เดล คาร์เนกี (ประเทศไทย) ผู้นำด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากร ด้านการวิจัยภาวะผู้นำ และให้คำปรึกษาทางธุรกิจระดับโลกมากว่า 106 ปี ได้ให้ความสำคัญและตั้งคำถามถึงปัจจัยใดที่ส่งผลต่อระดับศักยภาพของประเทศหรือองค์กร จากหลายงานวิจัยในตลอดร้อยปี และจากผลงานวิจัยล่าสุด "Leadership Blind Spots จุดบอดผู้นำไทยและผู้นำโลก" ที่เกิดจากการสำรวจผู้คน 3,300 คน ใน 4 ทวีป กว่า 14 ประเทศทั่วโลก ที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไป ผ่านแบบสอบถามออนไลน์ ค้นพบว่าปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการขับเคลื่อนระดับประเทศหรือองค์กร นั่นคือผู้นำ จากผลวิจัยเผย "4 จุดบอดใหญ่ของผู้นำ" ที่มีผลต่อศักยภาพรวมของทั้งสังคมและองค์กร นั่นคือ การไม่ฟังอย่างตั้งใจ ขาดการชื่นชมอย่างจริงใจ ไม่เสมอต้นเสมอปลาย และไม่ยอมรับผิด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดวิกฤติศรัทธา ลดความน่าเชื่อถือและทำลายความจงรักภักดี โดยมีเพียง 17% ของคนทั่วโลกเท่านั้นที่พึงพอใจกับผู้นำในปัจจุบันของตน จากการศึกษาและวิจัยของเดล คาร์เนกี พบว่า ผู้นำที่แก้ไขจุดบอดทั้ง 4 กลับทำให้ความพึงพอใจของผู้อื่นเพิ่มเป็น 36% หรือกว่า 2 เท่า งานวิจัยระบุว่า 4 จุดบอดสำคัญนี้ หากผู้นำตระหนักจะเป็นโอกาสและเป็นหนทางสู่การเป็นสุดยอดผู้นำที่คนทั่วโลกและประเทศไทยต้องการนั่นคือ จริงใจ ยอมรับผิด ชื่นชมและรับฟัง
ดร.ปรียกร มิมะพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ เดล คาร์เนกี (ประเทศไทย) กล่าวว่า "ผู้นำไม่ว่าจะเป็นผู้นำประเทศ ผู้นำชุมชน ผู้นำองค์กรหรือแม้กระทั่งผู้นำครอบครัว ล้วนเป็นบทบาทที่ซับซ้อน และถูกคาดหวังสูง ต้องอาศัยการมีวิสัยทัศน์ การคิดเชิงกลยุทธ์ การมองภาพแบบบูรณาการและความเข้าใจในด้านอื่น ๆ อีกมาก ซึ่งความสามารถที่กล่าวมาทั้งหมดของผู้นำนี้ไม่ได้เป็นข้อบ่งชี้ว่า หากมีความสามารถด้านใดด้านหนึ่งอย่างโดดเด่นจะทำให้ได้รับความร่วมมือ ความน่าเชื่อถือหรือคะแนนนิยมจากคนหมู่มากได้ ซึ่งงานวิจัยจากเดล คาร์เนกี ล่าสุดระบุว่า พฤติกรรมของผู้นำที่นำไปสู่การได้รับความนิยมและความร่วมมือ ตลอดจนการมีส่วนร่วมของคนในองค์กร ชุมชน หรือแม้แต่ในครอบครัวในระดับสูงได้ผู้นำเหล่านั้นล้วนต้องมีพฤติกรรมใน 4 ข้อต่อไปนี้
1. ผู้นำที่ได้ใจคนหมู่มากต้องให้เกียรติและ ยกย่องชื่นชมผู้อื่นอย่างจริงใจ
85% ของผู้ตอบแบบสอบถามจากทั่วโลก ระบุว่า การเห็นคุณค่าและได้รับการยอมรับจากผู้นำ นำมาซึ่งความต้องการในการทำงานให้ผลงานออกมาดีที่สุด และ 76% ระบุอีกว่า ผู้นำที่กล่าวคำยกย่องชมเชยและยอมรับในคุณค่าและความสามารถอย่างจริงใจ จะเป็นแรงบันดาลใจและแรงผลักดันในการทำงานมากกว่าผู้นำที่มุ่งผลงานเพียงอย่างเดียว ดังนั้น "การมองหาจุดดีและชื่นชมในจุดแข็ง หลีกเลี่ยงการวิพากษ์วิจารณ์ ประณามผู้อื่น เป็นพฤติกรรมที่ผู้นำควรปฏิบัติเพื่อให้เกิดการยอมรับและความร่วมมืออย่างแท้จริง ผู้นำที่ทำเช่นนี้ได้จะได้รับการนับถือมากกว่าการใช้วิธีทำลายความน่าเชื่อถือของอีกฝ่าย
2. ผู้นำที่ได้ใจคนหมู่มาก ต้องนำความผิดพลาดมาเป็นบทเรียน
ความผิดพลาดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุก ๆ คนไม่เว้นแม้แต่ผู้นำ งานวิจัยจากเดล คาร์เนกี เผยว่า 81% ระบุว่าผู้นำจะเป็นแรงบันดาลใจให้เขาได้เมื่อยอมรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น แม้บางครั้งอาจจะไม่ใช่ความผิดของตนโดยตรงแต่อยู่ในสายบังคับบัญชาหรือองค์กรของตน ซึ่งความจริงใจนี้จะนำมาซึ่งความน่าเชื่อถือ การให้โอกาสและความศรัทธาจากผู้อื่น เดล คาร์เนกี ชี้ว่าเมื่อเกิดความผิดพลาด ผู้นำควรตระหนักได้ว่าเราต้องรับผิดชอบ 100% ยอมรับ เรียนรู้จากความผิดพลาดและนำมาซึ่งการรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
3. ผู้นำที่ได้ใจจากคนหมู่มากต้อง รับฟัง เคารพและเห็นคุณค่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงตรัสว่า ผู้นำที่ดีควรเข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา ผู้คนในประเทศและในองค์กร ทุกคนล้วนต้องการมีส่วนร่วมกับภารกิจต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากปราศจากการรับฟังจากผู้นำอย่างเข้าถึงและเข้าใจอย่างแท้จริง งานวิจัยชี้ว่า กว่า 2 ใน 3 ของพฤติกรรมของผู้นำที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจต่อผู้อื่นได้คือ การรับฟังอย่างจริงใจและการเคารพในความแตกต่าง โดยยึดถือในหลักความเท่าเทียมและเป็นธรรม เดล คาร์เนกี แนะว่าการคำนึงถึงส่วนรวมโดยไม่ละเลยกลุ่มคนส่วนน้อย เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและจำเป็นมาก ดังนั้นผู้นำต้องคิดให้รอบด้านและครอบคลุม อาทิ การกำหนดนโยบายด้านใดด้านหนึ่งที่เอื้อประโยชน์กับคนกลุ่มนึง โดยไม่ได้คำนึงถึงกลุ่มอื่น อาจได้ความพอใจจากกลุ่มหนึ่ง แต่ขณะเดียวกันอาจสร้างความแตกแยกและความเหลื่อมล้ำในสังคมได้
4. ผู้นำที่ดีต้องมีจริยธรรม มีความโปร่งใส ซื่อสัตย์และชัดเจน
ความน่าเชื่อถือเป็นพื้นฐานของทุก ๆ ความสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นผู้นำในระดับใด เพราะความน่าเชื่อถือนำมาซึ่งความไว้ใจ การมีส่วนร่วมและความร่วมมือจากผู้อื่น งานวิจัยแบ่งความน่าเชื่อถือเป็น 2 ประเภท คือ ความน่าเชื่อถือภายในและภายนอก ความน่าเชื่อถือที่เกิดจากภายในหมายถึง ทำในสิ่งที่เชื่อ และเชื่อในสิ่งที่ทำ นั่นแสดงให้เห็นถึงความซื่อสัตย์ต่อตนเอง ไม่ใช่เป็นพวกมือถือสาก ปากถือศีล จากงานวิจัยยังระบุอีกว่ามีเพียง 30% เท่านั้น ที่เชื่อว่าผู้นำของเขาเป็นเช่นนี้ ผู้นำเหล่านี้จะหลีกเลี่ยงพฤติกรรมและคำพูดที่ขัดต่อความเชื่อที่เค้ามี ส่วนความน่าเชื่อถือภายนอกคือ ผู้นำที่ทำและพูดตามสัญญา จากงานวิจัยระบุไว้เช่นกันว่ามีเพียง 30% เท่านั้น ที่เชื่อว่าผู้นำของตนสามารถรักษาสัญญาและรักษาคำพูด เป็นที่น่าจับตาว่าจากงานวิจัยของ เดล คาร์เนกี ระบุว่าภาคพื้นยุโรป และภาคพื้นสหรัฐอเมริกาและแคนาดา เป็นกลุ่มประเทศที่ผู้คนเชื่อมั่นในตัวผู้นำและเห็นว่าการกระทำกับคำพูดสอดคล้องกันมากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับการจัดอันดับด้านความโปร่งใส ในรายงานสำรวจปัญหาคอรัปชั่นทั่วโลกปี 2560 โดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ที่ประเทศ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ และนอร์เวย์ อยู่ในอันดับที่ 2 และ3 ประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกาอยู่ในอันดับที่ 8 และ 16 ตามลำดับ ขณะที่ไทยอยู่อันดับ 96
นอกจากนั้นดร.ปรียกร ยังได้แนะเทคนิคเพิ่มเติมว่า ผู้นำที่ได้รับการยอมรับจากผู้คนและครองใจผู้คนได้ยาวนานคือผู้นำที่พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอและเป็นนักเรียนรู้ (Learning Agility and Life Long Learning) ที่พร้อมรับฟังความคิดเห็น รวมไปถึงคำติชมจากผู้อื่น ผู้นำเหล่านั้นต้องไม่ถือตนว่าตัวเองดีตัวเองเก่งแล้ว ซึ่งการคิดเช่นนี้เป็นหลุมพรางในการหยุดพัฒนาตนเองและทำให้ไม่สามารถเข้าใจในบริบทความแตกต่างของผู้คนต่างวัย ต่างชาติพันธ์และต่างความคิดได้ ยุคนี้ไม่ใช่ยุคของ "ปลาใหญ่กินปลาเล็ก" แต่เป็นยุคที่ใครปรับตัวได้ก่อนก็จะอยู่รอด ผู้นำยุคใหม่ก็เช่นเดียวกัน
WICE คว้า CGR ระดับ "ดีเลิศ" 7 ปีซ้อน ในระดับ "Top Quartile" สะท้อนผลงานธรรมาภิบาลสูงสุด
เปิดรับสมัครกองทุนโครงการ TED Market Scaling Up 2026 Batch 8 (รอบที่ 1/2569)
ไฮเออร์ ติดโผ Forbes World's Best Employers ปีที่ 9 ควบ Top Employer China 2025 สะท้อนพลังองค์กรแห่งอนาคต ที่คนอยากร่วมงานด้วยมากที่สุดในโลก
มูลนิธิเอสซีจี เปิดตัว Learn to Earn Guidebook และคอร์สเรียนออนไลน์ Learn to Earn จุดประกายการเรียนรู้ตลอดชีวิต สู่ทักษะแห่งอนาคต
ซัมซุง เปิดคอร์สยอดฮิตของคนไทย พบ AI และ Coding ขึ้นแท่นทักษะมาแรง ตอกย้ำความสำเร็จโครงการ Samsung Innovation Campus 2025
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) ร่วมกับ สถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดตัว "Green Social Enterprise Catalog"
สสวท. เดินหน้าพัฒนาศักยภาพครูวิทยาศาสตร์ เปิดอบรมหลักสูตร วิทยาศาสตร์โลกทั้งระบบ (ESS) เน้นบูรณาการ GLOBE สู่ห้องเรียน
efin Group ร่วมจัดกิจกรรม "Friday Meeting" แก่นิสิตหลักสูตร CEDT จุฬาฯ เสริมทักษะ Soft Skills และแนะแนววางแผนการเงินอย่างยั่งยืน
สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 2 จังหวัดราชบุรี สัมมนาสร้างนักจัดการ APP. Tech. ด้าน BCG เชิงพื้นที่ ครั้งที่ 3 เชื่อมโยงงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ในพื้นที่การเกษตรภาคตะวันตก