ผู้ป่วย 459 รายในโครงการศึกษาวิจัย SARAH แสดงให้เห็นว่า การบำบัดรักษาผู้ป่วยมะเร็งเซลล์ตับ (HCC) ระยะลุกลามหรือไม่สามารถผ่าตัดได้ในกลุ่มรักษาแบบเฉพาะจุดด้วย SIR-Spheres ซึ่งเป็นอนุภาคเรซินไมโครสเฟียร์เคลือบสารกัมมันตรังสี Y-90 ไม่ได้ให้ผลที่เหนือกว่าตามแผนที่วางไว้ในด้านอัตราการรอดชีวิตโดยรวมเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการบำบัดรักษาอย่างเป็นระบบตามมาตรฐานการดูแลปกติด้วยการใช้ sorafenib ทว่าสามารถลดผลข้างเคียงและเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ผู้ป่วยมะเร็งเซลล์ตับ (HCC) ระยะลุกลามหรือไม่สามารถผ่าตัดได้ ที่ได้รับการบำบัดรักษาหนึ่งหรือสองรอบด้วย SIR-Spheres อนุภาคเรซินไมโครสเฟียร์เคลือบสารกัมมันตรังสี Y-90 ในโครงการศึกษาวิจัย SARAH ในผู้ป่วยชาวฝรั่งเศสจำนวน 459 ราย มีอัตราการรอดชีวิตใกล้เคียงกันเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับการบำบัดรักษาด้วยการใช้ sorafenib อย่างเป็นระบบตามมาตรฐานปกติสองครั้งต่อวัน แต่มีผู้ป่วยไม่ถึงครึ่งหนึ่งที่เกิดผลข้างเคียงและความรุนแรงของผลข้างเคียงก็ลดลงมาก และมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตามข้อมูลที่นำเสนอใน The International Liver Congress(TM) 2017 [1]
http://photos.prnewswire.com/prnh/20150119/724485
ผลลัพธ์ที่ได้ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการบำบัดรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งตับหลายหมื่นคนในแต่ละปี ถูกรายงานออกมาโดยหัวหน้าผู้วิจัยของโครงการศึกษาวิจัย SARAH ศาสตราจารย์ Valerie Vilgrain MD, PhD แผนกรังสีเทคนิค โรงพยาบาลโบจอน, Assistance Publique – Hopitaux de Paris (AP-HP) และ Universite Paris Diderot, Sorbonne Paris Cite, France
"การบำบัดรักษาด้วย sorafenib หรืออนุภาคเรซินไมโครสเฟียร์เคลือบสารกัมมันตรังสี Y-90, SIR-Spheres ไม่ก่อให้เกิดผลต่างที่มีนัยสำคัญทางสถิติในด้านอัตราการรอดชีวิตโดยรวม หรือ Overall Survival (OS) ของผู้ป่วยที่เราทำการศึกษาวิจัย" ศาสตราจารย์ Vilgrain ให้ความเห็น "แม้ว่ามี 26.6% ของผู้ป่วยที่ได้รับการบำบัดด้วยการนำรังสีเข้าสู่ร่างกายเฉพาะจุด (SIRT) จะไม่ได้รับการบำบัดด้วย SIR-Spheres ตามแผนของโครงการวิจัย แต่จุดสิ้นสุดขั้นต้นของอัตราการรอดชีวิตโดยรวม (Overall Survival) ตามวัตถุประสงค์ของการบำบัดรักษา [ITT] ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (ค่ามัธยฐาน 8.0 เทียบกับ 9.9 เดือน; p=0.18) นอกจากนี้ หากเราพิจารณาที่ผู้ป่วยที่ได้รับการบำบัดรักษาด้วย SIR-Spheres หรือ sorafenib ตามขั้นตอนการดำเนินการของโครงการศึกษาวิจัย SARAH ค่า OS มัธยฐานยังมีค่าเท่ากันอีกด้วย (9.9 เทียบกับ 9.9 เดือน; p=0.92)"
"ในแง่ของผลกระทบต่อผู้ป่วย ผลการศึกษาวิจัยจากการเปรียบเทียบแบบด้านต่อด้านของกลุ่มขนาดใหญ่ครั้งแรกของการบำบัดด้วยการนำรังสีเข้าสู่ร่างกายเฉพาะจุด (SIRT) และการทำคีโมอย่างเป็นระบบพร้อมการให้ sorafenib ยังแสดงผลอย่างชัดเจนอีกด้วยว่า ขั้นตอนการบำบัดรักษาที่ตับโดยตรงด้วย SIR-Spheres ส่งผลให้ทนต่อในการบำบัดรักษาและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด" ศาสตราจารย์ Vilgrain ให้ความเห็น "ฉันเชื่อว่าสิ่งที่นำมาพิจารณานี้จะเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกวิธีการบำบัดรักษาขั้นแรกสำหรับกลุ่มผู้ป่วยกลุ่มนี้ในอนาคต"
ความแตกต่างด้านความถี่และความรุนแรงของผลข้างเคียงของผู้ป่วยที่ได้รับการบำบัดรักษาด้วยอนุภาคเรซินไมโครสเฟียร์เคลือบสารกัมมันตรังสี Y-90, SIR-Spheres เทียบกับการบำบัดรักษาด้วย sorafenib มีความโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด มีผู้ป่วยน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดที่ได้รับการบำบัดรักษาด้วยอนุภาคเรซินไมโครสเฟียร์เคลือบสารกัมมันตรังสี Y-90, SIR-Spheres แล้วมีผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับการบำบัดรักษา (76.5% เทียบกับ 94.0% สำหรับการใช้ sorafenib; p<0.001) และยังมีความรุนแรงน้อยลงด้วย (≥ เกรด 3; 40.7% เทียบกับ 63.0%, ตามลำดับ; p<0.001) นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่ได้รีบการบำบัดรักษาด้วยอนุภาคเรซินไมโครสเฟียร์เคลือบสารกัมมันตรังสี Y-90, SIR-Spheres ที่ถูกรายงานว่ามีผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับการบำบัดรักษานั้น มีค่ามัธยฐานเพียง 5 เหตุการณ์เท่านั้นตลอดช่วงระยะเวลาของโครงการศึกษาวิจัย SARAH เมื่อเปรียบเทียบกับค่ามัธยฐานที่ 10 เหตุการณ์ของผู้ป่วยที่ได้รับการบำบัดรักษาด้วย sorafenib (p<0.001)
อาการที่เกี่ยวข้องกับการบำบัดรักษาทั่วไป เช่น ความล้า (42% เทียบกับ 65%; p<0.001), การเจ็บปวดที่ช่องท้อง (20% เทียบกับ 29%; p=0.032), อาการคลื่นไส้หรืออาเจียน (12% เทียบกับ 23%; p=0.001) และการติดเชื้อ (4% เทียบกับ 11%; p=0.007) ยังถูกรายงานว่ามีความถี่น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด และความรุนแรงน้อยลงสำหรับผู้ป่วยที่ได้รับอนุภาคเรซินไมโครสเฟียร์เคลือบสารกัมมันตรังสี Y-90, SIR-Spheres เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ป่วยที่ได้รับ sorafenib
ผู้ป่วยไม่กี่รายที่ได้รับอนุภาคเรซินไมโครสเฟียร์เคลือบสารกัมมันตรังสี Y-90, SIR-Spheres แล้วพบกับอาการท้องร่วงที่เกี่ยวข้องกับการบำบัดรักษา (13% เทียบกับ 68% สำหรับการใช้ sorafenib; p<0.001), ปฏิกิริยาที่ผิวหนังส่วนมือ-เท้า (0.4% เทียบกับ 21%; p<0.001), ภาวะเบื่ออาหาร (13% เทียบกับ 32%; p<0.001), น้ำหนักลด (6% เทียบกับ 21%; p<0.001) และผมร่วง (0% เทียบกับ 16%; p<0.001), รวมถึงการติดเชื้อ (4% เทียบกับ 11%; p=0.007), ความดันโลหิตสูง (3% เทียบกับ 13%; p<0.001) และไม่มีภาวะเลือดออกในทางเดินอาหาร (3% เทียบกับ 10%; p=0.002)
มีภาวะแทรกซับซ้อนที่เป็นไปได้เล็กน้อยที่เกี่ยวข้องกับการบำบัดรักษาอาการที่เกี่ยวข้องกับการบำบัดด้วยการนำรังสีเข้าสู่ร่างกายเฉพาะจุด (SIRT) และที่สำคัญคือไม่มีรายงานการพบโรคตับที่เกิดจากการฉีดสารกัมมันตรังสี (โรคตับอักเสบจากการฉายรังสี) ไม่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญสำหรับแผลในกระเพาะอาหาร (GI) จากการใช้อนุภาคเรซินไมโครสเฟียร์เคลือบสารกัมมันตรังสี Y-90, SIR-Spheres (2% เทียบกับ 0.5% สำหรับ sorafenib; p=0.37) รวมไปถึงมีเพียงกรณีเดียวของแผลกดทับ มานเลือดทางเดินอาหาร (GI) ที่เกิดจากการฉายรังสี (12% เทียบกับ 11%; p=0.57) ภาวะตัวเหลือง (12% เทียบกับ 13%; p=0.86) และโรคปอดอักเสบจกาการฉายรังสีเพียงกรณีเดียว (0.4% เทียบกับ 0; p=0.46)
ผลลัพธ์ของแบบสำรวจด้านคุณภาพชีวิต (QoL) ที่กรอกโดยผู้ป่วยที่เข้าร่วมโครงการ SARAH เมื่อผ่านไปสามเดือนของการบำบัดรักษาได้แสดงให้เห็นถึงผลดีของอนุภาคเรซินไมโครสเฟียร์เคลือบสารกัมมันตรังสี Y-90, SIR-Spheres "อิงจากผลการตอบแบบสำรวจสถานะสุขภาพทั่วโลก (Global Health Status) ของแบบสำรวจ QLQ-C30 องค์กรประชาชาติยุโรปเพื่อการวิจัยและการบำบัดรักษาโรคมะเร็ง [EORTC] พบว่าผู้ป่วยที่ได้รับการบำบัดรักษาด้วย SIR-Spheres สามารถรักษาระดับสุขภาพของพวกเขาตลอดช่วงระยะเวลาของโครงการศึกษาวิจัย SARAH ในขณะที่ผู้ป่วยที่ได้รับการบำบัดรักษาด้วย sorafenib ถูกรายงานว่ามีคุณภาพชีวิต (QoL) เลวร้ายลงอย่างคงที่และอย่างเห็นได้ชัด (ผลกระทบของกลุ่ม: p=0.005; ผลกระทบของเวลา: p<0.001; ผลต่างระหว่างกลุ่มเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป: p=0.045)" ศาสตราจารย์ Vilgrain ให้ความเห็น
เธอให้ความเห็นว่า "นอกจากนี้เรายังพบว่าเนื้อมะเร็งของผู้ปวยที่ได้รับการบำบัดรักษาด้วย SIR-Spheres จะมีการตอบสนองเชิงวัตถุประสงค์ (19.0% vs. 11.6%; p=0.042) สูงกว่าที่พบกับการบำบัดรักษาด้วย sorafenib และยังพบอีกว่าสามารถลดความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญของการเติบโตของมะเร็งในตับของผู้ป่วยเหล่านั้น ซึ่งเป็นสาเหตุผลักของการเสียชีวิตจากโรคนี้"
ข้อมูลบริษัท
ความเป็นมาของโครงการศึกษาวิจัย SARAH
"ผู้ป่วยมะเร็งเซลล์ตับ (HCC) ที่ไม่สามารถทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับ หรือการผ่าตัดออกเพื่อบำบัดรักษาก้อนเนื้องอกของพวกเขาจะเผชิญกับการคาดการณ์อนาคตที่มืดมนอย่างมากสำหรับการมีชีวิตอยู่ได้หนึ่งหรือสองปีพร้อมกับสุขภาพร่างกายที่ทรุดลงและเจ็บปวดเพิ่มมากขึ้น" ศาสตราจารย์ Vilgrain ให้ความเห็น "ในหลายกรณี มะเร็งเซลล์ตับ (HCC) ของผู้ป่วยจะอยู่ในระยะลุกลามอยู่แล้วซึ่งจะต้องใช้การบำบัดรักษาหลักด้วย sorafenib ในกรณีอื่นๆ เราสามารถให้การบำบัดรักษาขั้นเริ่มต้นสำหรับผู้ป่วยที่มีโรคในขั้นระยะกลางด้วยวิธีการบำบัดรักษาด้วยการทำคีโมที่ฉีดเข้าไปโดยตรงที่ตับของผู้ป่วยหลายครั้ง ซึ่งเรียกว่าการให้เคมีบำบัดผ่านทางหลอดเลือดแดง (Transarterial Chemoembolisation) หรือ TACE แต่วิธีการนี้อาจล้มเหลวได้"
"สำหรับผู้ป่วยที่มีมะเร็งเซลล์ตับ (HCC) ระยะลุกลาม หรือผู้ป่วยที่ล้มเหลวจากการใช้วิธีการให้เคมีบำบัดผ่านทางหลอดเลือดแดง (TACE) เราเชื่อมั่นในการบำบัดรักษาเชิงระบบทางปากด้วย sorafenib มายาวนานในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผลที่ได้แสดงถึงอัตราการรอดขีวิตยาวนานขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ยา placebo แต่ก็ยังเป็นสาเหตุให้เกิดผลข้างเคียงมากมายที่ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเลวร้ายลงด้วย นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เราตัดสินใจศึกษาว่าวิธีการบำบัดรักษาด้วยรูปแบบการบำบัดตับโดยตรงแบบใหม่ การบำบัดด้วยรังสีทางเลือก หรือ SIRT โดยใช้ SIR-Spheres จะเป็นวิธีการทางเลือกที่ดีกว่าหรือไม่ การตัดสินใจในการเริ่มโครงการ SARAH อิงมาจากโครงการศึกษาวิจัยขนาดเล็กก่อนหน้านี้ และการวิเคราะห์ย้อนหลัง ซึ่งระบุว่า SIR-Spheres อาจเป็นวิธีการที่ได้ผลและมีผลลัพธ์การรักษาที่ดีสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเซลล์ตับ (HCC)" เธอให้ความเห็น
โครงการ SARAH (SorAfenib versus Radioembolization in Advanced Hepatocellular carcinoma) เป็นโครงการศึกษาแบบสุ่ม มีกลุ่มควบคุม ไม่ปกปิด ที่ทำการศึกษาด้วยการเปรียบเทียบโดยตรงสำหรับประสิทธิภาพของการบำบัดรักษาด้วยการฉายรังสีภายในทางเลือก (การบำบัดด้วยการนำรังสีเข้าสู่ร่างกายเฉพาะจุด (SIRT) หรือการอุดเส้นเลือดด้วยสารกัมมันตรังสี) โดยใช้อนุภาคเรซินไมโครสเฟียร์เคลือบสารกัมมันตรังสี yttrium-90 [Y-90] (อนุภาคเรซินไมโครสเฟียร์เคลือบสารกัมมันตรังสี Y-90, SIR-Spheres ของ Sirtex Medical Limited, ซิดนีย์ ออสเตรเลีย)
โครงการ SARAH เริ่มเปิดตัวในเดือนธันวาคมปี 2554 และสรุปการรับสมัครผู้ป่วยในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2558
ด้วยจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการบำบัดรักษาในศูนย์การแพทย์ 25 แห่งทั่วประเทศฝรั่งเศส โครงการศึกษาวิจัย SARAH เป็นโครงการศึกษาวิจัยแบบสุ่มขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยดำเนินการเพื่อเปรียบเทียบวิธีการบำบัดรักษาด้วยการฉายรังสีภายในทางเลือก หรือวิธีการบำบัดรักษาที่ตับโดยตรงแบบอื่นๆ เทียบกับวิธีการบำบัดรักษาเชิงระบบซึ่งเป็นมาตรฐานการดูแลในการบำบัดรักษามะเร็งตับขั้นปฐมภูมิ เกือบ 70% ของผู้ป่วยในโครงการศึกษาวิจัย SARAH เป็นมะเร็งตับ (HCC) ในระยะลุกลาม (ระบบวินิจฉัยระยะโรค (Barcelona Clinic Liver Cancer) ระยะ C) โดยมีการลุกลามเข้าไปในหลอดเลือดดำและไม่มีเซลล์มะเร็งลุกลามนอกอวัยวะ ผู้ป่วยอื่นๆ ส่วนใหญ่จะพบความล้มเหลวเมื่อได้รับการรักษาด้วยการให้เคมีบำบัดผ่านทางหลอดเลือดแดง (TACE) สองรอบ
ผลการศึกษาของ SIRveNIB ซึ่งเป็นโครงการศึกษาวิจัยคู่ขนานในผู้ป่วยมะเร็งเซลล์ตับ (HCC) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 360 รายจะถูกนำเสนอในการประชุมประจำปีของสมาคมแพทย์อายุรกรรมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา (ASCO) ในเมืองชิคาโกวันที่ 4 มิถุนายน ปี 2560
มะเร็งเซลล์ตับ (HCC) คืออะไร
ในผู้ป่วยที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งตับขั้นปฐมภูมิทั้งหมดนั้น 90% ของผู้ป่วยมีโอกาสเป็นผู้ป่วยมะเร็งเซลล์ตับ (HCC) ซึ่งเป็นหนึ่งในหกโรคมะเร็งที่พบได้มากที่สุดในโลก และและเป็นโรคมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้คนสูงที่สุดเป็นอันดับที่สอง มะเร็งเซลล์ตับ (HCC) มีผลกระทบหลักต่อผู้ป่วยที่มีโรคไวรัสตับอักเสบจากทุกสาเหตุรวมไปถึงโรคตับแข็ง โรคพิษสุราเรื้อรัง และโรคไขมันพอกตับ และส่งผลให้เกิดการคร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกมากกว่า 670,000 รายทั่วโลกในแต่ละปี [2] ในบรรดาผู้คนที่มีความเสี่ยงของโรคมะเร็งเซลล์ตับ (HCC) นั้น จำนวนผู้ป่วยมะเร็งเซลล์ตับจะเพิ่มขึ้นในอัตราก้าวหน้าตามอายุประชากรที่มากขึ้น โดยสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 70 ปี [3]
กล่าวโดยรวมก็คือ หนึ่งส่วนสามของผู้ป่วยโรคตับแข็งจะพัฒนากลายเป็นโรคมะเร็งเซลล์ตับ (HCC) ในระหว่างช่วงชีวิตผู้ป่วย [4]
- ผู้ป่วยโรคมะเร็งเซลล์ตับ (HCC) ทั่วโลกจำนวน 54% พัฒนามาจากการเป็นผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบ B (HBV) (เป็นจำนวนกว่า 400 ล้านคน) ในขณะที่จำนวน 31% มาจากผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ C (HCV) (เป็นจำนวนกว่า 170 ล้านคน) [3]
- ในแอฟริกาและเอเชียตะวันออก สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งเซลล์ตับคือการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ B (HBV) (60%) ในขณะที่ในโลกตะวันตกที่พัฒนาแล้วสาเหตุที่ใหญ่ที่สุดดูจะมาจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ C (HCV) เรื้อรัง [5], [6]
นอกจากสาเหตุที่ว่านี้แล้ว ขณะนี้มีความคิดที่ว่าหนึ่งในแปดส่วน (จำนวน 12.8%) ของผู้ป่วยโรคไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์ (NASH) ซึ่งมีภาวะตับแข็งแทรกจะพัฒนากลายเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งเซลล์ตับ (HCC) ในที่สุด [7] โรคไขมันพอกตับ (NASH) ซึ่งมีตัวกระตุ้นอาการเป็นโรคเบาหวานแบบที่สอง ภาวะดื้อต่ออินซูลิน โรคอ้วน ไขมันในเลือดสูง และความดันโลหิตสูง ล้วนกลายเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคตับในประเทศตะวันตก พัฒนาการของโรคไขมันพอกตับทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะตับแข็ง ตับวาย และมะเร็งเซลล์ตับสูงมาก ซึ่งคาดกันว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโรคเบาหวานและโรคอ้วนทั่วโลก [8]
โรคมะเร็งเซลล์ตับเกิดกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ยกเว้นในแอฟริฟาที่ผู้หญิงได้รับผลกระทบมากกว่า [2]
วิธีการ SIRT โดยใช้อนุภาคเรซินไมโครสเฟียร์เคลือบสารกัมมันตรังสี Y-90, SIR-Spheres คืออะไร
วิธีการ SIRT โดยใช้อนุภาคเรซินไมโครสเฟียร์เคลือบสารกัมมันตรังสี Y-90, SIR-Spheres เป็นวิธีการบำบัดรักษาที่ได้รับอนุญาตแล้วสำหรับการบำบัดรักษาก้อนเนื้องอกที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ เป็นการรักษาโดยการนำรังสีเข้าสู่ร่างกายเฉพาะจุดที่ให้ปริมาณการฉายรังสีเบต้าพลังงานสูงปริมาณมากเข้าไปที่ก้อนเนื้องอกโดยตรง SIRT เป็นวิธีการบำบัดรักษาผู้ป่วยโดยมีนักรังสีวิทยาเข้าร่วมในการฉีดอนุภาคเรซินไมโครสเฟียร์หลายล้านอนุภาค (เส้นผ่านศูนย์กลางระหว่าง 20–60 ไมครอน) ผ่านสายท่อเข้าไปในหลอดเลือดแดงของตับที่ส่งโลหิตให้กับก้อนเนื้องอก โดยการใช้เส้นทางการสูบจ่ายโลหิตให้กับเนื้องอก อนุภาคขนาดเล็กจะมุ่งเป้าเฉพาะจุดไปยังก้อนเนื้องอกของตับด้วยปริมาณการฉายรังสีที่สูงกว่าการฉายรังสีทั่วไปถึง 40 เท่า ในขณะที่ไม่ทำลายเนื้อเยื่อดีที่อยู่โดยรอบ
1. Vilgrain V et al. The International Liver Congress(TM) 2017 – 52nd annual meeting of the European Association for the Study of the Liver, J Hepatol 2017; 66 (Suppl 1): Abs. GS-012.
2. Extrapolated from Ferlay J et al. Globocan 2012. v1.0, Cancer Incidence and Mortality Worldwide: IARC CancerBase No. 11 [Internet]. Lyon, France: International Agency for Research on Cancer; 2013. Available from: http://globocan.iarc.fr, accessed on 14/April/2017.
3. EASL–EORTC Clinical Practice Guidelines: Management of hepatocellular carcinoma. J Hepatol 2012; 56: 908–43.
4. Sangiovanni A et al. Hepatology 2006; 43: 1303–10.
5. Di Bisceglie AM. Hepatology 2009; 49 (Suppl 5): S56–60.
6. Davis GL et al. Proc (Bayl Univ Med Cent) 2008; 21: 266–80
7. White DL et al. Clin Gastroenterol Hepatol 2012; 10: 1342–59.
8. World Gastroenterology Organisation Global Guidelines: Nonalcoholic Fatty Liver Disease and Nonalcoholic Steatohepatitis, 2012.
SIR-Spheres(R) เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Sirtex SIR-Spheres Pty Ltd.
'Voice of Liver 2022 - ฟังเสียงตับ รับมือมะเร็ง ครั้งที่ 2' สร้างความตระหนักรู้ พร้อมขยายโอกาสเข้าถึงการรักษา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นของผู้ป่วยมะเร็งตับ
BDMS Wellness Clinic ผนึกกำลัง โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพระยอง คืนคุณภาพชีวิตผู้ป่วยมะเร็ง ภายใต้แนวคิด 'Care Beyond Cure'
โรงพยาบาลวัฒโนสถ Cancer Hospital ร่วมกับ BDMS Wellness Clinic ยกระดับการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง นำมาตรฐาน ICHOM ส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ Care Beyond Cure
7 องค์กรสุขภาพ จัดกิจกรรมวันมะเร็งเต้านมโลก
ลา โรช-โพเซย์ จับมือมูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง เดินหน้าโครงการ "ลา โรช-โพเซย์ เคียงข้างผู้ป่วยมะเร็ง" ปีที่ 2 เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยและครอบครัว
เซ็นทรัลกรุ๊ป มินิมาราธอน เดิน-วิ่ง การกุศล ครั้งที่ 17 ประกาศความสำเร็จ นักวิ่งกว่า 3,300 คน รวมส่งพลังใจช่วยผู้ป่วยมะเร็งสตรี
มิตรแท้ประกันภัย ร่วมสนับสนุน "The Phantom of the Opera" รอบการกุศล สมทบทุนศูนย์โปรตอนสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย