แนะเกษตรกรพิจิตร ปลูกอ้อยโรงงาน และ มะพร้าว ทดแทนพื้นที่นาไม่เหมาะสม

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          สศท. 12 เปิดผลศึกษาแนวทางการบริหารจัดการเขตเกษตรเศรษฐกิจสินค้า โดยใช้ Agri - Map เผย จังหวัดพิจิตร มีพื้นที่เหมาะสมในการเพาะปลูกข้าวนาปี คิดเป็นร้อยละ 91.90 ของเนื้อที่เพาะปลูกทั้งหมด แนะเกษตรกรในพื้นที่ไม่เหมาะสม สามารถปรับเปลี่ยนไปปลูกอ้อยโรงงาน และมะพร้าวทดแทนได้ ซึ่งได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
          นายคมสัน จำรูญพงษ์ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการศึกษาแนวทางการบริหารจัดการเขตเกษตรเศรษฐกิจสินค้าที่สำคัญ (Zoning) โดย Agri - Map จังหวัดพิจิตร โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 12 จังหวัดนครสวรรค์ (สศท.12) ดำเนินการวิเคราะห์สภาพทางกายภาพร่วมกับสภาพทางเศรษฐกิจ และกำหนดแผนงาน/โครงการเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชเศรษฐกิจสำคัญในพื้นที่เหมาะสมมาก (S1) ปานกลาง (S2) และการปรับเปลี่ยนการผลิตในพื้นที่เหมาะสมน้อย (S3) และไม่เหมาะสม (N)เป็นการผลิตพืชทางเลือกอื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
          สำหรับจังหวัดพิจิตร มีสินค้าเกษตรที่สำคัญ ที่มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมสูงสุด 4 ลำดับแรก ได้แก่ ข้าวนาปี ไข่เป็ด ส้มโอ และมะนาว สำหรับการศึกษาครั้งนี้ สศท.12 ได้ใช้ Agri-Map กำหนดพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลทางการผลิต ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ดังกล่าวใช้ประกอบการตัดสินใจทำการผลิตของเกษตรกร และเป็นแผนส่งเสริมการผลิตทางเกษตรที่เหมาะสมกับพื้นที่
          ด้านนายชีวิต เม่งเอียด ผอ.สศท.12 กล่าวถึงผลการศึกษาว่า จากการใช้ Agri-Map จัดเก็บข้อมูลทางการผลิต ได้แก่ ผลผลิตต่อไร่ ต้นทุนการผลิต ราคา ผลตอบแทน และข้อมูลบัญชีสมดุลของสินค้าเกษตรที่สำคัญ ตัวอย่างในผลการศึกษา พบว่า
          ข้าวนาปี มีพื้นที่เหมาะสมในการเพาะปลูก คิดเป็นร้อยละ 91.90 ของเนื้อที่เพาะปลูกทั้งหมด มีพื้นที่ไม่เหมาะสมในการเพาะปลูก คิดเป็นร้อยละ 8.10 ของเนื้อที่เพาะปลูกทั้งหมด สำหรับพื้นที่ไม่เหมาะสม (S3,N) ของการปลูกข้าวจังหวัดพิจิตร สามารถปรับเปลี่ยนไปปลูกสินค้าอื่น ได้ดังนี้
          ทางเลือกที่ 1 การปรับเปลี่ยนพื้นที่ไม่เหมาะสมสำหรับการปลูกข้าวเป็นพื้นที่เหมาะสมสำหรับการปลูกอ้อยโรงงานทดแทน พบว่า การปลูกข้าวในพื้นที่ไม่เหมาะสมจะให้ผลตอบแทนสุทธิไร่ละ 1,002.76 บาท หากปรับเปลี่ยนไปปลูกอ้อยโรงงานจะได้ผลตอบแทนสุทธิไร่ละ 3,841.52 บาท
          ทางเลือกที่ 2 การปรับเปลี่ยนพื้นที่ไม่เหมาะสมสำหรับการปลูกข้าวโดยปลูกมะพร้าวทดแทน พบว่าการปลูกข้าวในพื้นที่ไม่เหมาะสมจะให้ผลตอบแทนสุทธิไร่ละ 1,002.76 บาท หากปรับเปลี่ยนไปปลูกมะพร้าวจะได้ ผลตอบแทนสุทธิ 5,393.21 บาท ทั้งนี้ หากสนใจข้อมูลผลการสำรวจ สามารถขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมและคำแนะนำได้ที่ส่วนแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจการเกษตร สศท.12 โทร. 056 803 525 หรือ อีเมล [email protected]
 

ข่าวสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร+กระทรวงเกษตรและสหกรณ์วันนี้

ต้นแบบแปลงใหญ่ 'ตะไคร้บ้านวงฆ้อง' จ.กำแพงเพชร รวมกลุ่มผลิตมาตรฐาน GAP สร้างรายได้ หนุนเศรษฐกิจชุมชน

นางเจนธิชา ชัยชาญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 12 นครสวรรค์ (สศท.12) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เดินหน้าขับเคลื่อนการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันภาคเกษตร ตามแผนปฏิบัติราชการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 2570) โดยมุ่งส่งเสริมและสนับสนุนการผลิต การแปรรูป และการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากฐานเกษตรกรรมและฐานทรัพยากรชีวภาพ เพื่อเชื่อมโยงสู่ภาคอุตสาหกรรมต่อเนื่อง รวมทั้งส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพรให้เป็นพืชเศรษฐกิจตามความเหมาะสมของพื้นที่ นับเป็น

นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงา... โครงการปรับปรุงคลองส่งน้ำ ท่ามะกา ระยะ 5 ช่วยเกษตรกร 40 ครัวเรือน ผลผลิตและรายได้เพิ่ม — นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)...

นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงา... โครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรชีวภาพ หนุนเกษตรกรสร้างรายได้จากสมุนไพร-แมลงเศรษฐกิจ — นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)...