CDIP เสนอทางแก้ปัญหาสับปะรดล้นตลาด ด้วยนวัตกรรมและการวิจัย พร้อมเป็นศูนย์ One Stop Solutionเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          ปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาดเป็นสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงที่เกษตรกรเริ่มนำผลผลิตที่ผลิตในแต่ละฤดูกาลออกมาจำหน่าย แล้วพบว่าราคาในช่วงนั้นตกต่ำ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการมีสินค้าจากเกษตรกรหลายราย สินค้ามีจำนวนมากเกินกว่าความต้องการของผู้บริโภค และเมื่อเกษตรกรหรือผู้ประกอบการไม่สามารถขายสินค้าได้ตามที่หวัง นอกจากจะขาดทุนแล้ว สินค้าเกษตรจำนวนมากจะถูกกองไว้จนเน่าเสียทิ้งไป
          สิ่งที่ ดร.สิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีดีไอพี (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน หรือ CDIPได้กล่าวถึงการแก้ปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาด ในงานสัมมนา CDIP Open House 2018 ครั้งที่ 2 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2561ที่ผ่านมาโดยเฉพาะการแก้ปัญหาสับปะรดล้นตลาด ซึ่งเป็นสิ่งที่เกษตรกรผู้ผลิตสับปะรดจำนวนมากกำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ ว่าถ้าหากเรานำนวัตกรรม การวิจัยและการพัฒนามาแปรรูปสับปะรด จะสามารถช่วยเกษตรกรแก้ปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี
          สับปะรดสามารถแปรรูปเป็นสินค้าได้หลากหลาย ซึ่งต้องใช้การวิจัยและพัฒนาเข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็น อาหารเสริม สามารถนำมาแปรรูปเป็นไฟเบอร์ช่วยเรื่องการขับถ่าย สารสกัดเข้มข้นจากสับปะรด และเอนไซม์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ส่วนการนำมาแปรรูปเป็นอาหารและเครื่องดื่ม ต้องนำนวัตกรรมมาเป็นตัวช่วยด้วย ไม่ใช่แค่ผลิตเป็นน้ำสับปะรดเพียงอย่างเดียว แต่สามารถต่อยอดได้เป็น น้ำสับปะรด 3 in 1 สำหรับไว้ชงดื่ม หรือจะนำมาผลิตเป็นเครื่องดื่มเสริมสร้างพลังงาน อย่าง Energy Gelและ Energy Bar เพราะสับปะรดเป็นแหล่งพลังงานชั้นเลิศ เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบออกกำลังกาย แล้วต้องการเพิ่มพลังงานชดเชยที่สูญเสียไปและสำหรับในกลุ่มเครื่องสำอาง สับปะรดสามารถนำมาแปรรูปเป็น สบู่ ยาสระผม ครีมทาผิว ไวท์เทนนิ่งและสครับขัดผิวได้อีกด้วย
          จะเห็นได้ว่า หากเกษตรกรหรือผู้ประกอบการนำผลผลิตสับปะรดมาต่อยอดเป็นสิ่งเหล่านี้ นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาสินค้าล้นตลาดได้แล้ว ยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตได้มากกว่าเดิมถึง 10 เท่าเลยทีเดียว ไม่เพียงแค่นั้น การส่งออกสินค้าเหล่านี้ไปยังต่างประเทศ เรามีสับปะรดหลาย ๆ สายพันธุ์ที่หาได้เฉพาะในไทย เช่นสับปะรดภูแล และสับปะรดฉีกตาเมื่อนำมาแปรรูปแล้ว สามารถแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้
          แปรรูปสินค้าจากสับปะรดให้แตกต่างได้ด้วยนวัตกรรม
          การแปรรูปสับปะรดให้เป็นสินค้า ไม่ว่าจะเป็น น้ำสับปะรด สบู่ ยาสระผม ครีมทาหน้า และครีมทาผิว เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็สามารถผลิตได้เหมือนกัน ซึ่งในการแข่งขันทางธุรกิจ ถ้าคุณต้องการจะเป็นผู้อยู่รอด คุณต้องสร้างนวัตกรรมให้กับตัวสินค้าเพื่อสร้างความแตกต่าง โดยนวัตกรรมเกิดมาจากการวิจัยและพัฒนา การนำส่วนผสมที่มีประโยชน์อื่น ๆ เช่นวิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ มาเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้าของคุณ วันนี้ CDIP สามารถทำได้ อย่างที่เราทำให้กับสินค้าอื่น ๆ ไปแล้วอย่างมากมาย
          สิ่งสำคัญที่ CDIP ทำคือการวิจัยและพัฒนา เพื่อคิดค้นนวัตกรรมต่าง ๆ ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า CDIP ตั้งอยู่ที่อุทยานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ด้วยความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ ทั้งทุนสนับสนุน ความช่วยเหลือจากนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ เราจึงสามารถพัฒนานวัตกรรม และให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการที่อยากเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของตน ตลอดจนช่วยในเรื่องการผลิต ไปจนถึงการขึ้นทะเบียนกับองค์การอาหารและยา หรือ อย. ให้กับผู้ประกอบการอีกด้วย
          CDIP จะเป็นศูนย์ One Stop Solution ที่ไม่ใช่แค่เพียงแก้ปัญหาให้กับผู้ประกอบการในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเพียงครั้งเดียว แต่เป็นการแก้ปัญหาสินค้าล้นตลาด และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าได้ เราต้องทำให้ได้อย่างยั่งยืน การจัดสัมมนา CDIP Open House แต่ละครั้ง จึงเพื่อเป็นการเปิดกว้างให้ผู้ประกอบการได้มองเห็นโอกาสในการพัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลาย สำหรับใครที่มีปัญหาอยากพัฒนาสินค้า เดินเข้ามาหาเรา เราก็จะวิจัยและพัฒนาให้ หากไม่มีเงินทุนในการวิจัยเราช่วยให้คุณเข้าถึงแหล่งเงินทุนสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐต่าง ๆ อาทิ สวทช. สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และสำนักงานกองทุนและสนับสนุนการวิจัยเป็นต้น เมื่อพัฒนาสินค้าสร้างนวัตกรรมให้กับสินค้าได้แล้ว แต่คุณไม่มีแหล่งผลิต เราสามารถช่วยให้คุณผลิตสินค้าด้วยโรงงานเครือข่ายของ CDIP โดยมั่นใจได้เลยว่าเป็นโรงงานที่ถูกกฎหมาย 100% และเหนือสิ่งอื่นใดที่เราจะทำมาทั้งหมดจะสมบูรณ์แบบไม่ได้เลย ถ้าสินค้าไม่ถูกขึ้นทะเบียนกับ อย. โดยเราสามารถดำเนินการในส่วนนี้ให้ได้
          ยกตัวอย่าง โรงงานในเครือของเรา เช่น บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัดเป็นโรงงานที่มีประสบการณ์มานานกว่า 40 ปี และอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพชั้นนำของประเทศจำนวนมาก มีทะเบียน อย. การันตีมากกว่า 1,500 ใบ
          หากคุณเป็นเกษตรกร หรือผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าเกษตร เช่น สับปะรด คุณเดินเข้ามาที่ CDIP เพียงที่เดียว คุณจะได้รับสินค้าตัวใหม่กลับไปสร้างกำไรด้วยผลผลิตของคุณได้อย่างแน่นอน
          นอกจากนี้ สำหรับใครที่อยากเสริมสร้างองค์ความรู้ในการพัฒนาสินค้า โดยเฉพาะสินค้าผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ หรือ Health Careที่ CDIP ถนัดมากที่สุด เราได้เปิดสถาบันฝึกอบรม IOI ซึ่งมีหลักสูตรหลากหลาย ตั้งแต่การแปรรูปสินค้า ความรู้ด้านการประกอบธุรกิจ การขึ้นทะเบียน อย. ไปจนถึงการสอนก่อตั้งโรงงานที่ได้มาตรฐาน ทางเรามองว่า องค์ความรู้เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการทุกคนจำเป็นต้องมีก่อนเริ่มดำเนินธุรกิจด้วยตัวของตัวเอง
          CDIP คือ One Stop Solution ช่วยเหลือผู้ประกอบการที่อยากพัฒนาสินค้า
          1) เราช่วยวิจัยและพัฒนานวัตกรรมให้กับสินค้าของคุณ
          2) เราช่วยคุณเข้าถึงแหล่งเงินทุนสนับสนุนการวิจัย
          3) เราช่วยคุณผลิตสินค้าในโรงงานที่ได้มาตรฐาน
          4) เราช่วยคุณนำสินค้าขึ้นทะเบียน อย.
          5) เราช่วยเสริมสร้างองค์ความรู้ในการดำเนินธุรกิจให้กับคุณ

          ดร.สิทธิชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า "อยากฝากถึงเกษตรกรหรือผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าเกษตร ไม่ว่าจะเป็น สับปะรด ลำไย ลองกอง มังคุด และทุเรียน อย่ารอให้สินค้าล้นตลาดแล้วค่อยนำสินค้าเกษตรเหล่านี้มาแปรรูป คุณสามารถนำสินค้าเกษตรที่คุณผลิตมาแปรรูปเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงได้เลย ซึ่งการจะเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงได้ คุณต้องสร้างนวัตกรรมให้กับสินค้า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติที่มีค่ามากมาย โดยเฉพาะสินค้าเกษตร พืชพันธุ์ธัญญาหาร หากสินค้าเหล่านี้ถูกผลิตเป็นสินค้าที่มีนวัตกรรม เมื่อนำไปขายในต่างประเทศ เราจะแข่งขันได้อย่างดีเลยทีเดียว และที่สำคัญ ในอนาคตปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาดก็จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป"

CDIP เสนอทางแก้ปัญหาสับปะรดล้นตลาด ด้วยนวัตกรรมและการวิจัย พร้อมเป็นศูนย์ One Stop Solutionเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
 
CDIP เสนอทางแก้ปัญหาสับปะรดล้นตลาด ด้วยนวัตกรรมและการวิจัย พร้อมเป็นศูนย์ One Stop Solutionเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
 

ข่าวสิทธิชัย แดงประเสริฐ+ผู้ประกอบการวันนี้

JSP เปิด 4 ปัจจัยหนุนราคายาปี 67 เพิ่มกว่า 20% เหตุต้นทุนส่วนผสมพุ่งทั่วโลก มองตลาดอาหารเสริม-สมุนไพรได้อานิสงส์เทรนด์ดูแลสุขภาพเชิงป้องกันมาแรง

JSP มองปีหน้าราคายาพุ่งขั้นต่ำ 20% จาก 4 ปัจจัย ทั้งเหตุความไม่สงบระหว่างประเทศ ต้นทุนขนส่งพุ่ง สังคมผู้สูงวัย และต้นทุนการผลิตโดยรวมเพิ่มขึ้น ชี้ต้นทุนรักษาพยาบาลกว่า 65% เป็นราคายา หากราคายาปรับสูงขึ้น จะส่งผลผู้คนเข้าถึงการรักษาน้อยลง แต่หนุนเทรนด์ดูแลสุขภาพเชิงป้องกันเติบโตโดดเด่น มองเป็นโอกาสตลาดสมุนไพรและอาหารเสริม แนะรัฐหนุนผู้ประกอบการสมุนไพรไทยเข้าถึงกระบวนการผลิตได้มาตรฐานส่งออก พร้อมเผยปีหน้า JSP มีโอกาสรับลูกค้า OEM สมุนไพรมากขึ้น นายสิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

กระแสแรงดีไม่มีหยุด หุ้นน้ำดีอีกรายที่ต้อ... JSP ฮอตเว่อร์ "เมธา สิมะวรา" ขึ้นแท่นผถห.เบอร์ใหญ่ มั่นใจผลงานโตเกินต้าน คาดสตอรี่ปีนี้โต 20-30% — กระแสแรงดีไม่มีหยุด หุ้นน้ำดีอีกรายที่ต้องจับตา "JSP หร...

บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศ... JSP ส่งซิกปี 66 เทิร์นอะราวด์ — บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) หรือ JSP หลังจากปีที่ผ่านมาเดินหน้ารุกลงทุนอย่างต่อเนื่อง ปี 66 นี้...

ดร.ภากร ปีตธวัชชัย (ซ้าย) กรรมการและผู้จั... JSP สุดปลื้มคว้ารางวัล Outstanding Innovative Company Awards 2022 — ดร.ภากร ปีตธวัชชัย (ซ้าย) กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้เกียรติมอ...

นายนวพล จันทร์จุฑามาศ (คนซ้าย) ประธานเจ้า... NV ผนึกกำลัง JP ร่วมออกบูธงาน งาน Care Asia 2022 — นายนวพล จันทร์จุฑามาศ (คนซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่ บริษัท โนวา ออร์แกนิค จำกัด (มหาชน) หรือ NV ผู้ผลิต...