สทนช. ระดมทุกหน่วยเดินหน้าคลี่คลายพื้นที่ท่วมขังหลังฝนตอนบนลดลง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

เตรียมปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา พร้อมจับตาฝนตกหนักต่อเนื่องภาคใต้

สทนช. หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เห็นชอบปรับลดการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ เหลือ 10 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน พร้อมเตรียมทยอยปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อช่วยเหลือจังหวัดท้ายเขื่อน เร่งฟื้นฟูความเสียหายให้ประชาชนกลับมาดำรงชีวิตตามปกติได้โดยเร็ว

วันนี้ (22 ตุลาคม 2568) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ อาคารจุฑามาศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยเลขาธิการ สทนช. เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงปลายฤดูฝนและกำลังเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา โดยปริมาณฝนในพื้นที่ตอนบนเริ่มลดลง ส่งผลให้สถานการณ์น้ำในภาพรวมมีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ ซึ่ง สทนช. ได้บูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งระบายน้ำที่ยังท่วมขังอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ให้กลับสู่ภาวะปกติ โดยที่ประชุมมีมติให้ปรับลดการระบายน้ำของเขื่อนสิริกิติ์แบบขั้นบันได จากเดิม 20 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวัน เหลือ 10 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน และคงการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล ไว้ที่ 10 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายเขื่อน และช่วยลดปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.2 จังหวัดนครสวรรค์

จากนั้นจะทยอยปรับลดการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อลดปริมาณน้ำในแม่น้ำและเร่งระบายน้ำท่วมขังออกจากจังหวัดท้ายเขื่อน ก่อนเข้าเร่งฟื้นฟูความเสียหาย ช่วยให้ประชาชนสามารถกลับมาดำรงชีวิตตามปกติ โดยคาดว่าในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้อาจจะสามารถปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในอัตราประมาณ 2,100 ลบ.ม. ต่อวินาที และในช่วงสัปดาห์ที่ 2 - 3 ของเดือนพฤศจิกายน จะสามารถทยอยระบายน้ำออกจาก 11 ทุ่งลุ่มต่ำเจ้าพระยาที่ใช้ในการหน่วงน้ำในช่วงที่ผ่านมา เพื่อให้เกษตรกรเตรียมพื้นที่สำหรับการเพาะปลูกต่อไป ในส่วนของพื้นที่เหนือเขื่อนภูมิพล บริเวณอำเภอฮอดและอำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้ประสบปัญหาน้ำท่วมถนน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้จัดเตรียมเส้นทางสัญจรชั่วคราวเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนในพื้นที่ไว้แล้ว และเมื่อระดับน้ำในพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาคลี่คลายลง จะมีการพิจารณาปรับเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนภูมิพล เพื่อเร่งบรรเทาผลกระทบในพื้นที่เหนือเขื่อนโดยเร็ว

ทั้งนี้ แม้ว่าปัจจุบันจะเป็นช่วงเวลาที่ฝนในพื้นที่ตอนบนและตอนกลางของประเทศลดน้อยลง แต่ถือเป็นช่วงเริ่มต้นของฤดูฝนในภาคใต้ โดยคาดว่าตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป ภาคใต้จะมีฝนตกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ประชุมจึงได้กำชับให้มีการเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะจุดเสี่ยงต่าง ๆ ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้เตรียมพร้อมในการรับมือ ทั้งด้านบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ และอุปกรณ์ให้ความช่วยเหลือ ให้มีความพร้อมปฏิบัติการได้ทันทีหากเกิดเหตุ เพื่อช่วยป้องกันและบรรเทาความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ เนื่องจากในปีนี้เขื่อนหลายแห่งมีปริมาณน้ำมากถึงร้อยละ 80 - 90 ของความจุเก็บกัก ที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณน้ำไหลเข้าย้อนหลัง โดยคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อใช้ประกอบการคาดการณ์และวางแผนการจัดสรรน้ำได้อย่างเหมาะสมตลอดช่วงฤดูแล้งที่จะมาถึงนี้ ไปจนถึงช่วงต้นฤดูฝนปี 2569 พร้อมทั้งใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำต่อไป


ข่าวสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ+สำนักงานทรัพยากรน้ำวันนี้

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประกาศฉบับที่ 25/2568 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง ช่วงวันที่ 9-18 ต.ค.นี้

ด้วยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาจากกรมอุทกศาสตร์ โดยคาดหมายระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า และพื้นที่ใกล้เคียง ในระหว่างวันที่ 9 18 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 06.00 17.00 น. เป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยคาดหมายระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า และพื้นที่ใกล้เคียงอาจมีความสูงประมาณ 1.70 1.90 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และลมตะวันออกพัดปกคลุม ทำให้มีฝนตกในบางพื้นที่

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติ... เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา — สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่า จะ...

สทนช. เปิดศูนย์ส่วนหน้าฯ "ลุ่มน้ำยม-น่าน" จับมือทุกหน่วย คุมจราจรน้ำจากเหนือสู่เจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน

สทนช. เปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำยม-น่าน ระดมทุกหน่วยจัดการจราจรน้ำที่ไหลจากภาคเหนือก่อนลงสู่อ่าวไทย โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ...

สทนช. ลุยพื้นที่เสี่ยงภาคกลาง ตรวจความพร้อมระบบชลประทานเจ้าพระยาตอนล่าง ติดตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 เตรียมแผนรับมือน้ำหลากจากภาคเหนือ

สทนช. เดินหน้าลงพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง พร้อมประชุมหารือร่วมกับกรมชลประทาน เพื่อกำหนดแนวทางบริหารจัดการน้ำและติดตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 ...

สทนช. ติดตามการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก พร้อมรับมืออุทกภัยปีนี้

สทนช. บูรณาการหน่วยงานประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าชั่วคราวฯ ลุ่มน้ำโขงเหนือ เร่งติดตามความก้าวหน้าการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก การก่อสร้างพนังกั้นน้ำ และการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ รับมืออุทกภัยปีนี้ พร้อมชู "จ....