นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลบุรีรัมย์ (BRRGIF) เปิดเผยว่า BRRGIF ซึ่งเป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าชีวมวลกองแรกที่เปิดเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไปและจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป ได้กำหนดราคาสุดท้ายที่หน่วยละ10.30 บาท ภายหลังจากได้รับผลตอบรับอย่างดีจากการสำรวจความต้องการซื้อ (Book Building) ของนักลงทุนสถาบัน โดยมีช่วงราคาเสนอขายที่ 9.90 – 10.40 บาท สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของนักลงทุนสถาบันที่มีต่อศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของโรงไฟฟ้า
"สาเหตุที่นักลงทุนสนใจจองซื้อกองทุน BRRGIF จากจุดเด่นของกองทุนที่มีความมั่นคงของกระแสรายได้ที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอและสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก จากการเข้าลงทุนในสิทธิในรายได้สุทธิฯ ของโรงไฟฟ้าของ บจ. บุรีรัมย์พลังงาน (BEC) และ บจ.บุรีรัมย์เพาเวอร์ (BPC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BRR โดยมีสัญญาขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นระยะเวลาประมาณ 11 ปี และ 18 ปี (สิ้นสุด 10 ส.ค. 2571 และ6 เม.ย. 2578) ตามลำดับ อีกทั้งความมั่นคงจากการเข้าทำสัญญาซื้อขายเชื้อเพลิงชีวมวลระยะยาวครอบคลุมระยะเวลาลงทุนของกองทุน BRRGIF โดยหลังจากนี้คาดว่า BRRGIF น่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประมาณต้นเดือนสิงหาคมนี้"
ทั้งนี้ เงินจ่ายให้ผู้ถือหน่วยของ BRRGIF จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ เงินปันผลจากกำไรสุทธิของกองทุน และเงินจ่ายคืนจากการลดเงินลงทุนในรายได้สุทธิ(ลดทุน) ซึ่งผู้สอบบัญชีได้จัดทำประมาณการกำไรขาดทุนและการปันส่วนกำไรในรอบ 12 เดือน ได้ประมาณการเงินปันผลของกองทุนไว้ที่ 6.5% และเงินจ่ายคืนจากการลดทุน 4.7% รวมมีเงินจ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยประมาณ 11.2% โดยคิดจากขนาดกองทุนที่ 3,717 ล้านบาท ทั้งนี้ กองทุน BRRGIF มีขนาดกองทุนที่ 3,605 ล้านบาท จากราคาสุดท้ายที่กำหนดที่ 10.30 บาทต่อหน่วย
ด้านนายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR กล่าวว่า กองทุน BRRGIFถือว่าเป็นกองทุนที่มีความมั่นคงทั้งทางด้านรายได้ จากการที่ BEC และ BPC ขายไฟฟ้าให้แก่ กฟภ. โรงละ 8 เมกะวัตต์ รวมถึงยังขายไอน้ำและไฟฟ้าส่วนที่เหลือบางส่วนให้แก่ บจ. โรงงานน้ำตาลบุรีรัมย์ (BSF) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BRR อีกด้วย ขณะเดียวกันก็ยังมีความมั่นคงในด้านวัตถุดิบ คือ กากอ้อย ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการผลิตน้ำตาลของ BSF โดย BSF ได้ทำสัญญาในการซื้อไฟฟ้า และไอน้ำขั้นต่ำกับBEC และ BPC รวมไปถึงมีการจัดทำสัญญาในการส่งวัตถุดิบกากอ้อย ทั้งปริมาณขั้นต่ำและราคา เพื่อใช้สำหรับการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ ของ BEC และ BPC ไว้เรียบร้อยแล้ว ผลตอบแทนที่คาดว่ากองทุนจะได้รับจึงมีความผันผวนต่ำ และมีความมั่นคงสูง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวและได้รับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ
อนึ่ง กองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าปีละ 2 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิ และเงินปันผลที่ได้จากกองทุนBRRGIF ยังได้รับการยกเว้นภาษีเป็นเวลา 10 ปี นับแต่ปีภาษีที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งกองทุน
BRRGIF เตรียมจ่ายปันผล 0.02742 บาท และเงินลดทุน 0.20 บาท วันที่ 18 ส.ค. นี้
BRRGIF เตรียมจ่ายปันผล 0.19199 บาท และเงินลดทุน 0.17 บาท วันที่ 18 มิ.ย. นี้
BRRGIF เตรียมจ่ายเงินปันผล 0.17094 บาท วันที่ 21 มี.ค. นี้
BRRGIF เตรียมจ่ายเงินลดทุนครั้งที่ 18 อัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย วันที่ 17 ธ.ค. 2567
BRRGIF เตรียมจ่ายปันผล 0.13058 บาท และเงินลดทุน 0.14 บาท วันที่ 11 ก.ย. นี้
BRRGIF เผย 9 เดือนของปี 2566 กองทุนมีเงินสดสะสม 152 ล้านบาท
BRRGIF เตรียมจ่ายปันผล 0.05 บาท วันที่ 12 ก.ย. นี้