“สทนช.” รุก ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งภาคอีสานปลุกหน่วยงานเกี่ยวข้องประเมินสถานการณ์ พร้อมบูรณาการความร่วมมือ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ลงพื้นที่เกาะติดสถานการณ์ภัยแล้งของภาคอีสาน ชี้แนวโน้มฝนลดลง ย้ำไม่นอนใจ มอบทุกหน่วยงานเกี่ยวข้อง เตรียมแผนบูรณาการรับสถานการณ์ใกล้ชิด 
          นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เผยหลังรับฟังการบรรยายสรุปแผนการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้ง ปี 2561/2562 ของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น และลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ที่สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า บ้านโนนฆ้อง ต.บ้านผือ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ว่า สืบเนื่องจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นภูมิภาคที่มีการทำเกษตรมากที่สุดของประเทศ รวม 63.85 ล้านไร่ แต่มีพื้นที่ชลประทานเพียง 6.38 ล้านไร่ หรือ 10% ของพื้นที่การเกษตร ซึ่งเกษตรกรต้องอาศัยน้ำฝนเป็นหลักในการทำการเกษตร จึงทำให้ปริมาณของผลผลิตขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศเป็นหลัก สทนช. จึงหาแนวทางในการปรับปรุงการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป โดยได้ดำเนินโครงการศึกษาติดตามและประเมินผลการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำกลุ่มลุ่มน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มลุ่มน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีปัญหาการขาดแคลนน้ำ เนื่องจากมีแหล่งเก็บน้ำรวม 12,440.17 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) หรือ 21.95% ของปริมาณน้ำท่า แต่มีมีความต้องการใช้น้ำในปัจจุบันรวม 27,524.68 ล้าน ลบ.ม. หรือ 2.21 เท่าของปริมาณกักเก็บ ทั้งนี้ในอนาคตเมื่อประชากรเพิ่มขึ้นและภาคอุตสาหกรรมขยายตัวมากขึ้นปัญหาความต้องการน้ำก็จะยิ่งมากขึ้น โดยเฉพาะน้ำเพื่อการเกษตรยังขาดแคลนถึง 11,500 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี ส่วนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคได้เกือบเต็ม 100% สอดคล้องกับเป้าหมายของแผนยุทธศาสตร์น้ำและตัวชี้วัด SDGs ที่มุ่งเน้นให้ครัวเรือนมีน้ำสะอาดสำหรับดื่มและใช้อย่างทั่วถึงเท่าเทียมกัน
          สำหรับในช่วงฤดูแล้งของปี 2561 ต่อเนื่อง 2562 สทนช. ได้ประสานบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยในส่วนของกรมชลประทานได้เร่งประสานหน่วยงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ทั้งหน่วยงานด้านประมง ปศุสัตว์ เกษตร อุตสาหกรรม และสิ่งแวดล้อม เพื่อกำหนดมาตรการในการบริหารจัดการน้ำในสภาวะภัยแล้งร่วมกัน ในส่วนของแหล่งน้ำขนาดใหญ่ สทนช. ได้มอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งรับผิดชอบเขื่อนใหญ่ ปรับแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพราะช่วงหลังจาก 15 ตุลาคม ไปแล้ว ปริมาณฝนจะลดน้อยลง จึงควรพิจารณาเก็บน้ำไว้ในเขื่อนให้มากที่สุดโดยลดการระบายน้ำลง ทั้งนี้ การดำเนินงานของทุกส่วนงานจะบูรณาการความร่วมมือบนพื้นฐานข้อมูลชุดเดียวกันเป็นหลัก 
          นายสมเกียรติ กล่าวต่ออีกว่า จากแนวโน้มการคาดการณ์ฝนที่ลดลงดังกล่าว ศูนย์เฉพาะกิจฯ ได้แจ้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงข้อสั่งการและข้อห่วงใยของรองนายกรัฐมนตรี (พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ) ที่มอบหมายให้ สทนช. ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อกำหนดแผนปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบในแผนการบริหารจัดการน้ำและการปฏิบัติการฝนหลวง ที่จะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักก่อนสิ้นสุดฤดูฝนตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ในกลางเดือนตุลาคมนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีความต้องการใช้น้ำในการทำการเพาะปลูกจำนวนมาก สทนช. จึงเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแผนปรับลดการระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำทุกขนาด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีน้ำต้นทุนน้อย เพื่อเร่งกักเก็บน้ำให้มีปริมาณน้ำใช้พอเพียงตลอดฤดูแล้งนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการหารือถึงแผนปฏิบัติการเพื่อลดผลกระทบในพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แล้งล่วงหน้าไว้แล้ว โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรจะต้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
“สทนช.” รุก ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งภาคอีสานปลุกหน่วยงานเกี่ยวข้องประเมินสถานการณ์ พร้อมบูรณาการความร่วมมือ
 
“สทนช.” รุก ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งภาคอีสานปลุกหน่วยงานเกี่ยวข้องประเมินสถานการณ์ พร้อมบูรณาการความร่วมมือ
“สทนช.” รุก ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งภาคอีสานปลุกหน่วยงานเกี่ยวข้องประเมินสถานการณ์ พร้อมบูรณาการความร่วมมือ
“สทนช.” รุก ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งภาคอีสานปลุกหน่วยงานเกี่ยวข้องประเมินสถานการณ์ พร้อมบูรณาการความร่วมมือ
 
 

ข่าวสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ+สำนักงานทรัพยากรน้ำวันนี้

"รมต.ภราดร" เผยไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพประชุมคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ 32 มุ่งสานต่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลบริหารจัดการเขื่อน ลดผลกระทบจากระดับน้ำเปลี่ยนแปลงฉับพลัน

"รมต.ภราดร" ขึ้นแท่นประธานคณะมนตรี MRC ปี 68 นั่งหัวโต๊ะประชุมคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย พิจารณากรอบการหารือการประชุมคณะมนตรี MRC ครั้งที่ 32 พร้อมติดตามคาดการณ์สถานการณ์น้ำและการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำลุ่มน้ำโขง วันนี้ (27 ตุลาคม 2568) นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ครั้งที่ 2/2568 โดยมี นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พร้อมด้วยหน่วยงานที่

สทนช. ระดมทุกหน่วยเดินหน้าคลี่คลายพื้นที่ท่วมขังหลังฝนตอนบนลดลง

เตรียมปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา พร้อมจับตาฝนตกหนักต่อเนื่องภาคใต้ สทนช. หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เห็นชอบปรับลดการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ เหลือ 10 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน พร้อมเตรียมทยอยปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อช่วย...

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติ... เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา — สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่า จะ...

สทนช. เปิดศูนย์ส่วนหน้าฯ "ลุ่มน้ำยม-น่าน" จับมือทุกหน่วย คุมจราจรน้ำจากเหนือสู่เจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน

สทนช. เปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำยม-น่าน ระดมทุกหน่วยจัดการจราจรน้ำที่ไหลจากภาคเหนือก่อนลงสู่อ่าวไทย โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ...

สทนช. ลุยพื้นที่เสี่ยงภาคกลาง ตรวจความพร้อมระบบชลประทานเจ้าพระยาตอนล่าง ติดตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 เตรียมแผนรับมือน้ำหลากจากภาคเหนือ

สทนช. เดินหน้าลงพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง พร้อมประชุมหารือร่วมกับกรมชลประทาน เพื่อกำหนดแนวทางบริหารจัดการน้ำและติดตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 ...

สทนช. ติดตามการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก พร้อมรับมืออุทกภัยปีนี้

สทนช. บูรณาการหน่วยงานประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าชั่วคราวฯ ลุ่มน้ำโขงเหนือ เร่งติดตามความก้าวหน้าการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก การก่อสร้างพนังกั้นน้ำ และการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ รับมืออุทกภัยปีนี้ พร้อมชู "จ....