เด็ก “แพ้นมวัว” ผู้ปกครองพึงระวัง เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          แม้นมวัวจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกาย และมีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างความเจริญเติบโตให้กับลูกน้อย แต่ทราบหรือไม่ว่ามีเด็กจำนวนไม่น้อยที่มีอาการแพ้นมวัว บางรายแพ้รุนแรงจนอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายและถึงแก่ชีวิตได้ ผู้ปกครองควรรู้ถึงสาเหตุและวิธีป้องกันและรับมือ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายกับลูกรักได้
          พญ.ฉัฐฐิมา เสาวภาคย์ กุมารแพทย์โรคภูมิแพ้และหอบหืด โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า ปัจจุบันสถิติอัตราการเกิดของทารกแรกเกิดในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 8 แสนคนต่อปี การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 เดือน มีเพียงร้อยละ 20 เพราะฉะนั้นจะมีเด็กที่ถูกเลี้ยงด้วยนมวัวประมาณ 6 แสนคน และมีเด็กแพ้นมวัวสูงถึงปีละ 20,000 ราย โรคแพ้โปรตีนนมวัว มีสาเหตุมาจาก ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเห็นโปรตีนในนมวัวเป็นสิ่งแปลกปลอมและพยายามกำจัดออก ทำให้เกิดอาการต่างๆจนเด็กไม่สบาย สามารถพบอาการได้ในหลายระบบของร่างกาย ได้แก่ ระบบทางเดินอาหาร ระบบผิวหนัง และระบบทางเดินหายใจ โดยมาจากการแพ้โปรตีนในนมวัว ทั้งยังเป็นผลพวงมาจากพันธุกรรม เช่น หากทั้งพ่อและแม่เป็นโรคภูมิแพ้ หรืออาจไม่ต้องเป็นโรคภูมิแพ้ชนิดเดียวกันก็ได้ เช่น คนหนึ่งเป็นโรคหืด คนหนึ่งเป็นผื่นแพ้ ลูกก็มีโอกาสเกิดการแพ้ได้มากกว่าการมีพ่อหรือแม่แพ้เพียงคนเดียว และเด็กที่แพ้โปรตีนนมวัวมักมีโอกาสที่จะแพ้ อาหาร ยา สารต่างๆ ได้สูงกว่าคนทั่วไป เมื่อโตขึ้นเด็กกลุ่มที่แพ้โปรตีนนมวัว อาจเป็นผื่นแพ้ ผิวหนังอักเสบหรือเป็นโรคหืด ภูมิแพ้จมูกได้
          สำหรับอาการแพ้โปรตีนนมวัวมักเกิดช่วงแรกของชีวิต คือ หลังจากที่เด็กได้รับนมวัวจะมีอาการแพ้เกิดขึ้น ซึ่งมีรูปแบบและระยะเวลาในการเกิดอาการแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ 1.อาการเกิดแบบรวดเร็ว (Rapid onset) โดยเกิดอาการขึ้นทันทีหลังได้รับประทานนมวัวเข้าไป คือ เด็กจะมีอาการกระสับกระส่าย อาเจียน หายใจหอบ มีเสียงวี้ด มีอาการบวม เกิดลมพิษและคันตามตัว ท้องเสียและถ่ายเป็นเลือด 2.อาการเกิดแบบช้า (Delayed หรือ Slower onset) คือ เกิดอาการแพ้แบบค่อยเป็นค่อยไป อาจเกิด 7-10 วัน ภายหลังจากได้รับนมวัว อาการที่พบส่วนใหญ่จะใกล้เคียงกับแบบที่เกิดอาการแบบรวดเร็ว โดยจะมีอาการท้องเสียถ่ายเหลว อาจมีเลือดปนมากับอุจจาระ อาเจียน ไม่อยากอาหาร หงุดหงิด ปวดท้องหรือมีอาการทางผิวหนัง เป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เริ่มที่อายุประมาณ 2 เดือน สำหรับวิธีการรักษาเด็กแพ้โปรตีนนมวัว คือ ควรให้เด็กหลีกเลี่ยงนมวัวและอาหารที่มีนมวัวเป็นส่วนประกอบ แต่เด็กก็ยังต้องการโปรตีนและแคลเซียมเพื่อใช้ในการเจริญเติบโต ผู้ปกครองอาจใช้นมชนิดอื่นหรืออาหารอื่นมาทดแทนนมวัว อาหารที่สำคัญสำหรับเด็กคือ การให้นมแม่จะดีที่สุด แต่ถ้าเด็กไม่สามารถรับประทานนมแม่ได้ อาจจะต้องใช้นมพิเศษ หรือนมที่มีการปรับเปลี่ยนกรดอะมิโน โดยควรใช้ภายใต้คำแนะนำจากแพทย์ หากเด็กมีอาการแพ้โปรตีนนมวัวแบบรวดเร็ว ต้องได้รับยาเอพิเนฟรีน (Epinephrine) ทันที และรีบพามาพบแพทย์โดยด่วน ซึ่งแพทย์จะให้การรักษาและดูแลอาการผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เด็กที่แพ้โปรตีนนมวัวที่มีอาการแบบรวดเร็วควรต้องมีการพกยาฉีดเอพิเนฟรีนติดตัวไว้ ในเด็กที่มีอาการแพ้อาหารที่มีส่วนประกอบของนมวัวเด็กอาจมีอาการเมื่อไปสัมผัสส่วนประกอบของอาหารโดยไม่ตั้งใจ ต้องมีการฝึกฝนให้ฉีดยานี้ได้ ในกรณีที่เด็กรับประทานนมแม่ก็ให้รับประทานต่อไป โดยที่คุณแม่ต้องงดรับประทานนมวัวและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมวัวทุกชนิดในระหว่างที่ให้นมลูก และไม่แนะนำดื่มนมถั่วเหลืองแทนนมวัว เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน เนื่องจากในเด็กบางรายก็อาจมีอาการทั้งแพ้โปรตีนนมวัวและแพ้โปรตีนนมถั่วเหลืองได้ คุณพ่อคุณแม่ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์
          เด็กที่แพ้โปรตีนจากนมวัวนั้น มีโอกาสหายจากอาการแพ้ได้ตามช่วงอายุ คือ ร้อยละ 45-56 อาการจะหายไปเมื่ออายุ 1 ปี ร้อยละ 60-77 อาการจะหายไปเมื่ออายุ 2 ปี ร้อยละ 84-87 อาการจะหายไปเมื่ออายุ 3 ปี และร้อยละ 90-95 อาการจะหายไปเมื่ออายุ 5-10 ปี อย่างไรก็ตาม การพาเด็กมาพบแพทย์เฉพาะทางด้านโรคภูมิแพ้ เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและหาอาการแพ้โปรตีนจากนมวัว นับว่าเป็นสิ่งที่ดีเพื่อผู้ปกครองจะได้รู้เท่าทันและรักษาได้อย่างต่อเนื่อง ให้ลูกรักเติบโต แข็งแรงอย่างปลอดภัย

เด็ก “แพ้นมวัว” ผู้ปกครองพึงระวัง เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต

ข่าวโรงพยาบาลพระรามเก้า+เลี้ยงลูกด้วยนมแม่วันนี้

"รู้ทันโรคหัวใจ...ก่อนสายเกินไป" โรงพยาบาลพระรามเก้า ชูศักยภาพสถาบันหัวใจและหลอดเลือดครบวงจร พร้อมทีมแพทย์ดูแล 24 ชม. เน้นป้องกัน-รักษา-ฟื้นฟู ครอบคลุมทุกมิติ

โรคหัวใจและหลอดเลือดถือเป็น "ฆาตกรเงียบ" ที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นโรคที่มักไม่แสดงอาการชัดเจนในระยะเริ่มต้น แต่สามารถคร่าชีวิตได้อย่างเฉียบพลัน โรงพยาบาลพระรามเก้า จึงมุ่งยกระดับ "สถาบันหัวใจและหลอดเลือด" ให้เป็นศูนย์กลางด้านโรคหัวใจชั้นนำของประเทศ ที่พร้อมทั้งการป้องกัน วินิจฉัย รักษา และฟื้นฟูภายใต้แนวคิด "ดูแลหัวใจคุณ ด้วยหัวใจเรา" นพ.อนุพงษ์ ปริณายก ผู้อำนวยการสถาบันหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลพระรามเก้า เปิดเผยว่า โรคหัวใจยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของ

นพ.เสถียร ภู่ประเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการ ... โรงพยาบาลพระรามเก้า จัดกิจกรรม "วันพาร์กินสันโลก 2025" — นพ.เสถียร ภู่ประเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระรามเก้า เป็นประธานเปิดกิจกรรม "วันพาร์กินสัน...

โรงพยาบาลพระรามเก้า ขอเชิญทุกท่านร่วมกิจก... โรงพยาบาลพระรามเก้า ชวนร่วมกิจกรรม "วันพาร์กินสันโลก" รู้เร็ว ป้องกันได้ — โรงพยาบาลพระรามเก้า ขอเชิญทุกท่านร่วมกิจกรรม "วันพาร์กินสันโลก" ในวันที่ 9 เมษา...