เตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่ ลัดฟ้าสู่เมืองหลวงของสหรัฐอเมริกา “วอชิงตัน ดีซี” ด้วยเครื่องบินแอร์บัส A350-1000

          สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค เดินหน้าขยายเครือข่ายการบินอย่างต่อเนื่อง เตรียมเปิดเส้นทางบินเชื่อมต่อจากฮ่องกง สู่วอชิงตัน ดีซี เมืองหลวงของประเทศสหรัฐอเมริกาถึง 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เริ่มให้บริการครั้งแรกในเดือนกันยายน พ.ศ. 2561 เพื่อขยายเส้นทางบินสู่สหรัฐอเมริกา และเสริมทัพเส้นทางบินปัจจุบันที่ให้บริการเดินทางสู่ชายฝั่งตะวันออกของประเทศ คือ สนามบินนานาชาติหลัก 2 แห่งในบอสตันและนิวยอร์กอย่างสนามบินจอห์น เอฟ เคนเนดี และสนามบินนูอาร์ก ลิเบอร์ตี้ โดยเที่ยวบินจากฮ่องกงสู่สนามบินนานาชาติดัลเลส เมืองวอชิงตัน ดีซีนี้ พร้อมต้อนรับผู้โดยสารด้วยเครื่องบินแอร์บัส A350-1000 รุ่นใหม่ และเส้นทางบินนี้นับเป็นการบริการเที่ยวบินที่มีระยะทางไกลที่สุดของคาเธ่ย์ แปซิฟิค มีระยะทางบินไกลถึง 7,085 ไมล์ทะเล หรือ 13,122 กิโลเมตร           
          นายรูเพิร์ต ฮอกก์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร คาเธ่ย์ แปซิฟิค กล่าวว่า "เพราะเรารับฟังความต้องการของลูกค้าที่มองหาทางเลือกในการเดินทางที่ดีกว่า และยืดหยุ่นมากขึ้น เราจึงมีความตื่นเต้นเป็นอย่างมากในการเปิดตัวบริการเส้นทางบินใหม่ของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค ซึ่งเชื่อมต่อสองจุดหมายในการเดินทางที่ทั้งเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและมีสีสัน อย่างฮ่องกง และวอชิงตัน ดีซี เข้าด้วยกัน โดยเส้นทางบินใหม่นี้เกิดขึ้นเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของผู้โดยสารในการเดินทางสู่เมืองหลวงของประเทศสหรัฐอเมริกา ในขณะเดียวกันก็เพื่อเป็นการมอบทางเลือกในการเดินทางที่สะดวกสบายให้กับผู้โดยสารที่เดินทางจากสหรัฐอเมริกา สู่จุดหมายปลายทางหลักในทวีปเอเชียอย่างฮ่องกง การเปิดเส้นทางบินตรงจากฮ่องกงไปยังจุดหมายใหม่นี้ เป็นการตอกย้ำสถานะของฮ่องกงในการเป็นศูนย์กลางการเดินทางระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และยังเป็นการขยายฐานรายได้ใหม่ที่สำคัญของเราอีกด้วย"
          สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค จะให้บริการบินตรงจากฮ่องกงสู่วอชิงตัน ดีซี ด้วยเครื่องบินโดยสารเพื่อการบินระยะไกล แอร์บัส A350-1000 โดยเครื่องบินแอร์บัส A350-1000นี้ ไม่เพียงมีประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังได้รวมเอาเทคโนโลยีอากาศพลศาสตร์ และดีไซน์ที่ล้ำสมัยเข้าด้วยกันไม่ต่างกับ A350-900 ที่มีขนาดเล็กกว่า เพื่อมอบประสบการณ์ในการเดินทางเหนือระดับให้แก่ลูกค้า พร้อมให้บริการด้วยห้องโดยสารในชั้นธุรกิจ ชั้นประหยัดพรีเมี่ยม และชั้นประหยัด ที่ประกอบไปด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ของห้องโดยสารที่ได้รับรางวัลการันตี รวมถึงการยกระดับระบบความบันเทิงภายในเครื่องบิน ไปจนถึงการเชื่อมต่อ Wi-Fi บนเครื่องบินอีกด้วย ซึ่งเครื่องบินที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนี้ รวมถึงเครื่องบินแอร์บัส A350-1000 จำนวน 20ลำ ที่จะเดินทางมาร่วมฝูงบินในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า จะเปิดโอกาสให้คาเธ่ย์ แปซิฟิคสามารถเปิดให้บริการในเส้นทางการบินระยะยาวที่ยังไม่เคยให้บริการจากฮ่องกงได้ในปีถัดไป 
          สำหรับจุดหมายปลายทางของเส้นทางบินใหม่จากฮ่องกงอย่างวอชิงตัน ดีซี นั้นเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองหลวงที่มีประวัติศาสตร์ทางการเมืองและสังคมยาวนาน มีอนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และพิพิธภัณฑ์ขึ้นชื่อของสหรัฐอเมริกาอยู่หลายแห่ง วอชิงตัน ดีซี ยังเป็นเมืองที่มีฉากศิลปะและวัฒนธรรมอันรุ่งเรือง ไปจนถึงร้านอาหารชั้นเลิศ และสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเป็นเวลานานหลายทศวรรษ 
          คาเธ่ย์ แปซิฟิค วางเป้าหมายให้ปีพ.ศ. 2561นี้ เป็นปีที่มีการขยายเส้นทางการบินและการเติบโตอันมีนัยสำคัญ โดยนอกจากการเปิดให้บริการเส้นทางวอชิงตัน ดีซีแล้ว คาเธ่ย์ แปซิฟิคยังได้เปิดตัวบริการเส้นทางตลอดปีไปยังบรัสเซลส์ในเดือนมีนาคม และดับลินในเดือนมิถุนายน ไปจนถึงเส้นทางตามฤดูกาลไปยังโคเปนเฮเกนในเดือนพฤษภาคมอีกด้วย นอกจากนี้สายการบินระหว่างภูมิภาคของคาเธ่ย์ แปซิฟิคกรุ๊ปอย่าง คาเธ่ย์ ดรากอน ก็จะเปิดตัวบริการเส้นทางการบินสู่เมืองหนานหนิง ประเทศจีนในเดือนมกราคม และยังมีการเพิ่มความถี่ในการบริการสำหรับเส้นทางบินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของคาเธ่ย์ แปซิฟิคอย่างบาร์เซโลน่าและเทล อาวีฟอีกด้วย
          นายเทอร์รี่ แม็คออลีฟ ผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนีย กล่าวว่า "เวอร์จิเนียมุ่งสานสัมพันธ์กับเอเชียมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นการที่เราได้เป็นจุดหมายใหม่ของตลาดสหรัฐอเมริกาในการบินตรงจากฮ่องกง จึงถือเป็นความภาคภูมิใจของเราเช่นกัน การเปิดเส้นทางการบินใหม่ครั้งนี้ จะนำพามาซึ่งสาธารณะประโยชน์อันมีผลในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น เราจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการเปิดสะพานเชื่อมระหว่างเอเชียและเวอร์จิเนีย และมีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก" 
          รายละเอียดของบริการเที่ยวบินวอชิงตัน ดีซี เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน พ.ศ.2561 (ตามเวลาท้องถิ่น)