหม่ของแอร์บัส กล่าว

เที่ยวบินส่งมอบแรกออกจากเมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนีและเมืองโมบายล์ สหรัฐอเมริกา การใช้เชื้อเพลิงชีวภาพชนิดนี้มีการวางแผนให้ใช้ในปี 2561 โดยตั้งแต่ปี 2559 แอร์บัสได้นำเสนอทางเลือกนี้สำหรับเที่ยวบินส่งมอบจากเมืองตูลูส

โดยวัตถุประสงค์ก็เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของเที่ยวบินแต่ละเที่ยวโดยทำการเริ่มต้นที่เที่ยวบินส่งมอบ นาย เออเชนน์ กล่าว "สายการบินสามารถแสดงให้เห็นถึงจุดมุ่งหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างเด่นชัดได้ตั้งแต่วันแรกของการปฏิบัติการการบิน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการช่วยให้กลุ่มการบินพลเรือนระหว่างประเทศสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันของกลุ่มได้"

ด้วยการออกแบบชนิดใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย จึงทำให้เครื่องบิน เอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบีมีการเผาผลาญเชื้อเพลิงที่ต่ำและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต่ำกว่าเครื่องบินที่ได้เข้าไปประจำการแทนที่ ดังนั้นเมื่อเชื้อเพลิงอากาศแบบยั่งยืนถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการการบิน จึงนำมาซึ่งการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณสุทธิที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม"

เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อม แอร์บัสจึงมุ่งดำเนินการการร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในส่วนของเชื้อเพลิงชีวภาพทั้งหมด "ด้วยการร่วมมือกับสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิคและโทเทิล เราได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของการสร้างห่วงโซ่อุปทานสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ที่ต่ำ" นาย เออเชนน์ กล่าวเสริมว่า "ความคิดริเริ่มนี้ได้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของแอร์บัสที่มีต่อการเพิ่มประสิทธิภาพเชิงสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเป็นการสนับสนุนที่มีต่อเป้าหมายในการลดก๊าซเรือนกระจกของการบินระหว่างประเทศ