นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึง ผลการติดตามการจัดงานของดีชายแดนใต้ ซึ่งเป็นกิจกรรมภายใต้แผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โครงการส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตรในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเผยแพร่ผลงานการพัฒนาอาชีพการเกษตร ส่งเสริมการพัฒนาสินค้าเกษตร และผลิตภัณฑ์ระดับชุมชนสนับสนุนสินค้าชายแดนใต้สร้างรายได้แก่ประชาชนในพื้นที่ซึ่งในปีนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส จัดงานของดีจากชายแดนใต้ ครั้งที่ 11 ระหว่างวันที่ 1 - 10 กันยายน 2561 ณ บริเวณตลาด อ.ต.ก. จตุจักร กรุงเทพมหานคร
จากการติดตามประเมินผลการจัดงาน ของ สศก. โดยศูนย์ประเมินผล ซึ่งลงพื้นที่ประเมินการจัดงานตลอดระยะเวลา 10 วัน พบว่า มีผู้เข้าชมงาน 63,870 รายสามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรจากการจำหน่ายสินค้ามูลค่า 12.64 ล้านบาท สำหรับสินค้ายอดฮิต 3 อันดับแรก ได้แก่ ข้าวมันไก่เบตง จ.ยะลา ครองแชมป์ยอดขายเป็นอันดับหนึ่ง ยอดขาย 911,500 บาท รองลงมา เป็นกลุ่มแม่บ้านฟาตอนียะลา จ.ยะลา จำหน่ายอาหารแปรรูป เช่น เนื้อสวรรค์ เนื้อเค็ม ข้าวหมกไก่ แกงไตปลา ยอดขาย 387,500 บาท และกลุ่มครอบครัวมีดเลาะตาสับปะรด จ.ยะลา จำหน่ายมีดเลาะตาสับปะรด สับปะรดผลสด สับปะรดกวน ยอดขาย 325,000 บาท
ภาพรวมเกษตรกรร้อยละ 73 พึงพอใจต่อการจัดงาน เนื่องจากช่วยสร้างโอกาสและเพิ่มช่องทางการกระจายสินค้า 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเห็นว่าการจัดงานดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเสมอมา นอกจากนี้ ผู้ที่เข้าชมงาน ร้อยละ 97 เห็นว่าการมาเที่ยวชมงานในครั้งนี้คุ้มค่า เนื่องจากได้มีโอกาสมาจับจ่ายสินค้าที่มีคุณภาพ ราคาถูก ซึ่งร้อยละ 93 จะกลับมาเที่ยวชมงานอีกหากมีการจัดงานครั้งต่อไปแน่นอน เนื่องจากเป็นการสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น และเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ได้ทานอาหารท้องถิ่นดั้งเดิมที่มาจากชายแดนใต้ของจริง และสถานที่ยังสะดวกในการจับจ่ายซื้อขายอีกด้วย
ทั้งนี้ การจัดงานของดีจากชายแดนใต้ ซึ่งดำเนินการจัดงานต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 11 ซึ่งผลการจัดงานตลอดมาได้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการนำสินค้ามาจำหน่าย ช่วยสร้างรายได้ ผู้บริโภครู้จักสินค้าหลากหลายชนิดมากขึ้น ซึ่งบางชนิดไม่มีการจำหน่ายในตลาดทั่วไป ที่สำคัญคือ เป็นการส่งเสริมความรัก ความสามัคคีในชุมชน กลุ่มเกษตรกร รวมทั้งวิสาหกิจชุมชนต่างๆ ได้อย่างดีอีกด้วย
ต้นแบบแปลงใหญ่ 'ตะไคร้บ้านวงฆ้อง' จ.กำแพงเพชร รวมกลุ่มผลิตมาตรฐาน GAP สร้างรายได้ หนุนเศรษฐกิจชุมชน
เลขาธิการ สศก. เตรียมนำทีม ลุย Crop Cutting ภาคสนามเพชรบูรณ์ 27 ตุลาคมนี้ ลงพื้นที่แปลงข้าวโพดเกษตรกร ยกระดับข้อมูลแม่นยำพืชเศรษฐกิจของประเทศ
ของดีเมืองสงขลา 'ส้มโอหอมควนลัง' GI เกษตรกรรวมกลุ่มผลิตส้มโอคุณภาพ ออกตลาด ต.ค. - พ.ย. นี้
'แปลงใหญ่ทั่วไป (ข้าว)' จ.สุพรรณบุรี ผลิตข้าว GAP คุณภาพ แหล่งให้บริการเครื่องจักรกลการเกษตรในพื้นที่ สร้างรายได้ให้กลุ่ม 810,000 บาท/ปี
สศท.12 ชวนศึกษาวิถี เกษตรอินทรีย์ 'บ้านสวนน้อยชมจันทร์' จ.เพชรบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบยั่งยืน
สศท.5 หนุน 'ผำ' อาหารแห่งอนาคต สู่โปรตีนทางเลือกยุคใหม่ ตามนโยบายเกษตรมูลค่าสูง
โครงการปรับปรุงคลองส่งน้ำ ท่ามะกา ระยะ 5 ช่วยเกษตรกร 40 ครัวเรือน ผลผลิตและรายได้เพิ่ม
ปีนี้ ไม้ผลภาคใต้ 4 ชนิด ผลผลิตรวม 6.7 แสนตัน สศท.8 ชวนบริโภค 'ลองกอง' ในฤดู ก.ย. - ต.ค. นี้ ออกตลาด ร้อยละ 42
สศก. ลงพื้นที่สมุทรสาคร หนุนเกษตรกรเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม GAP ชี้ได้เปรียบทั้งคุณภาพและความปลอดภัย