นายสิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (JSP) เปิดเผยว่า ราคายาและค่ารักษาพยาบาลโดยรวมในหลายประเทศในปี 2025 ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการสำรวจของฝ่ายวิจัยพบว่า ราคายาทั่วโลกปรับขึ้นจากปี 2024 ประมาณ 10.4% โดยราคายาในสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นประมาณ 4.5% - 5.0% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นที่ต่ำกว่า 10% เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายควบคุมราคาในสหรัฐฯ ขณะที่ราคายาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ราคายาเพิ่มขึ้น อยู่ที่ 12.3% ซึ่งถือเป็นภูมิภาคที่มีแนวโน้มค่าใช้จ่ายทางการแพทย์โดยรวมเพิ่มขึ้นสูงสุดในโลก
สำหรับปัจจัยหลักที่ทำให้ราคายาปรับตัวสูงขึ้นในปี 2025 ประกอบด้วย
- ยามีการใช้นวัตกรรมที่สูงขึ้นส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงตาม โดยเฉพาะยาที่ใช้รักษาโรคเรื้อรังและโรคหายาก เช่น มะเร็ง, โรคภูมิต้านตนเอง, และการบำบัดด้วยยีนบำบัด/เซลล์บำบัด เป็นยาที่มีความซับซ้อนในการวิจัยและพัฒนาสูงมาก ทำให้มีราคาเริ่มต้นในการเปิดตัว (Launch Price) ที่สูงมาก
- ปัญหาเงินเฟ้อและต้นทุนการดำเนินงาน อัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการผลิตยา เช่น ราคาวัตถุดิบ การขนส่ง และพลังงาน รวมถึงค่าแรงในภาคบริการสุขภาพ ส่งผลต่อต้นทุนด้านบุคลากรทางการแพทย์ (พยาบาล, เภสัชกร, นักวิจัย) ที่เพิ่มสูงขึ้นจากความต้องการที่สูงขึ้นและการขาดแคลนแรงงาน ก็ส่งผลต่อค่าบริการทางการแพทย์และราคายาด้วย
- ต้นทุนการวิจัยและพัฒนา (R&D)ความซับซ้อนของการวิจัยแม้ว่าผลตอบแทนการลงทุนจากการวิจัยและพัฒนาจะดีขึ้น แต่ ต้นทุน R&D เฉลี่ยต่อยาใหม่หนึ่งตัว ยังคงอยู่ในระดับสูง เนื่องจากกระบวนการวิจัยทางคลินิกมีความซับซ้อนและมีข้อกำหนดด้านกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น
นอกจากนี้ JSP ยังประเมินว่าราคายาจะมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องจากนี้ไปอย่างน้อยปีละ 10% จากปัจจัยนี้ส่งผลให้เทรนด์การดูแลสุขภาพก่อนป่วยจึงได้รับความนิยมจากทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานที่เริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพอย่างจริงจัง รวมถึงเทรนด์การกินอาหารเป็นยา (Food as Medicine) ด้วยการเลือกกินอาหารเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันและจัดการโรค โดยเน้นอาหารจากธรรมชาติ สมุนไพร และอาหารฟังก์ชันที่มีประโยชน์เฉพาะทาง เช่น ผัก ผลไม้ ปลาทะเล โยเกิร์ต และอาหารออร์แกนิค เพื่อบำรุงสุขภาพกายและจิตใจ กลายเป็นเมกะเทรนด์ที่ขยายออกไปสู่ผู้คนทั่วโลก ซึ่งเทรนด์นี้เป็นปัจจัยหนุนสำคัญให้เกิดการขยายตัวของตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารสกัดจากพืชและสมุนไพร เนื่องจากช่วยให้การได้รับสารอาหารครบตามปริมาณที่ร่างกายต้องการได้สะดวกรวดเร็ว และเป็นทางเลือกสำหรับวัยทำงานที่มีเวลาจำกัด ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันก่อนป่วย
ทั้งนี้เทรนด์ดังกล่าวยังสนับสนุนให้ยอดขายในส่วนของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของ JSP ภายใต้แบรนด์ "สุภาพโอสถ" มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยยอดขายในปีนี้คาดว่าจะทำได้ที่ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 845.9 ล้านบาท และคาดว่าในอนาคตยอดขายจะยังเติบโตตามเทรนด์ที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นเพราะไม่อยากเจ็บป่วยอีกทั้งยังหลีกเลี่ยงราคายารักษาโรคที่มีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี
JSP ตั้งเป้าปีนี้ธุรกิจ OEM เติบโต10%ครึ่งปีหลังเล็งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ป้อนลูกค้าเต็มสูบ ชูจุดเด่นเป็นผู้นำโรงงานผลิตอาหารเสริมที่ได้มาตรฐานโรงงานยา
JSP หนุน GWM เข้าตลาด LiveX ปูทางสู่ผู้นำนวัตกรรมดูแลผู้ป่วยไต เปิดโครงสร้างธุรกิจ 4บ.ย่อย ผนึกกำลังสู่'Health Innovation Group'
JSPเผยโควิดระบาดรอบใหม่หนุนคนไทยปรับไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพมากขึ้น มั่นใจปีนี้ยอดขายทะลุเป้ารับอานิสงส์อาหารเสริมกลุ่มวิตามิน-ยาสมุนไพรพุ่ง
JSP โชว์ฟอร์มร้อนแรง Q3/66 กำไร 35 ล้านบาท บ.ลูกธุรกิจน้ำยาฟอกไตมาแรงสุดอู้ฟู่ - รายได้สินค้า Own Brand โตต่อเนื่อง
JSP ส่ง CDIP ร่วมเครือข่าย Thailand OECD-GLP Preclinical Testing ลง MOU กับ TCELS ปฏิวัติการทดสอบความปลอดภัยผลิตภัณฑ์สุขภาพไทยสู่ตลาดโลก
JSP กดปุ่มเดินเครื่องโรงงานใหม่ แคร์ซูติก' รับผลิตเครื่องสำอาง-อาหารเสริมคนและสัตว์ เจาะกลุ่ม MSMEs-สตาร์ตอัป-วงการแม่ค้าออนไลน์
JSP ร่วมโชว์ศักยภาพงานสัมมนาสมาคมร้านขายยาประจำปี ดึง MEDIS เปิดตัวตู้ยาอัตโนมัติ 24 ชม. แห่งแรก กระแสเปรี้ยง
JSP ผนึกกำลัง "เมดิส คอร์ปอเรชั่น" เปิดโมเดลแฟรนไชส์ตู้ขายยาเจ้าแรก ตอกย้ำ!! เบอร์หนึ่งแพลตฟอร์มตู้จำหน่ายยาสามัญประจำบ้าน 24 ชั่วโมง