“ดัชนีฯ เดือนพฤษภาคม 2561 ปรับลดลงมาอยู่ระดับทรงตัวเป็นเดือนแรกในรอบ 9 เดือน โดยมีปัจจัยต่างประเทศฉุดความเชื่อมั่นจากนโยบายทางการเงินสหรัฐ และความขัดแย้งระหว่างประเทศ ขณะที่ปัจจัยในประเทศจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่น”

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือนพฤษภาคม 2561 ว่า "ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลงอยู่ในภาวะทรงตัว (Neutral) เป็นเดือนแรกในรอบ 9 เดือน โดยผลสำรวจระบุว่านักลงทุนกังวลปัจจัยจากต่างประเทศ โดยเฉพาะนโยบายทางการเงินสหรัฐฯ และปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ เป็นปัจจัยกดดันความเชื่อมั่นมากที่สุด ขณะที่นักลงทุนเชื่อมั่นว่าการลงทุนจะได้รับผลดีจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศ " 
          ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือนพฤษภาคม 2561 ได้ผลสำรวจโดยสรุป ดังนี้ 
          - ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (กรกฎาคม 2561) ลดลงมาอยู่ในเกณฑ์ "ทรงตัว" (Neutral) (ช่วงค่าดัชนี 80 - 120) โดยลดลง 22.90% จากระดับ 120.17 ในเดือนก่อน
          - ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศและกลุ่มสถาบันภายในประเทศลดลงจากการสำรวจเดือนก่อน มาอยู่ใน Zone ซบเซา (Bearish) 
          - ดัชนีความเชื่อมั่นกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์และกลุ่มนักลงทุนรายบุคคลต่างปรับตัวลดลง แต่ยังคงอยู่ใน Zone ทรงตัว (Neutral) 
          - หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือหมวดพลังงานและสาธารณูปโภค (ENERG)
          - หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือหมวดธุรกิจการเกษตร (AGRI) 
          - ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน
          - ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ นโยบายทางการเงินของสหรัฐฯ
          "ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ เดือนเมษายนเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวค่อนข้างกว้างอยู่ในช่วง 1724-1801 จุด โดยแรงกดดันการลงทุนหลักมาจากการคาดการณ์การขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ย Bond Yield ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 3% และมูลค่าขายสุทธิของนักลงทุนต่างประเทศในภูมิภาคเอเชียในช่วงนี้ และนโยบายกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ และปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ยังเป็นปัจจัยที่นักลงทุนติดตาม 
          ผลสำรวจชี้ว่าทิศทางการลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า ปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นจากความคาดหวังผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนและภาวะเศรษฐกิจในประเทศ โดยมีประเด็นติดตามความชัดเจนว่าสหรัฐฯ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้หรือไม่ หลังจากการประชุมในเดือนพฤษภาคมไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ปัญหาการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศในซีเรียและการประกาศเตรียมถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านของสหรัฐเป็นปัจจัยความเสี่ยงต่อการลงทุนมากที่สุดที่นักลงทุนติดตามอย่างใกล้ชิดถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในภูมิภาค นอกจากนี้สถานการณ์ทางการเมือง สำหรับร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการได้มาของส.ส.และส.ว. ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญและจะส่งผลต่อกำหนดการเลือกตั้ง เป็นปัจจัยเสี่ยงที่นักลงทุนในประเทศเฝ้าติดตาม สำหรับเศรษฐกิจในภูมิภาคอื่นๆ นั้น ประเด็นหลักที่ต้องพิจารณาคือ 1. อัตราการขยายตัวของ GDP จีนในไตรมาสแรกปี 2018 ที่ 6.8% เป็นไปตามคาดการณ์ ขณะที่ความไม่แน่นอนในนโยบายการค้าของสหรัฐฯ มีแนวโน้มยืดเยื้อกว่าจะได้ข้อสรุป 2.การปรับตัวผันผวนของราคาน้ำมันที่มีการเคลื่อนไหวทะลุ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศในช่วงนี้" นางวรวรรณ กล่าว
“ดัชนีฯ เดือนพฤษภาคม 2561 ปรับลดลงมาอยู่ระดับทรงตัวเป็นเดือนแรกในรอบ 9 เดือน โดยมีปัจจัยต่างประเทศฉุดความเชื่อมั่นจากนโยบายทางการเงินสหรัฐ และความขัดแย้งระหว่างประเทศ ขณะที่ปัจจัยในประเทศจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่น”
 
“ดัชนีฯ เดือนพฤษภาคม 2561 ปรับลดลงมาอยู่ระดับทรงตัวเป็นเดือนแรกในรอบ 9 เดือน โดยมีปัจจัยต่างประเทศฉุดความเชื่อมั่นจากนโยบายทางการเงินสหรัฐ และความขัดแย้งระหว่างประเทศ ขณะที่ปัจจัยในประเทศจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่น”
 
 
 
 

ข่าวo:eco+o:finวันนี้

Cimsa ผู้นำด้านวัสดุก่อสร้างจากตุรกี นำความเชี่ยวชาญระดับโลกและผลิตภัณฑ์ก้าวล้ำ บุกอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย

ชิมซา (Cimsa) ผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมวัสดุก่อสร้าง ได้สร้างความประทับใจในงาน Thailand Coatings and Construction Day 2025 ซึ่งบริษัท ดีเคเอสเอช เพอร์ฟอร์แมนซ์ แมททีเรียลส์ จัดขึ้น ณ โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี กรุงเทพฯ งานนี้ถือเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้นำในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง สารเคลือบ และความยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้มารวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนนวัตกรรมและสร้างความร่วมมือ ในฐานะผู้ผลิตปูนซีเมนต์ขาวรายใหญ่อันดับสองของโลก และผู้ผลิตแคลเซียมอะลูมิเนตซีเมนต์ (CAC) ราย

Cimsa, a global innovator in advanced bui... Cimsa Brings Global Expertise and Next-Generation Materials to Thailand's Construction Industry — Cimsa, a global innovator in advanced building materials...

นายสมสกุล วินิชบุตร (ขวา) ประธานเจ้าหน้าท... ทานตะวันอุตสาหกรรม เร่งเครื่องล่วงหน้า เสริมแกร่งรับ CBAM ระยะที่ 2 — นายสมสกุล วินิชบุตร (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงาน-บริหารธุรกิจ การเงิน และกา...