ดร.ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยเคยดำเนินการมาตรฐาน AETS โดยประกาศลดการส่งออกยางพาราร่วมกับอีก 2 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย มาแล้วรวม 4 ครั้ง ครั้งแรกปี 2544 ทั้ง 3 ประเทศ ควบคุมการส่งออก 700,000 ตัน ส่งผลให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 36.38 เซ็นต์สหรัฐต่อกิโลกรัม คิดเป็น75.07% ครั้งที่ 2 ในเดือนมกราคม – ธันวาคม 2552 ส่งออกลดลง 700,000 ตัน ส่งผลให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้น 156.43 เซ็นต์สหรัฐ/กิโลกรัม คิดเป็น 127.94% ในช่วงปลายปี 2552 ครั้งที่ 3ระหว่างเดือนตุลาคม – มีนาคม 2556 ลดการส่งออกจำนวน 300,000 ตัน ส่งผลให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้น 15.1 เซนต์สหรัฐ/กิโลกรัม คิดเป็น 5.24% และครั้งที่ 4 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ลดการส่งออก จำนวน 615,000 ตัน ส่งผลให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้น 96.67 เซนต์สหรัฐ/กิโลกรัม คิดเป็น 72.30% เห็นได้ว่าจาก 4 ครั้งที่ ผ่านมา มาตรการลดการส่งออกของทั้ง 3 ประเทศ ทำให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้นในปี 2561 สภาไตรภาคีระหว่างประเทศ (ITRC) จึงมีเป้าหมายควบคุมการส่งออกยาง 350,000 ตัน ซึ่งไม่ได้สูงกว่าการดำเนินการทั้ง 4 ครั้งที่ผ่านมา
ดร.ธีธัช กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการคาดการณ์ปริมาณยางที่จะออกสู่ตลาดของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดในช่วงมกราคม – มีนาคม 2561 ไทยจะมีผลผลิต จำนวน 915,630ตัน ซึ่งการดำเนินมาตรการ AETS ช่วยยกระดับราคายางให้สูงขึ้น 30 % และส่งผลให้เกษตรกรขายยางได้ในราคาที่สูงกว่าต้นทุน เพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง โดยไม่ทำให้ประเทศชาติสูญเสียทางเศรษฐกิจตามที่มีผู้ให้ข่าวแน่นอน
อย่างไรก็ตาม โครงการควบคุมการส่งออกในปี 2561 เป็นการดำเนินการระยะสั้น 3 เดือน ตั้งแต่ มกราคม – มีนาคม 2561 ซึ่งผู้ส่งออกสามารถเลื่อนการส่งออกเฉลี่ยไปในเดือนที่เหลือของปีได้ หากราคาปรับตัวสูงขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะเดียวกัน ระหว่างการจำกัดการส่งออก ใน 3 เดือนนี้ ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังมีมาตรการที่ผ่านมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ เพื่อบรรเทาผลกระทบผู้ประกอบการ อาทิ โครงการสนับสนุนสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยาง (ยางแห้ง) วงเงิน 20,000 ล้านบาท โดยชดเชยดอกเบี้ยไม่เกิน 3% ต่อปี และโครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานของรัฐ เป้าหมาย 200,000 ตัน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการใช้ยางในประเทศมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการด้วย ดร.ธีธัช กล่าวทิ้งท้าย
กยท.จ.ตรัง เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด เตรียมมาตรการฟื้นฟูสวนยางทันทีที่น้ำลด
RAOT จับมือวงศ์บัณฑิต ลงนาม MOU เดินหน้าบริหารจัดการผลผลิตยาง สร้างสมดุลตลาด หนุนสร้างเสถียรภาพราคายางอย่างยั่งยืน
TEGH จับมือ "กยท." ลงนาม MOU บริหารจัดการผลผลิตยางพารา พร้อมดันไทยสู่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมยางในภูมิภาค
กยท. MOU ร่วม บ.ไทยอีสเทิร์น สร้างสมดุลระบบยาง หนุนตลาดรองรับผลผลิตที่เป็นธรรม
กยท. เยือนท่าเรือชิงเต่า ศึกษาระบบบริหารจัดการฯ มุ่งสนับสนุนสถาบันเกษตรกรฯ ผ่านการปั้น "แบรนด์ RAOT" สู่ตลาดโลก
พร้อมแล้ว! ทุนปลูกแทนปีงบฯ 69 กยท. เปิดรับคำขอฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. - 31 มี.ค. 69 สนับสนุนเกษตรกรเพื่อการปลูกแทนสู่ความยั่งยืน
กยท. จับมือ นอร์ทอีส รับเบอร์ ลงนาม MOU บริหารจัดการผลผลิตยาง 200,000 ตันต่อปี
กยท. ร่วมมหกรรมเกษตรในร่มที่ใหญ่ที่สุดในไทย "FARM EXPO 2025" จัดเต็ม !! เนรมิตพื้นที่แสดงผลงาน ชู "ขับเคลื่อนนวัตกรรม ยางพาราไทย สู่โลกอนาคต
กยท. ร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พร้อมคว้ารางวัลพระราชทาน ในงาน"ของดีเมืองนราฯ 68"