นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร ดำเนินโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนและเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรและชุมชน ด้วยการน้อมนำหลักการ ทฤษฎีและแนวทางการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรต่าง ๆ ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานไว้มาส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรทำการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เน้นการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต พัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐานและเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรในชุมชน โดยกำหนดเป้าหมายพื้นที่ 9,101 ชุมชน ประกอบด้วย ชุมชนใน ศพก. หลัก 882 แห่ง และเครือข่าย 8,219 แห่งและคัดเลือกเกษตรกรชุมชนละ 500 ราย รวม 4,550,500 รายงบประมาณรวมทั้งสิ้น 22,895 ล้านบาท
ในการนี้ สศก. ได้วิเคราะห์ผลลัพธ์ของโครงการในการกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า โดยพิจารณาจากค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อวัสดุ อุปกรณ์ วัตถุดิบ พันธุ์พืช/สัตว์ และค่าจ้างแรงงานของโครงการ พบว่า โครงการมีการใช้จ่ายงบประมาณไปทั้งสิ้น 19,366.49 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นค่าวัสดุ อุปกรณ์ฯ จำนวน9,659.54 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดเป็นการจัดซื้อวัสดุสำคัญสำหรับใช้เป็นวัตถุดิบในการทำการผลิต เช่น มูลสัตว์ เศษพืช เศษผัก หญ้าแฝก ไม้ และผลไม้ โดยหาซื้อจากภายในชุมชนเองหรือชุมชนใกล้เคียง ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะส่งต่อเศรษฐกิจชุมชนสองทางด้วยกัน คือรายได้จากการจำหน่ายวัสดุในท้องถิ่นจะถูกนำไปจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันจากร้านค้าในชุมชน และรายได้จากการซื้อขายแลกเปลี่ยนผลผลิตทางการเกษตรภายในชุมชนและพื้นที่ใกล้ จากการนำวัสดุ อุปกรณ์ วัตถุดิบ พันธุ์พืช/สัตว์ ไปใช้ทำการผลิต ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจชุมชนคิดเป็นมูลค่า21,451 ล้านบาท ขณะที่ค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าจ้างแรงงาน9,706.95 ล้านบาท ซึ่งจ้างเกษตรกรในชุมชนมาทำงานในโครงการได้ส่งผลต่อเศรษฐกิจชุมชนผ่านการนำรายได้จากค่าจ้างมาใช้จ่ายบริโภคสินค้าในชีวิตประจำวันจากร้านค้าภายในชุมชนและใกล้เคียง เช่น ข้าวสาร เนื้อสัตว์ เครื่องดื่ม ผลไม้ ยานพาหนะและเชื้อเพลิงก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจชุมชนคิดเป็นมูลค่าสูงถึง32,589 ล้านบาท สรุปโครงการ 9101 ก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจชุมชนคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น54,040 ล้านบาท
นอกจากนี้ ภายในโครงการ 9101 ยังมีกิจกรรมฟาร์มชุมชนซึ่งเป็นการจัดทำแปลงและโรงเรือนเพาะปลูกรอบ ๆ แหล่งน้ำในโครงการทั้งการปลูกพืชและไม้ผล เช่น ผักบุ้ง ถั่วฝักยาว ข้าวโพด พริก มะเขือ น้อยหน่า ฝรั่ง กล้วย การเลี้ยง ปศุสัตว์ เช่น ไก่ไข่และเป็ดไข่ การประมง เช่น การเลี้ยงปลาดุก ปลานิลและกบ การจัดสร้างโรงเรือนสำหรับเพาะเห็ดนางฟ้าและผลิตปุ๋ยอินทรีย์ การแปรรูปสินค้าเกษตรและการจัดให้มีร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของฟาร์ม ซึ่งฟาร์มชุมชนนี้ได้ก่อให้เกิดความสมัครสมานสามัคคีและการร่วมไม้ร่วมมือกันระหว่างเกษตรกร ผู้นำชุมชน และหน่วยงานภาคีที่รับผิดชอบ ผ่านการการรวมกลุ่มและร่วมกันจัดทำแผนการบริหารจัดการฟาร์มทั้งการผลิต การแปรรูป และการตลาดซึ่งฟาร์มชุมชนยังก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนแก่เกษตรกรได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เกษตรกรในโครงการยังสามารถนำความรู้ไปต่อยอดในพื้นที่ของตนเองได้อีกด้วย
หน่วย : ล้านบาท
กิจกรรมของโครงการ |
ค่าใช้จ่ายในพื้นที่ |
ผลกระทบทางเศรษฐกิจ | ||
การขยายตัวของผลผลิต |
การขยายตัวของงรายได้ |
รวม | ||
1. ด้านการผลิตพืชและพันธุ์พืช |
3,114.11 |
3,205 |
5,357 |
8,562 |
2. ด้านการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ |
10,337.64 |
11,444 |
17,774 |
29,218 |
3. ด้านจัดการศัตรูพืช |
236.52 |
225 |
416 |
641 |
4. ด้านฟาร์มชุมชน |
919.66 |
1,024 |
1,502 |
2,526 |
5. ด้านการผลิตอาหาร/แปรรูป |
1,190.44 |
1,358 |
1,952 |
3,310 |
6. ด้านปศุสตว์ |
1,995.15 |
2,528 |
3,044 |
5,572 |
7. ด้านประมง |
1,346.53 |
1,448 |
2,157 |
3,605 |
8. ด้านการปรับปรุงบำรุงดิน |
220.44 |
219 |
388 |
607 |
รวม |
19,366.49 |
21,451 |
32,589 |
54,040 |
ที่มา : ศูนย์ปฏิบัติการเศรษฐกิ