ฟิทช์เพิ่มอันดับเครดิตของ TMB, TBANK, TCAP และ UOBT และคงอันดับเครดิตของธนาคารขนาดกลางและขนาดเล็ก

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB และธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TBANK เป็น 'AA-(tha)' จาก 'A+(tha)' และเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัททุนธนชาต จำกัด (มหาชน) (TCAP) ซึ่งบริษัทโฮลดิ้ง (holding company) ของ TBANK เป็น 'A+(tha)' จาก 'A(tha)' และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นเป็น 'F1+(tha)' จาก 'F1(tha)' โดยทั้ง 3 บริษัทมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ พร้อมกันนี้ฟิทช์ได้ปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 (ตามเกณฑ์บาเซล 3) เป็น 'A+(tha)' จาก 'A(tha)' และเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating หรือ VR) ของธนาคารยูโอบี (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ UOBT เป็น 'bbb-' จาก 'bb+' 

          นอกจากนี้ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตอื่นของ TMB TBANK และ UOBT และอันดับเครดิตของธนาคารและสถาบันการเงินไทยที่เป็นบริษัทลูกของสถาบันการเงินต่างประเทศ ดังนี้:
          - ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT
          - ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ BOCT 
          - ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ICBCT 
          - บริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด หรือ ICBCTL

          และฟิทช์คงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของ บริษัท ซีไอเอ็มบี ไทย ออโต้ จำกัด หรือ CIMBT Auto ซึ่งค้ำประกันโดย CIMBT

          สำหรับรายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงไว้ในส่วนท้าย
          ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – อันดับเครดิตสากล อันดับเครดิตภายในประเทศและอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
          อันดับเครดิตสากลและอันเครดิตภายในประเทศของ TMB มีปัจจัยสนับสนุนมาจากความแข็งแกร่งทางการเงินของตัวธนาคารเอง ซึ่งสะท้อนได้จากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคาร (หรือ VR) การปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ TMB เนื่องจากฟิทช์ประเมินว่าโครงสร้างเครดิต (credit profile) ระหว่าง TMB กับ ธนาคารพาณิชย์เอกชนรายใหญ่ที่มีอันดับเครดิตที่สูงกว่านั้นมีความแตกต่างกันในระดับที่น้อยลง เช่น ในด้านคุณภาพสินทรัพย์ ทั้งนี้ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ดังกล่าวมีอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ 'AA+(tha)' ในขณะที่มีอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินที่ 'bbb+' ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลของประเทศไทย ('BBB+'/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ฟิทช์คาดว่าความแตกต่างในโครงสร้างเครดิตระหว่าง TMB กับ ธนาคารขนาดใหญ่ที่ลดลงแล้วนั้นจะสามารถทรงตัวได้ต่อเนื่องตลอดวัฎจักรเศรษฐกิจ (through economic cycle)
          อันดับเครดิตภายในประเทศของ TBANK มีปัจจัยสนับสนุนมาจากความแข็งแกร่งทางการเงินของตัวธนาคารเอง การปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ TBANK สะท้อนถึงโครงสร้างการเงินของธนาคารที่ได้ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านคุณภาพสินทรัพย์ ซึ่งส่งผลให้โครงสร้างเครดิตของ TBANK เมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่ในประเทศที่มีอันดับเครดิตสูงกว่านั้นมีความแตกต่างน้อยลง ทั้งนี้ TBANK เป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 6 ในประเทศไทยในด้านเงินฝากและมีความแข็งแกร่งของเครือข่ายธุรกิจภายในประเทศในระดับปานกลาง (a moderate franchise) ในขณะที่ TBANK เป็นผู้นำในด้านธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และยังได้รับการสนับสนุนทางด้านการดำเนินงาน การระดมทุน (funding) และการบริหารจัดการจาก Bank of Nova Scotia (หรือ BNS: AA-/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) โดย BNS มีสัดส่วนการถือหุ้น 49% ใน TBANK
          ในการพิจาณาอันดับเครดิตของ TCAP ฟิทช์ปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศของ TCAP ลง 1 อันดับ จากอันดับเครดิตของ TBANK ซึ่งเป็นบริษัทลูกหลักของกลุ่ม เพื่อสะท้อนถึงการด้อยสิทธิทางโครงสร้าง (Structural Subordination) ของ TCAP ในฐานะบริษัทโฮลดิ้ง และสัดส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย (Minority Interests) ที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งสอดคล้องกับเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์
          ฟิทช์ใช้ปัจจัยสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นที่เป็นสถาบันการเงินในการพิจารณาอันดับเครดิตของธนาคารลูก (หรือบริษัทลูก) รายอื่นที่เหลือ โดยฟิทช์เชื่อว่าธนาคารลูกน่าจะได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษที่นอกเหนือจากในการดำเนินงานปรกติ (extraordinary support) ในกรณีที่มีความจำเป็นจากธนาคารแม่ของธนาคารแต่ละแห่ง ซึ่งได้แก่ Bank of China (Hong Kong) Limited. ('A'/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) Industrial and Commercial Bank of China ('A'/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) United Overseas Bank Limited (UOB, 'AA-'/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) และ CIMB Bank Berhad (CIMB Bank) ทั้งนี้ฟิทช์มองว่าธนาคารลูกนั้นมีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อธนาคารแม่และกลุ่ม เนื่องจากการที่ธนาคารแม่มีสัดส่วนการถือหุ้นในระดับสูง มีอำนาจควบคุมการบริหารงานในธนาคารลูกและมีการเชื่อมโยงการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกันกับกลุ่มในระดับสูง (integration) อีกทั้งยังมีการใช้ชื่อและสัญลักษณ์ทางการค้าร่วมกันกับธนาคารแม่ 
          สำหรับ ICBCTL ฟิทช์มองว่าบริษัทมีสถานะเป็นบริษัทลูกหลัก (core subsidiary) ของ ICBCT จึงพิจารณาให้อันดับเครดิตของ ICBCTL อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศของ ICBCT ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ทั้งนี้ ICBCTL เป็นผู้ดำเนินธุรกิจเช่าซื้อซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของ ICBCT โดยสินเชื่อเช่าซื้อมีสัดส่วนประมาณหนึ่งในสามของสินเชื่อรวมของธนาคาร
          อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและโครงการหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของทุกธนาคาร (หรือบริษัท) ได้รับการจัดอันดับเครดิตให้อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศของแต่ละธนาคาร (หรือบริษัท) ซึ่งสอดคล้องกับเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของฟิทช์

          ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – หุ้นกู้มีผู้ค้ำประกัน
          ฟิทช์ให้อันดับเครดิตหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของ ICBCTL ซึ่งค้ำประกันโดย ICBCT ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศของ ICBCT ที่ 'AAA(tha)' เพื่อสะท้อนถึงการได้รับการค้ำประกันในลักษณะไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้สำหรับการชำระหนี้ที่ค้างชำระภายใต้หุ้นกู้ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันนั้นสอดคล้องกับแนวโน้มอันดับเครดิตของผู้ค้ำประกัน
          ในส่วนของ CIMBT Auto ก็เช่นกัน การได้รับการค้ำประกันในลักษณะไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้จาก CIMBT เป็นปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของ CIMBT Auto ทั้งนี้ CIMBT เป็นผู้ถือหุ้นโดยตรงในสัดส่วน 99.99% ใน CIMBT Auto

          ปัจจัยสนับสนุนอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน
          การปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ UOBT สะท้อนถึงการที่ธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีโดยเฉพาะในด้านของรายได้และด้านการระดมเงิน (funding) และสภาพคล่อง ซึ่งฟิทช์คาดว่าธนาคารน่าจะรักษาการปรับตัวที่ดีขึ้นดังกล่าวไว้ได้ในระยะปานกลาง อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ UOBT ยังสะท้อนถึงเครือข่ายทางธุรกิจของธนาคารที่มีขนาดเล็ก (โดยมีเงินฝากเป็นอันดับที่ 8 ในประเทศไทย คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดที่ประมาณ 3%) และมีการกระจายตัวของรายได้ในระดับที่ไม่มากนัก อย่างไรก็ตามแม้เครือข่ายธุรกิจจะมีขนาดเล็กแต่ธนาคารมีความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้อันดับเครดิตของ UOBT ยังสะท้อนถึงการสนับสนุนในการดำเนินงานปรกติจากธนาคารแม่ ซึ่งคือ UOB เช่น การสนับสนุนในด้านการตลาด การบริหารจัดการ และการระดมเงิน 
          อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ TMB สะท้อนถึงสถานะทางการเงินของธนาคารและการที่ธนาคารมีเครือข่ายธุรกิจในประเทศที่มีขนาดปานกลาง โดย TMB เป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 7 ในประเทศไทย ในด้านเงินฝาก คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดที่ประมาณ 5% ฐานะทางการเงินของ TMB ได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและปรับเข้ามาใกล้เคียงมากขึ้นกับธนาคารขนาดใหญ่โดยเฉพาะในด้านคุณภาพสินทรัพย์ ทั้งนี้ฟิทช์คาดว่า TMB น่าจะรักษาฐานะทางการเงินของธนาคารให้มีเสถียรภาพได้ในระดับหนึ่ง แม้ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของธนาคาร (risk appetite) จะมีทิศทางที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SME) และกลุ่มธุรกิจสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย 

          ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – อันดับเครดิตสนับสนุน (Support Rating) และ อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ (Support Rating Floor) 
          อันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำของ TMB พิจารณาจากปัจจัยการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยอันดับเครดิตสนับสนุนที่ 'BB+' สะท้อนถึงความสำคัญของธนาคารต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินในประเทศไทย (systemic importance) ในฐานะที่ TMB เป็นธนาคารขนาดกลาง และอันดับเครดิตสนับสนุนนี้อยู่ต่ำกว่าธนาคารประเภท D-SIBs อยู่ 1 อันดับ 
          อันดับเครดิตสนับสนุนของ UOBT สะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ที่คาดว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่ UOBT จะได้รับการสนับสนุนจากธนาคารแม่ซึ่งคือ UOB

          ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ
          การปรับเพิ่มอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิของ TMB ที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3 (Basel III-compliant Tier 2 subordinated unsecured notes) เป็นผลมาจากการปรับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ TMB หุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวได้รับการจัดอันดับเครดิตให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารอยู่ 1 อันดับ เพื่อสะท้อนถึงความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss-severity risks) ที่มากกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิ และการที่ข้อกำหนดสิทธิไม่ได้มีการบังคับตัดหนี้สูญทั้งจำนวน (mandatory full write-down) 
          ในหลักการเดียวกัน ฟิทช์ให้อันดับเครดิตภายในประเทศแก่หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3 ของ ICBCT และ UOBT ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของแต่ละธนาคาร 1 อันดับ เนื่องจากข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวไม่มีคุณสมบัติในการรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption feature) และไม่มีการบังคับให้ตัดหนี้สูญทั้งจำนวน (mandatory full write-down) 

          ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับเครดิตสากล อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
          อันดับเครดิตสากล อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ TMB อาจได้รับผลกระทบในทิศทางเดียวกันกับการเปลี่ยนแปลงของอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคาร 

          ฟิทช์อาจปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศของ TBANK หากธนาคารมีโครงสร้างการดำเนินธุรกิจ (company profile) ที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และส่งผลให้โครงสร้างทางการเงินของธนาคารปรับตัวดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ในทางกลับกันอันดับเครดิตอาจถูกปรับลดอันดับหากผลการดำเนินงานของธนาคารที่ได้ปรับตัวดีขึ้นกลับปรับตัวแย่ลงอย่างมากเมื่อเทียบกับธนาคารรายอื่นในประเทศ แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เป็นประมาณการพื้นฐานของฟิทช์ (base case) 
          การเปลี่ยนแปลงในอันดับเครดิตของ TBANK น่าจะส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันต่ออันดับเครดิตของ TCAP นอกจากนี้ฟิทช์อาจจะปรับอันดับเครดิตของ TCAP ให้ห่างจาก TBANK มากขึ้น หากอัตราส่วนเงินลงทุนในบริษัทลูกและสินทรัพย์ไม่มีตัวตนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (double leverage ratio) ของ TCAP ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยไม่มีความสามารถในการรองรับความเสี่ยงสภาพคล่องที่เพียงพอ
          อันดับเครดิตภายในประเทศของ BOCT, ICBCT และ ICBCTL เป็นอันดับเครดิตที่อยู่ในระดับสูงสุด จึงไม่มีปัจจัยใดที่อาจทำให้อันดับเครดิตได้รับการปรับเพิ่ม อย่างไรก็ตามฟิทช์อาจปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศของ BOCT ICBCT และ ICBCTL ในกรณีที่อันดับเครดิตของบริษัทแม่ถูกปรับลดอันดับต่ำกว่าอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาว (Long-Term Local Currency IDR) ของประเทศไทย นอกจากนี้ฟิทช์อาจปรับอันดับเครดิตของธนาคารลูก หากฟิทช์มองว่ามีการเปลี่ยนแปลงของโอกาสที่ธนาคารแม่จะให้การสนับสนุนพิเศษที่นอกเหนือจากการสนับสนุนในด้านการดำเนินงานปรกติแก่ธนาคารลูก ทั้งนี้กรณีดังกล่าวอาจเกิดขึ้นหากธนาคารแม่ลดสัดส่วนการถือหุ้นลงอย่างมีนัยสำคัญหรือมีระดับการให้การสนับสนุนทางการเงินที่ลดลง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวอาจบ่งชี้ถึงการลดลงของโอกาสในการให้การสนับสนุนและน่าจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตของธนาคาร 
          อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ UOBT เป็นอันดับเครดิตที่อยู่ในระดับสูงสุด จึงไม่มีปัจจัยใดที่อาจทำให้อันดับเครดิตได้รับการปรับเพิ่ม ในขณะเดียวกันอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ UOBT จะได้รับผลกระทบในทิศทางเดียวกันกับการเปลี่ยนแปลงของเพดานอันดับเครดิตของประเทศไทย (Country Ceiling) ซึ่งปัจจุบันเป็นปัจจัยที่จำกัดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างระยะยาวของ UOBT ที่ 'A-' ในขณะที่ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ UOB อาจไม่จะส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของ UOBT ในทิศทางเดียวกันเสมอไป ทั้งนี้ฟิทช์อาจปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ UOBT ในกรณีที่ UOB ถูกปรับลดอันดับเครดิตลงหลายอันดับจากระดับปัจจุบันที่ 'AA-' 
          ฟิทช์อาจปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศของ CIMBT หากโครงสร้างเครดิตของธนาคารแม่ (หรือ CIMB Bank) ปรับตัวแย่ลงหรือหากธนาคารแม่ลดโอกาสในการให้การสนับสนุนเป็นพิเศษที่นอกเหนือจากการสนับสนุนในด้านการดำเนินงานปรกติแก่ธนาคารลูก ทั้งนี้การลดลงของโอกาสในการให้การสนับสนุนอาจจะแสดงได้จากการลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทลูกลงอย่างมาก หรือการลดลงของระดับการสนับสนุนทางการเงิน เป็นต้น 
          อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ UOBT CIMBT และ ICBCTL จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันกับการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตภายในประเทศของธนาคารแต่ละแห่ง (หรือบริษัท)

          ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – หุ้นกู้มีผู้ค้ำประกัน
          อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของ ICBCTL เป็นอันดับเครดิตที่อยู่ในระดับสูงสุด จึงไม่มีโอกาสที่อันดับเครดิตจะได้รับการปรับเพิ่ม อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของ ICBCTL อาจได้รับผลกระทบจากการปรับลดอันดับเครดิตของ ICBCT

          สำหรับ CIMBT Auto ก็เช่นกัน อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของบริษัทจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ CIMBT

          ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน
          อันดับความเข็งแกร่งทางการเงินของ TMB อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับ หากธนาคารมีเครือข่ายธุรกิจในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญพร้อมทั้งมีอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ (core financial metrics) ส่วนใหญ่ เช่น อัตราส่วนทางการเงินในด้านรายได้และเงินกองทุน ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและต่อเนื่องในระยะปานกลาง โดยที่ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้น ในทางกลับกันอันดับความเข็งแกร่งทางการเงินอาจได้รับผลกระทบในทางลบถ้าผลการดำเนินงานและอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญมีการปรับตัวลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับทั้งธนาคารอื่นในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ตัวอย่างเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นจากการปรับตัวแย่ลงมากกว่าคาดการณ์ในสภาวะแวดล้อมการดำเนินงาน
          ฟิทช์อาจปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ UOBT หากธนาคารสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรให้ปรับตัวดีขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีเครือข่ายและขนาดธุรกิจในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้นและสามารถเทียบเคียงได้กับธนาคารขนาดกลางของไทยรายอื่น แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น ในทางกลับกันฟิทช์อาจปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารหากความสามารถในการทำกำไร คุณภาพสินทรัพย์ และฐานะเงินกองทุนปรับตัวแย่ลงอย่างมาก ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ธนาคารเพิ่มระดับความเสี่ยงที่มากกว่าคาดการณ์

          ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ
          ฟิทช์อาจปรับอันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำของ TMB หากฟิทช์เชื่อว่ามีการเปลี่ยนแปลงในความสำคัญของ TMB ต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินในประเทศ 
          อันดับเครดิตสนับสนุนของ UOBT ที่ '1' เป็นอันดับเครดิตสนับสนุนที่สูงที่สุดจึงไม่มีปัจจัยใดที่อาจทำให้อันดับเครดิตได้รับการปรับเพิ่ม

          ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ
          อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิของ TMB ICBCT และ UOBT จะได้รับผลกระทบในทิศทางเดียวกันจากปัจจัยที่มีผลกระทบต่ออันดับเครดิตภายในประเทศของแต่ละธนาคาร

          รายละเอียดของอันดับเครดิตมีดังต่อไปนี้:
          TMB:
          - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว คงอันดับที่ 'BBB-'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
          - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ 'F3'
          - อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน คงอันดับที่ 'bbb-'
          - อันดับเครดิตสนับสนุน คงอันดับที่ '3'
          - อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ คงอันดับที่ 'BB+'
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ปรับเพิ่มอันดับเป็น 'AA-(tha)' จาก 'A+(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ 'F1+(tha)' 
          - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ของโครงการหุ้นกู้ Euro Medium-Term Note มูลค่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ คงอันดับที่ 'BBB-'
          - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับเครดิตที่ 'BBB-'
          - อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 (ตามเกณฑ์บาเซล 3) ปรับเพิ่มอันดับเป็น 'A+(tha)' จาก 'A(tha)'

          TBANK
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ปรับเพิ่มอันดับเป็น 'AA-(tha)' จาก 'A+(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับเครดิตที่ F1+(tha)

          TCAP
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ปรับเพิ่มอันดับเป็น 'A+(tha)' จาก 'A (tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นปรับเพิ่มอันดับเป็น 'F1+(tha)' จาก 'F1(tha)'

          UOBT:
          - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'A-'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
          - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F2'
          - อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน ปรับเพิ่มอันดับเป็น 'bbb-' จาก 'bb+'
          - อันดับเครดิตสนับสนุนคงอันดับที่ '1'
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AAA(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)'
          - อันดับเครดิตในประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันคงอันดับที่ 'AAA(tha)'
          - อันดับเครดิตในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3 คงอันดับที่ 'AA+ (tha)'

          CIMBT:
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AA-(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)'
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของโครงการหุ้นกู้ระยะสั้น ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ 'F1+(tha)'

          CIMBT Auto:
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันคงอันดับที่ 'AA-(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

          BOCT:
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AAA(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)'

          ICBCT:
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AAA(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)'
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 (ตามเกณฑ์บาเซล 3) คงอันดับที่ 'AA+(tha)'

          ICBCTL:
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AAA(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)'
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ค้ำประกันโดย ICBCT คงอันดับที่ 'AAA(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
          - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ 'AAA(tha)'
          - อันดับเครดิตภายในประเทศของโครงการหุ้นกู้ MTN คงอันดับที่ 'AAA(tha)'/'F1+(tha)'
 
 
 

ข่าวฟิทช์ เรทติ้งส์+ธนาคารขนาดกลางวันนี้

BAFS เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ชูดอกเบี้ย 4.75 - 5.10% ต่อปี คาดเปิดจองซื้อแก่ "สถาบัน-รายใหญ่" วันที่ 9 - 14 พ.ค. นี้ รองรับการขยายตัวธุรกิจในอนาคต

BAFS เตรียมออกหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี 9 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ [ 4.75 5.10 ] % ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือ "BBB (tha)" จาก ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) เตรียมเสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน นักลงทุนรายใหญ่ คาดจองซื้อระหว่างวันที่ 9 และ 13 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย), บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส และ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี ม.ล. ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล

ฟิทช์คงอันดับเครดิตของ บล. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ 'AA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LHS ที่ 'AA(tha)' และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น ...

ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส และ บจก.แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค ในเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ (Rating Watch Negative; RWN) ของอันดับเครดิต บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) และบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ท...