นายอุตตมฯ กล่าวว่า "ยุทธศาสตร์ Factory 4.0" มองทั้ง 4 มิติเชื่อมโยงกันเป็นระบบ โดยภาคการผลิตคือผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมที่มีอยู่กว่า 1.5 แสนรายทั่วประเทศจะเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ รัฐจะให้กับสนับสนุนส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีประสิทธิภาพการผลิตมากขึ้น ช่วยลดต้นทุนและความยุ่งยากในการใช้บริการกับภาครัฐลงให้มากที่สุดดังเช่นนโยบายการยกเลิกการต่ออายุใบ รง.4 แต่ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการโรงงานต้องใส่ใจและดูแลองค์ประกอบสำคัญของเศรษฐกิจฐานรากอีก 3 ส่วนคือ
1. สิ่งแวดล้อมในพื้นที่ต้องมีการดูแลรักษาและปกป้องอย่างจริงจัง โดยมิติใหม่ของโรงงานจะเป็น "ผู้สร้างไม่ใช่ผู้ทำลาย"
2. การพัฒนาชุมชนให้ให้เข้มแข็งมี "ทุนสะสม" ที่ชุมชนจะใช้หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของเขาได้เอง
และ 3. การพัฒนาคนในโรงงานและในชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สร้างงานและอาชีพเสริมที่เชื่อมโยงหรือจ้างช่วงจากโรงงาน โดยเฉพาะผู้สูงวัยในภาคการผลิตที่จะกลับสู่ชุมชน คนเหล่านี้ต้องอยู่ได้โดย "ไม่เป็นภาระลูกหลาน" ซึ่งรัฐและเอกชนจะร่วมมือกันดูแล
"ปัจจัยสำเร็จของการช่วยยกระดับชุมชนคือการส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ประกอบการโรงงานสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต (Productivity) ให้ดีขึ้นเพื่อให้ธุรกิจเกิดความเข้มแข็งมีแรงขับเคลื่อนเสมือนหัวรถจักรที่จะช่วยดึงภาคชุมชนและสิ่งแวดล้อมรอบข้างให้เข้มแข็งเช่นกัน ภาคเอกชนเป็นกลไกในการช่วยเหลือชุมชน ส่วนภาครัฐเป็นผู้หนุนเสริมเชิงนโยบาย"
โดยในแผนยุทธศาสตร์นี้ผลพลอยได้สำคัญคือการจัดทำฐานข้อมูลสำคัญที่ยังไม่มีการทำมาก่อน นั่นคือ "Big Data ภาคอุตสาหกรรม" ซึ่งจะเกิดขึ้นพร้อมกับกระบวนการทำการรับรองตนเองของผู้ประกอบการ "Self-Declaration" ซึ่งฐานข้อมูลนี้จะมีความสำคัญมากต่อการกำหนดนโยบายพัฒนาภาคการผลิตของไทยทั้งระบบของรัฐบาลในอนาคต
นายอุตตมฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า "ผมให้ความสำคัญทั้ง 4 ส่วนซึ่ง 4 ส่วนนี้ต้องหลอมเป็นเนื้อเดียวกันเศรษฐกิจของประเทศจึงจะเดินหน้าและพัฒนาสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ได้สำเร็จ ผู้ประกอบการภาคการผลิตทั่วประเทศต้องเข้มแข็งมีพละกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศและเศรษฐกิจพื้นที่ของตน ผู้ประกอบการต้องใส่ใจปกป้องดูแลสิ่งแวดล้อมโดยรอบโรงงานจริงจัง มีการส่งเสริมพัฒนาชุมชนรอบข้างให้อยู่ได้เพื่อเป็นเครือข่ายสนับสนุนโรงงาน และต้องช่วยเหลือคนในชุมชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเพราะนั่นคือแรงงานที่มีค่าของกิจการ นี่คือเป้าหมายที่ผมอยากเห็นและจะทำต่อเนื่องแน่นอนเมื่อมีโอกาสในอนาคต
ด้าน นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงฯ ได้วาง Road Map ในการขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติ และที่ผ่านมากระทรวงฯ ได้จัดตั้งคณะทำงานร่วมกับสภาอุตสาหกรรมฯ ได้แก่ คณะทำงานพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ คณะทำงานแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการประกอบการอุตสาหกรรม คณะทำงานพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงพื้นที่ คณะทำงานเพื่อการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs และคณะทำงานพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน ซึ่งคณะทำงานนี้มีการพัฒนาและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมร่วมกันอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งถือได้ว่าเป็นกลไกร่วมสำคัญระหว่างกระทรวงฯ และสภาอุตสาหกรรมฯ ในการขับเคลื่อนนโยบายทั้ง 4 ด้าน ทั้งในด้านการพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม การส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs และ ชุมชน การพัฒนาแรงงานภาคอุตสาหกรรม รวมไปถึงการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบ สู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมต่อไป
ในส่วนของนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สภาฯ พร้อมมีส่วนร่วมและให้การสนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงอุตสาหกรรมในทุกด้าน ทั้งในส่วน ของการใช้ระบบกำกับดูแลโรงงานรูปแบบใหม่ นอกจากนี้ จะผลักดันให้สมาชิกที่มีศักยภาพช่วยเหลือการพัฒนาวิสาหกิจ SMEs และชุมชน ผ่านกลไก Big Brother ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การสนับสนุนเครื่องจักรต้นแบบ การยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การให้คำปรึกษา และการจับคู่ธุรกิจของผู้ประกอบการ รวมทั้งส่งเสริมให้สมาชิกนำแนวคิด Circular Economy ไปขับเคลื่อนและขยายผลตลอดห่วงโซ่คุณค่าของกระบวนการทางธุรกิจ และในส่วนของการพัฒนาแรงงานในภาคอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมฯ จะสนับสนุนการพัฒนาแรงงานในภาคอุตสาหกรรมผ่านกลไก Big Brother โดยครอบคลุมทั้งการพัฒนากำลังคนในโรงงานผ่านโครงการทวิภาคี และการส่งเสริมการจ้างงานผู้เกษียณอายุ และการพัฒนาคนในชุมชน เช่น การสนับสนุนพื้นที่ขายสินค้าภายในโรงงานสำหรับคนในชุมชน โครงการเปลี่ยนประเทศไทยด้วยการศึกษาในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ เป็นต้น
ปตท.สผ. คว้ารางวัลสูงสุดจากเวที Climate Action Awards 2025 สะท้อนความโดดเด่นในการดำเนินงานด้าน Decarbonization
SAPPE ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน ผนึกกำลัง TIPMSE และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในงานรวมพลังขับเคลื่อน EPR เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นวัตถุดิบ
"นิปปอนเพนต์" แบรนด์สีหนึ่งเดียวที่เหนือชั้นกว่า คว้ารางวัลเชิดชูเกียรติสูงสุด "Climate Action Excellence" โดย ส.อ.ท. พิสูจน์ความตั้งใจ การันตีองค์กรผู้นำด้านความยั่งยืนในทุกมิติ
OR ได้รับรางวัล Climate Action Excellence ตอกย้ำการเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่อนาคตยั่งยืน
ส.อ.ท. จับมือ CBS-กสิกร-บพค. ยกระดับ SMEs ไทยสู่ SMART SMEs ด้วย Digital & AI
กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี สอท. พร้อมดึงเทคโนโลยีเม็ดพลาสติกรีไซเคิล สนับสนุนอุตสาหกรรมไทยสู่ S-Curve หนุนทุกภาคส่วนนำพลาสติกใช้แล้วกลับมาเป็นวัตถุดิบครบวงจร
เบเยอร์คว้ารางวัล Climate Action Award ตอกย้ำผู้นำสีรักษ์โลกอันดับหนึ่ง มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero
TCMA คว้ารางวัล 'Outstanding Contribution' Climate Action Award 2025 ตอกย้ำบทบาทองค์กรศักยภาพ นำอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ขับเคลื่อนลดคาร์บอน
ส.อ.ท. จัด Climate Change Forum 2025 ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่เป้า Net Zero บางจากฯ คว้ารางวัลสูงสุด Climate Change Award องค์กรต้นแบบด้าน Climate Action