สพจ.กาญจนบุรี สนับสนุนระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ในภาคเกษตรกร

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          สำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี เดินหน้าส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในพื้นที่ สนับสนุนระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำครอบคลุมการเกษตร อุปโภคและบริโภค ตามนโยบายรัฐบาล ช่วยลดต้นทุนเกษตรกร และรายจ่าย สร้างรายได้ให้กับประชาชน
          สำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี กระทรวงพลังงาน นำคณะสื่อมวลชนร่วมศึกษาดูงานโครงการสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์สู้ภัยแล้ง ภายหลังดำเนินการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในระดับชุมชนตามศักยภาพของพื้นที่ในระยะแรกแล้วเสร็จ 21 ระบบ กำลังการผลิตรวม 55,000 วัตต์ ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้า 95,356 หน่วย/ปี คิดเป็นเงิน 381,425 บาท/ปี ลดการใช้น้ำมันดีเซล 9,426 ลิตรต่อปี คิดเป็นเงิน 248,760 บาท/ปี พร้อมเดินหน้าขยายผลดำเนินการในระยะที่สองแล้วเสร็จเร็วๆ นี้
          นายสกนธ์ ลิมทโรภาส นายช่างเทคนิคชำนาญงาน รักษาราชการแทนพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงพลังงานมีนโยบายด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีพลังงานทดแทนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกร สำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี ได้นำนโยบายดังกล่าวมาขยายผลในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยเกิดเป็นผลสำเร็จของโครงการในระยะที่ 1 ดังนั้นจึงได้ร่วมกับ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน นำคณะสื่อมวลชนร่วมศึกษาดูงาน โครงการสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์สู้ภัยแล้ง ภายใต้งบประมาณกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปี 2559 ในกลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านเจริญทรัพย์ หมู่ที่ 1 และกลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านหนองกร่าง หมู่ที่ 2 ซึ่งเป็นหนึ่งในชุมชนที่ได้รับการสนับสนุนการติดตั้งระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภค ในระยะที่ 1 จำนวนรวม 21 ระบบ ครอบคลุมพื้นที่ 1,966 ไร่ ใน 2 อำเภอ ได้แก่ พื้นที่ตำบลหนองกร่าง ตำบลหนองรี และตำบลหลุมรัง อำเภอบ่อพลอย และพื้นที่ตำบลหนองปลิง และตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี กำลังการผลิตรวม 55,000 วัตต์
          ทั้งนี้ ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์มีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งให้กับชุมชนในพื้นที่ ด้วยการต่อยอดการใช้พลังงานทดแทนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการจัดการน้ำเพื่อการเกษตร การอุปโภคบริโภค ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อช่วยลดต้นทุนทางการเกษตรและลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในครัวเรือนให้แก่ประชาชน โดยภายหลังจากการดำเนินโครงการดังกล่าวทำให้สามารถลดการใช้พลังงานลงได้ปีละ 8.125 ตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ
          คิดเป็นการประหยัดพลังงานไฟฟ้า 95,356 หน่วย/ปี คิดเป็นเงินที่ประหยัดได้จำนวน 381,425 บาท/ปี (ราคา 4 บาทต่อหน่วย) หรือเทียบเท่าการลดใช้น้ำมันดีเซล 9,426 ลิตรต่อปี คิดเป็นเงินที่ประหยัดได้ 248,760 บาท/ปี (ราคา 26.39 บาทต่อลิตร)
          นอกจากนี้ สำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี ยังอยู่ระหว่างดำเนินโครงการฯ ในระยะที่ 2 โดยจะมีการขยายผลการติดตั้งระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดไม่น้อยกว่า 2,500 วัตต์ สำหรับการเกษตร เพิ่มอีก 8 ระบบ กำลังการผลิตรวม 20,000 วัตต์ ในพื้นที่ตำบลหนองปรือ อำเภอหนองปรือ ตำบลหนองกร่าง อำเภอบ่อพลอย และตำบลหนองปลิง อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ คาดว่าจะสามารถลดการใช้พลังงาน 2.955 ตันเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อปี คิดเป็นการประหยัดพลังงานไฟฟ้า 34,675 หน่วย/ปี คิดเป็นเงินที่ประหยัดได้ 138,700 บาท/ปี หรือเทียบเท่าการลดใช้น้ำมันดีเซล 3,428 ลิตรต่อปี คิดเป็นเงินที่ประหยัดได้ 90,458 บาท/ปี
          "โครงการสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์สู้ภัยแล้งถือเป็นโครงการที่กระทรวงพลังงานจัดทำขึ้นเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการลดรายจ่าย สร้างรายได้เพิ่มครัวเรือน โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนตั้งแต่การผลิต การใช้ และการแก้ปัญหา เพื่อให้ชุมชนสามารถบริหารจัดการตนเองทางด้านพลังงานตามศักยภาพด้านพลังงานที่มีอยู่ในท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืนต่อไป ซึ่งจะช่วยให้ชุมชนสามารถผลิตพลังงานเพื่อใช้เอง ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และช่วยเสริมความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศในระยะยาวอีกด้วย" พลังงานจังหวัดกาญจนบุรี กล่าว

สพจ.กาญจนบุรี สนับสนุนระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ในภาคเกษตรกร
สพจ.กาญจนบุรี สนับสนุนระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ในภาคเกษตรกร
 

ข่าวการบริหารจัดการน้ำ+พลังงานแสงอาทิตย์วันนี้

ไทยเบฟ ยกระดับการบริหารจัดการน้ำ เสริมศักยภาพระบบเตือนภัย ครอบคลุม 11 จังหวัด พื้นที่ป่าต้นน้ำภาคเหนือ ลุ่มน้ำปิง วัง ยม และน่าน

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) สนับสนุน มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. เพื่อการติดตั้งสถานีโทรมาตรอัตโนมัติ 72 สถานีด้วยงบประมาณ 18,638,000 บาท เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และเพื่อยกระดับระบบการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ป่าต้นน้ำภาคเหนือ ลุ่มน้ำปิง วัง ยม และน่าน ครอบคลุมพื้นที่ 11 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ตาก น่าน พะเยา พิษณุโลก แพร่

สทนช. ลุยพื้นที่เสี่ยงภาคกลาง ตรวจความพร้อมระบบชลประทานเจ้าพระยาตอนล่าง ติดตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 เตรียมแผนรับมือน้ำหลากจากภาคเหนือ

สทนช. เดินหน้าลงพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง พร้อมประชุมหารือร่วมกับกรมชลประทาน เพื่อกำหนดแนวทางบริหารจัดการน้ำและติดตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 ...

กรมอุตุนิยมวิทยา และ สถาบันสารสนเทศทรัพยา... เกาะติดข้อเท็จจริง การบริหารจัดการน้ำรับมือฤดูฝน ปี 2568 — กรมอุตุนิยมวิทยา และ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. ได้มีการคาดการณ์ว่าปี 2...

สทนช. ติดตามการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก พร้อมรับมืออุทกภัยปีนี้

สทนช. บูรณาการหน่วยงานประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าชั่วคราวฯ ลุ่มน้ำโขงเหนือ เร่งติดตามความก้าวหน้าการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก การก่อสร้างพนังกั้นน้ำ และการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ รับมืออุทกภัยปีนี้ พร้อมชู "จ....

เลขาธิการ สทนช. ลงพื้นที่ จ.พะเยา ติดตามค... สทนช. ติดตามการบริหารจัดการน้ำกว๊านพะเยา พร้อมรับมืออุทกภัยตลอดฤดูฝนปีนี้ — เลขาธิการ สทนช. ลงพื้นที่ จ.พะเยา ติดตามความก้าวหน้ามาตรการรับมือฤดูฝน ปี 68 แ...

นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการคณะกร... สกพอ. จับมือ 9 หน่วยงานรัฐ เอกชน ร่วมสร้างสมดุลการใช้น้ำ สู่พื้นที่อีอีซีอย่างยั่งยืน — นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภ...

สมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) ขับเค... TCMA ผลักดันวาระสำคัญ 'น้ำ' มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพใช้งาน สร้างมูลค่า เพิ่ม GDP ประเทศ — สมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) ขับเคลื่อนแผนสนับสนุนนโยบายรัฐ น...