สรุปผลการประชุม 3 ฝ่าย ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ, มทร.ธัญบุรี และ AUT เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 61

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          เริ่มประชุมเวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุมวชิราวุธ กระทรวงศึกษาธิการ ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในที่ประชุม ได้กล่าวต้อนรับ Mr.Taha Macpherson เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย, Professor Nigel Hemmington Pro Vice-Chancellor Auckland University of Technology และ รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และทีมงาน ผู้ติดตามทุกท่าน พร้อมทั้งแสดงความยินดีที่ทั้ง 2 ประเทศตกลงที่จะสร้างความร่วมมือกันทางด้านการศึกษาในระดับสูง ถึงขึ้นที่จะเปิดสถาบันร่วมกันในประเทศไทย
          รมช.ศึกษาธิการ ยังกล่าวต่อไปอีกว่า ภายใต้มาตรา 44 ประเทศไทยมีความยินดีและพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการจัดตั้งศูนย์การศึกษานี้ เพื่อให้สอดคล้องกับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ภายใต้ไทยแลนด์ 4.0 เพื่อรองรับการขับเคลื่อนและมีเป้าหมายที่จะยกระดับธุรกิจในประเทศไทยให้กลายเป็นเขตเศรษฐกิจระดับโลก ด้วยที่มีความได้เปรียบทางกายภาพในหมู่ประเทศ CLMVT ซึ่งทางเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย ก็ได้กล่าวสนับสนุนตอบรับแนวคิดของ รมช.ศึกษาธิการด้วย
          จากนั้น Professor Nigel Hemminton ได้กล่าวว่า AUT นั้นถูกจัดอันดับล่าสุดอยู่ใน Top 500 ของโลก (อันดับ 350) และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมมือกับ มทร.ธัญบุรี ซึ่งมีประวัติความเป็นมาคล้ายคลึงกัน รวมไปถึงการยกระดับการศึกษาของทั้ง 2 ประเทศร่วมกัน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศนิวซีแลนด์ ที่มีการอนุญาตจากรัฐบาลนิวซีแลนด์ให้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยภายนอกประเทศ รวมถึงการอนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์ของ AUT อย่างถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วย ซึ่งทาง AUT ได้เล็งเห็นถึงเป้าหมายในระยะยาวในการที่จะให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางทางการศึกษาของ AUT ภายในเขตภูมิภาคอาเซียน (ASEAN hub) อีกด้วย
          ทางด้าน ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยเปิดโอกาสให้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยต่างประเทศในประเทศไทยได้ โดยมุ่งเน้นสาขาวิชาภายใต้ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย และมีการจัดอันดับของสาขาวิชานั้นอยู่ในลำดับไม่เกิน 100 ของโลก ก็สามารถเข้ามาจัดตั้งมหาวิทยาลัยในประเทศไทยได้ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) หรืออาจจะมีการเรียนการสอนอยู่นอกสถานที่บ้าง แต่มีการเข้าไปฝึกงาน หรืออบรมการปฏิบัติงานในสถานประกอบการจริงในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 50% ของชั่วโมงการเรียนการสอนทั้งหมดก็สามารถกระทำได้ โดยใช้หลักสูตรการเรียนการสอนทั้งหมดเหมือนกับที่ AUT ใช้สอนที่ประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งถ้าผ่านเงื่อนไขในการขอใบอนุญาตตามเกณฑ์ที่กำหนด AUT จะนับเป็นมหาวิทยาลัยต่างประเทศแห่งที่ 4 ที่ทำการเปิดการเรียนการสอนในประเทศไทย
          ต่อมา ที่ประชุมได้มีการหารือกันและได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า การดำเนินการในระยะแรกควรเน้นในเรื่องของการพัฒนาภาษาอังกฤษ และการศึกษาในระดับปริญญาโทและเอกก่อน เพราะสามารถกระทำได้อย่างมีรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนมาก อีกทั้งการให้การฝึกอบรมในระยะสั้น ระหว่าง 6 เดือน ถึง 1 ปี ก็เป็นที่ต้องการของแรงงานในประเทศเป็นอย่างมาก เพื่อพัฒนาและยกระดับคุณภาพแรงงานในประเทศไทยสู่ระดับกลางและสูงต่อไปในอนาคต โดยจุดเริ่มต้นมุ่งเน้นไปที่สาขาวิชาที่สอดคล้องกับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย และเป็นสาขาที่ AUT ได้รับการจัดลำดับอยู่ระดับต้นๆของโลก ได้แก่
          - Business and Management
          - Accounting and Finance
          - Tourism and Hospitality
          - Engineer
          - Art and Design
สรุปผลการประชุม 3 ฝ่าย ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ, มทร.ธัญบุรี และ AUT เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 61
          โดยทาง มทร.ธัญบุรี ได้มีเตรียมความพร้อมทางด้านสถานที่จัดตั้งศูนย์พัฒนาภาษาอังกฤษไว้เบื้องต้นแล้ว ณ อาคาร DD Mall เขตจตุจักร โดยขณะนี้ทาง มทร.ธัญบุรี กำลังเตรียมการพัฒนาบุคลากรเพื่อเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการศูนย์ฯดังกล่าว ซึ่งนอกจากจะมีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษแล้ว ยังมีแนวคิดที่จะจัดทำข้อสอบวัดระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษ ที่จะสามารถใช้วัดระดับภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การไปศึกษาต่อ ณ ประเทศนิวซีแลนด์อีกด้วย โดยมีแผนการที่จะเปิดให้บริการจัดการเรียนการสอนในเดือนมิถุนายน 2562 เป็นต้นไป
สรุปผลการประชุม 3 ฝ่าย ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ, มทร.ธัญบุรี และ AUT เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 61
 
สรุปผลการประชุม 3 ฝ่าย ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ, มทร.ธัญบุรี และ AUT เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 61
 
สรุปผลการประชุม 3 ฝ่าย ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ, มทร.ธัญบุรี และ AUT เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 61

ข่าวมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี+มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลวันนี้

Brand Stand Up ผนึกกำลัง มทร.ธัญบุรี สร้างธุรกิจนวัตกรรม หนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่สู่เวทีโลก

บริษัท แบรนด์แสตนด์อัพ จำกัด โดย คุณกิตติเชษฐ์ ภูมิโชติธนานันท์ ผู้ก่อตั้ง Brand Stand Up ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์นิพัทธ์ จงสวัสดิ์ คณบดี คณะวิทยาศาสตร์เทคโนโยลีและนวัตกรรม ลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่และสร้างธุรกิจนวัตกรรม ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ๖ รอบ พระชนมพรรษา โดยความร่วมมือดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อผลักดันการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่เอื้อต่อการเรียนรู้และต่อยอดสู่การทำธุรกิจจริง สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ "Creative World of

บริษัท คัมเวล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ... คัมเวล - มทร.ธัญบุรี ร่วมหารือความร่วมมือทางวิชาการและนวัตกรรม — บริษัท คัมเวล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นำโดยคุณบุญศักดิ์ เกียรติจรูญเลิศ ประธานเจ้าหน้า...

หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพ... "นวัตกรชุมชน" ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนไทยด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม — หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ร่วมกับโครงการสังเคราะห์และขับเคล...

หน่วยวิจัยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ... มทร.ธัญบุรี เจ๋ง! คิดค้นกระถางรักษ์โลกจากวัสดุชีวมวล สร้างรายได้ ลด PM 2.5 — หน่วยวิจัยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ห...

รศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด รักษาการในตำแหน่งอธิ... มทร.ธัญบุรี เผยความพร้อมก้าวไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ยืนยันไม่ขึ้นค่าเทอมนักศึกษา — รศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด รักษาการในตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโ...

รศ.ดร.พิชัย จันทร์มณี อธิการบดีมหาวิทยาลั... คณะศิลปศาสตร์ มทร.กรุงเทพ สุดยอดคว้าถ้วยรางวัลพระราชทาน กรมสมเด็จพระเทพฯ 2 ปีซ้อน — รศ.ดร.พิชัย จันทร์มณี อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.)กรุงเท...