การประชุมดังกล่าว Mr. Jose Graziano da Silva ผู้อำนวยการใหญ่ของ FAO ได้เน้นย้ำในที่ประชุม ถึงความจำเป็นในการดำเนินการด้านโภชนาการ โดยนำเสนอให้เห็นถึงความอดอยากหิวโหยได้กลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 อีกทั้งแนวโน้มการเติบโตของโรคอ้วนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในเอเชียและแอฟริกา ดังนั้น การให้ความสำคัญด้านโภชนาการ การเพิ่มบทบาทของสตรีในชนบท และการดำเนินงานด้านเกษตรกรรมแบบครอบครัว เป็นสิ่งจำเป็นในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับความมั่นคงอาหารและโภชนาการ
ด้าน Mr. David Beasley ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของโครงการอาหารโลก (World Food Programme: WFP) ได้กล่าวในที่ประชุมว่า รายจ่ายของ WFP กว่าร้อยละ 80 อยู่ในเขตสงคราม โดยระบุว่า ความขัดแย้งทำให้เกิดความอดอยากหิวโหย ประชาชน ไม่สามารถเข้าถึงอาหารได้ และเรียกร้องให้มีการพัฒนาด้านมนุษยธรรมควบคู่ไปด้วย ขณะเดียวกัน ทาง Mr. Cornelia Richter รองประธานกองทุนระหว่างประเทศเพื่อพัฒนาเกษตรกรรม (International Fund for Agricultural Development: IFAD) กล่าวถึงความจำเป็นในการพัฒนาระบบอาหารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีในภาคเกษตร เช่น การเกษตรแม่นยำ (Precision Agriculture) อีกทั้งให้ความสำคัญกับแนวทางการพัฒนาความร่วมมือ โดยมุ่งเน้นไปที่การผลิตอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการตลอดห่วงโซ่คุณค่า และบทบาทของเกษตรกรรายย่อย
โอกาสเดียวกันนี้ เลขาธิการ สศก. ได้อภิปรายเสนอความเห็นในที่ประชุมเกี่ยวกับรายงานเรื่อง "ความเป็นหุ้นส่วนระหว่าง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนเพื่อสนับสนุนเงินทุนและพัฒนาความมั่นคงอาหารและโภชนาการ" โดยเน้นย้ำความสำคัญของการดำเนินความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการส่งเสริมความมั่นคงอาหารและโภชนาการ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการดำเนินนโยบายประชารัฐภาคเกษตร เพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการร่วมกันระหว่างภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร (Public–Private Partnership) ในการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต โดยใช้ความก้าวหน้าของภาคเอกชนในการบริการจัดการ พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี รวมถึงการตลาดในภาคการเกษตรอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ CFS เป็นเวทีการประชุมนานาชาติด้านความมั่นคงด้านอาหารของโลก เพื่อติดตามสถานการณ์ นโยบาย แลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดีของประเทศสมาชิก ตลอดจนจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายแบบสมัครใจ ซึ่งไทยสามารถนำมาปรับใช้ในการกำหนดนโยบายบายความมั่นคงด้านอาหารและยุทธศาสตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ ซึ่งปัจจุบัน สมาชิกของ CFS ประกอบด้วยประเทศสมาชิกของ UN, FAO, IFAD และ WFP รวมถึงภาคประชาสังคม โดยจัดประชุมเป็นประจำในเดือนตุลาคมของทุกปี
เลขาธิการ สศก. เตรียมนำทีม ลุย Crop Cutting ภาคสนามเพชรบูรณ์ 27 ตุลาคมนี้ ลงพื้นที่แปลงข้าวโพดเกษตรกร ยกระดับข้อมูลแม่นยำพืชเศรษฐกิจของประเทศ
สศท.12 ชวนศึกษาวิถี เกษตรอินทรีย์ 'บ้านสวนน้อยชมจันทร์' จ.เพชรบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบยั่งยืน
โครงการปรับปรุงคลองส่งน้ำ ท่ามะกา ระยะ 5 ช่วยเกษตรกร 40 ครัวเรือน ผลผลิตและรายได้เพิ่ม
สศก. ลงพื้นที่สมุทรสาคร หนุนเกษตรกรเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม GAP ชี้ได้เปรียบทั้งคุณภาพและความปลอดภัย
สศก. จัดสัมมนาระดมความเห็น ดึงแพลตฟอร์ม "AgriDataProv" ขับเคลื่อนการเกษตรด้วย Big Data สู่จังหวัดยุคดิจิทัล
สศก. ติดตามความก้าวหน้าโครงการจัดการความเสื่อมโทรมของที่ดิน ด้วยแนวคิด LDN มุ่งสู่การใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน
สศท.6 ชวนเช็คอิน 'สวนผลอำไพ' จ.ตราด แหล่งเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ สร้างมูลค่าเพิ่มเชื่อมโยงการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
โครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรชีวภาพ หนุนเกษตรกรสร้างรายได้จากสมุนไพร-แมลงเศรษฐกิจ
สศท.6 ชี้ผลสำเร็จโครงการนำร่องการแก้ไขปัญหาลดผลกระทบจากช้างป่า พื้นที่บ้านหนองกระทิง จ.ฉะเชิงเทรา ช่วยเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ลดรายจ่ายครัวเรือน